คลี่ฆ่าข่มขืนโซ่มัด ล่าคนแคระพยานชี้มาด้วยกัน

ล่าฆาตกรฆ่าโหด-ข่มขืนสาววัยรุ่น โซ่มัดมือหมกป่าละเมาะนครชัยศรี ตร.สืบพยานสงสัยเป็นคนแคระสวมหมวกแก๊ปที่เหยื่อเรียก "อา" ทั้งคู่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ และทะเลาะกันมาตลอดทาง ก่อนที่จะลงจากรถโดยสารแล้วหายเข้าไปในป่า ผู้การฯนครปฐม ตั้งรางวัล 5 หมื่นบาทสำหรับคนแจ้งเบาะแส โดยเฉพาะแท็กซี่สีน้ำเงิน-แดงที่รับคนแคระต้องสงสัย จากฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุเข้ากทม.

จากกรณีหญิงสาวนิรนามถูกฆ่าเปลือยทิ้งศพอยู่ในป่าละเมาะข้างทางริมถนนเพชรเกษม ในซอยจัดสรรทหารบก หมู่ที่ 4 ต.ท่าตำหนัก อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ก่อนมีคนไปพบเมื่อวันที่ 22 ม.ค. ลักษณะศพเป็นหญิงผิวขาว หน้าตาดี อายุประมาณ 20-25 ปี ลำคอมีร่องรอยถูกรัด ส่วนที่ข้อมือถูกมัดกับโซ่เหล็กและคล้องกุญแจ แพทย์ตรวจพิสูจน์พบมีร่องรอยถูกข่มขืน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 23 ม.ค. พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผบก.ภ.จว.นครปฐม เดินทางไปยังสภ.อ.นครชัยศรี เพื่อฟังการบรรยายสรุปการสืบสวนหาข้อมูลผู้ตายและญาติ รวมทั้งพยานที่เห็นเหตุการณ์ก่อนและหลังพบศพ โดยมี พ.ต.อ.บุญส่ง อัตวรอนันต์ ผกก.สภ.อ.นครชัยศรี, พ.ต.ท.วิโรจน์ เหมือนแท้ สว.สส., พ.ต.ท.กันตพิชญ์ กฤตวงศ์วิมาน รอง ผกก.ป., พ.ต.ท.สมเกียรติ แสวงสุข รองผกก.กสส.ภ.จว.นครปฐม, พ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม สว.กสส.ภ.จว.นครปฐม ร่วมฟังและสรุปผลการสืบสวนหาข่าวเกี่ยวกับเหตุ โดยใช้เวลาประมาณ 45 นาที

ต่อมา พล.ต.ต.โสภณได้สั่งให้ท้องที่ตั้งทีมสืบสวนร่วมกับทีมกสส.ภ.จว.นครปฐม โดยมี พ.ต.ท.สมเกียรติ แสวงสุข และพ.ต.ท.ปรีชา ทิมหอม รับผิดชอบโดยร่วมกันหาข่าวคนแคระ จากที่พยานอีก 1 ปากที่เห็นมากับผู้ตายก่อนพบศพ และรถยนต์แท็กซี่สีน้ำเงิน-แดง ที่รับคนแคระจากฝั่งตรงข้ามจุดพบศพเข้ากทม. ช่วงเวลาประมาณ 11.00-12.00 น. วันที่ 22 ม.ค. หลังเกิดเหตุ

พล.ต.ต.โสภณ เปิดเผยความคืบหน้าว่า หลังจากได้เข้าฟังการสรุปความคืบหน้าของท้องที่ เราได้พยานอีกหนึ่งปากที่เห็นผู้ตาย โดยพยานดังกล่าวให้ข้อมูลสอดคล้องกับพยานที่ให้ข้อมูลกับตำรวจขณะตรวจที่เกิดเหตุและชัดเจนขึ้นว่า สาวผู้ตายลงมาจากรถโดยสารสีส้มสายกทม.-เพชรบุรี โดยลงมาพร้อมกับชายร่างแคระ สวมหมวกแก๊ป ไม่ยืนยันเสื้อผ้า

แต่ยืนยันว่าเป็นหญิงสาวผิวขาวหน้าตาดีแก่งกายด้วยชุดกระโปรงพลิ้วสีขาว เสื้อตัวในสีเดียวกับกระโปรง สวมทับด้วยเสื้อแขนกุดพื้นเหลืองริมขาว สะพายกระเป๋าสีชมพู ซึ่งตรงกับที่พบข้างศพในป่าละเมาะ โดยพยานปากสำคัญบอกอีกว่า เห็นทั้งคู่พากันเดินเข้าไปในป่าละเมาะก็ไม่คิดอะไรคิดว่าอาจเข้าไปปลดทุกข์ จนเวลาผ่านไปประมาณ 1 ชั่วโมง ก็เห็นชายร่างแคระเดินออกมาคนเดียวแล้วข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม ขึ้นแท็กซี่สีน้ำเงิน-แดงมุ่งหน้าเข้ากทม.ไป

พล.ต.ต.โสภณ กล่าวต่อว่า เมื่อได้ข้อมูลจากพยานคนสำคัญ เชื่อได้แน่ชัดว่า คนร้ายน่าจะเป็นคนร่างแคระ และเมื่อข้อมูลชัดขึ้นจากที่ว่าลงจากรถโดยสารสาย นครปฐม-กทม.สีส้ม เป็นรถโดยสารสายเพชรบุรี-กทม.สีส้ม ทีมสืบสวนจึงได้ไปหาข่าวเกี่ยวกับรถโดยสารสายเพชรบุรี-กทม.สีส้มที่วิ่งผ่านจุดพบศพออกจากกทม.ช่วงเวลา 10.00 น.ในที่สุดก็ได้เบาะแสรถโดยสารคันดังกล่าว เมื่อชุดสืบสวนเข้าหาข่าวจากพนักงานประจำรถทราบว่า มีผู้โดยสารเป็นหญิงสาวผิวขาวหน้าตาดีแต่งกายด้วยชุดเสื้อผ้าตรงกับสาวนิรนามที่พบเป็นศพ ลงมาจากรถโดยสารขสมก.แล้วมาขึ้นรถโดยสารสายเพชรบุรี-กทม.โดยมากับชายร่างแคระ ซึ่งหญิงสาวเรียกว่า อา

"ระหว่างทางจากขนส่งสายใต้ปิ่นเกล้า ทั้งคู่ทะเลาะโต้เถียงกันมาเกือบตลอดทาง กระทั่งลงจากรถที่ปลายทางลง ต่างระดับท่าตำหนัก จากข้อมูลปากคำพยานพนักงานประจำรถโดยสารสายเพชรบุรี-กทม.และพยานที่เห็นผู้ตายและชายร่างแคระลงจากรถเดินเข้าไปในป่าละเมาะนานนับชั่วโมง แล้วชายร่างแคระก็เดินออกมาจากในป่าคนเดียว ออกไปนั่งแท็กซี่ น้ำเงิน-แดงจากฝั่งตรงข้ามจุดพบศพเข้ากทม.ทำให้ตำรวจได้เบาะแสคนร้ายในระดับหนึ่ง" พล.ต.ต.โสภณ กล่าว

ผบก.ภ.จว.นครปฐม กล่าวด้วยว่า เรายังต้องการพยานที่เป็นคนขับรถแท็กซี่น้ำเงิน-แดง ที่รับชายร่างแคระขึ้นรถเข้ากทม.เมื่อช่วงเวลาประมาณ 11.00-12.00 น.วันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ขอให้ประสานแจ้งข้อมูลมาที่ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ได้ตลอดเวลาที่หมายเลข 081-812-9282 จนสามารถทำให้สืบหาไปถึงชายร่างแคระได้ยินดีจ่ายรางวัลให้ 5 หมื่นบาท