ฝรั่งเหยื่อรปภ.บีทีเอสตื้บพบตร.ยันไม่ได้ต่อยยามก่อนแน่

ฝรั่งเหยื่อรปภ.บีทีเอสตื้บพบตร.ยันไม่ได้ต่อยยามก่อนแน่

ครูสอนภาษาถูก "รปภ.บีทีเอส" ทำร้ายพร้อมเมีย

หอบเสื้อลูกสาวเปื้อนเลือด-ลูกโป่งพบตำรวจ เมียยอมรับมีปากเสียงจริงแต่ไม่ได้ทำร้ายใครก่อน เผยผู้บริหารบีทีเอสโทรติดต่อขอโทษ พร้อมเยียวยาสภาพจิตใจลูกสาว ขณะที่ตร.ระบุต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ รอผลตรวจร่างกาย-สอบปากคำ รปภ. ก่อนสรุปผล

ที่สน.ทองหล่อ เมื่อเวลา 20.00 น.วันที่ 22 มีนาคม  นายจอห์น บีฮัน อายุ 37 ปี ครูสอนภาษาชาวไอร์แลนด์

ซึ่งถูก รปภ.สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอสพร้อมพงษ์ทำร้ายร่างกายเนื่องจากไม่อนุญาตให้นำลูกโป่งขึ้นรถไฟฟ้า เมื่อวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ รักสลาม ผกก.สน.ทองหล่อ โดยมีนางพัชรมาศ ภู่ศรี ซึ่งเป็นภรรยาหอบหลักฐานเป็นลูกโป่ง  4 ใบ ประกาศนียบัตรจบการศึกษาชั้นอนุบาล 3 โรงเรียนอนุบาลปล่งประสิทธิ์ของบุตรสาว เสื้อผ้าเปื้อนเลือดที่สวมใส่ในวันเกิดเหตุและหลักฐานจำนวนหนึ่งมายืนยันความบริสุทธิ์ด้วย

นางพัชรมาศ กล่าวกับผู้สื่อข่าวก่อนพาสามีเข้าให้ปากคำกับตำรวจว่า ขอยอมรับว่าวันเกิดเหตุมีปากเสียงกับเจ้าหน้าที่ รปภ.บีทีเอสจริง

แต่ไม่ได้ลงมือทำร้ายใครก่อน ส่วนที่ประชาชนเห็นในคลิประหว่างที่สามีลงมือลงไม้กับทาง รปภ.สถานีรถไฟฟ้านั้น เป็นภาพหลังจากที่สามีตนถูกตีด้วยเครื่องสแกนโลหะก่อนแล้วจึงเกิดความโกรธ อยากให้สังคมเข้าใจฝ่ายตนด้วยโดยขณะนี้ตำรวจมีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟฟ้าพบว่ากล้องจับภาพ รปภ.หลายคนรุมทำร้ายร่างกายสามีตนบริเวณโซนรอรถไฟฟ้าแต่ภาพดังกล่าวไม่สามารถเปิดเผยได้ ตั้งแต่เกิดเรื่อง


"เพิ่งได้รับการติดต่อจากผู้บริหารของบีทีเอส บอกขอโทษและพร้อมเยียวยาสภาพจิตใจให้ครอบครัวโดยเฉพาะลูกสาวที่เห็นเหตุการณ์พ่อถูกทำร้ายตั้งแต่ต้น แต่กลับไม่ได้พูดว่าจะรับผิดชอบเรื่องที่ได้รับบาดเจ็บอย่างไร ทั้งที่สามีถูกทำร้ายจนเย็บที่คิ้ว 4 เข็ม และกลางศีรษะ 6 เข็ม รวมกันถึง 10 เข็ม " นางพัชรมาศกล่าวและว่า


ตนพาสามีเดินทางเข้าพบ ผกก.สน.ทองหล่อ และให้ปากคำกับ ร.ต.อ.ธนาณุวัฒน์ สิทธิไชย พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.ทองหล่อ

ซึ่งเป็นเจ้าของคดีโดยมีการนำประกาศนียบัตรจบการศึกษาของลูกสาวมายืนยัน พร้อมทั้งนำลูกโป่งจำนวน 4 ใบ ที่ไม่ใช่ลูกโป่งแบบอัดแก็สมาให้พนักงานสอบสวนดูด้วยเนื่องจากข้อเท็จจริงคือทางโรงเรียนไม่ได้ใช้ลูกโป่งที่เป็นอันตรายแบบนั้นมาแจกเด็กๆ โดยหลังเกิดเรื่องสามียังรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะไม่ทราบมาก่อนว่าห้ามนำลูกโป่งขึ้นรถไฟฟ้า ประกอบกับโดยสารมาตั้งแต่ต้นทางขึ้นๆ ลงๆ หลายสถานีก็ไม่ได้ถูก รปภ.ห้ามนำเข้า จนกระทั่งมาถูกขัดขวางบริเวณสถานีพร้อมพงษ์ตรงจุดเกิดเหตุ


"สำหรับข้อซักถามว่าจะทำอย่างไรต่อไปอีกหรือจะสามารถประนีประนอมกับคู่กรณีได้หรือไม่  ดิฉันขอคุยกับพนักงานสอบสวนและหลายๆ ฝ่ายก่อนหาข้อสรุปที่ดีที่สุดต่อไป "นางพัชรมาศ ระบุ


ด้าน พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ กล่าวว่า ได้นัดหมายนายจอห์นมาพบเพื่อสอบถามรายละเอียดในเชิงลึกทั้งหมดตั้งแต่ก่อนขึ้นรถไฟฟ้า

โดยจะพิจารณาว่าแต่ละช่วงเวลามีเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างไร ส่วนหลักฐานเกี่ยวกับภาพกล้องวงจรปิดนั้นตนดูแล้ว เห็นว่าต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่คือฝ่ายหนึ่งทำหน้าที่พ่อที่ดี ส่วนอีกฝ่ายก็เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ต้องการรักษากฎระเบียบเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารรายอื่นๆ แต่เรื่องที่เกิดขึ้นเนื่องจากอาจมีการสื่อสารผิดพลาด ทั้งนี้ขั้นตอนการสอบปากคำของพนักงานสอบสวนยังต้องดำเนินต่อไป


"หลังจากนี้ต้องดูที่องค์ประกอบสำคัญ อาทิ อาวุธที่คู่กรณีใช้ จำนวนครั้งที่กระทำ และผลสรุปความเห็นจากแพทย์ รพ.ตำรวจ ผู้ให้การรักษานายจอห์น ซึ่งยังไม่ได้ส่งมานอกจากนี้ยังต้องรอสอบปากคำ นายประสาน ถาวงษ์กลาง อายุ 31 ปี รปภ.คู่กรณีซึ่งกำลังติดต่อให้เข้ามาพบเพื่อแจ้งข้อหาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป " พ.ต.อ.รัฐศักดิ์ ระบุ



เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์