ทพ.26 ยันแฝดปทุมไม่ใช่ทหารพราน ศิริชัยเตรียมฟ้องกลับ

ทพ.26 ยันแฝดปทุมไม่ใช่ทหารพราน ศิริชัยเตรียมฟ้องกลับ

วันนี้ ( 12 มี.ค.)   พ.อ.ศิริชัย สร้อยแสน นายทหารพระธรรมนูญ กองบัญชาการกองทัพไทย

ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีที่มีลายเซ็นต์ตนเองอยู่บนบัตรประจำตัวทหารพรานสังกัดหน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 26 ที่เคยออกให้ฝาแฝดผู้ต้องหาคดีทำร้ายร่างกาย อ.วรเจตน์ ภาคีรัตน์ แกนนำกลุ่มนิติราษฎร์ว่า วันนี้ตนได้รับเอกสารที่เป็นส่วนของบัตรที่เป็นปัญหาว่าเป็นชื่อของตนเป็นผู้ออกบัตรให้ แต่ตนดูแล้วไม่พบว่า มีรายชื่อของตนแต่อย่างใด มีเพียงลายเซ็นเท่านั้น   ซึ่งลายเซ็นในบัตรไม่ใช่ของตนแน่นนอน ทั้งนี้ตนจะนำเอกสารที่ได้นำเขียนรายงานถึงผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นต่อไป


นอกจากนี้ตนได้โทรศัพท์สอบถามพนักงานสอบสวนในคดีนี้แล้วเพื่อติดต่อให้ทนายเข้าไปขอเอกสารต่างๆที่ทางผู้ต้องหานำไปขออนุญาติครอบครองอาวุธปืน (ป.4)
 
ซึ่งทางพนักงานสอบสวนแจ้งมาว่า ได้นำเอกสารทั้งหมดยื่นต่อศาลเพื่อขอให้ศาลยกเลิกเพิกถอน ใบ ป.4 อยู่ หากเสร็จสิ้นแล้วก็จะแจ้งให้ทราบ ตนขอยืนยันว่า ไม่เคยรู้จักทั้งสองคนมาก่อน แต่เขาจะรู้จักกับลูกน้องตนคนไหนหรือไม่ ตนไม่รู้ แต่ตนไม่อยากไปเป็นคนกลางให้กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง หรือดึงตนเข้าไปเกี่ยวข้องกับการเมือง ตนกำลังให้ทนายดูอยู่ว่า เกี่ยวข้องกับตนตรงไหน และเข้าข่ายอย่างไรเพราะเท่าที่ดูไม่พบว่า มีชื่อตนปรากฏอยู่ในบัตรประจำตัว เป็นเพียงผู้ต้องหาพูดออกมาเท่านั้น         
    

ด้านพ.อ.ณัฎฐ์ ศรีอินทร์ ผบ.หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่ 26 กล่าวว่า จากผลการตรวจสอบพบว่า

ทั้งสองคนไม่เคยเป็นอาสาสมัครทหารพรานในหน่วยแต่อย่างใด ซึ่งถือว่า การสอบสวนในส่วนของหน่วยทหารพรานที่ 26 จบแล้วโดยตนได้ทำหนังสือผลการตรวจสอบถึงผู้บัญชาการทหารบก 2 ข้อ คือ  1.ตรวจสอบแล้วพบว่าบุคคลทั้ง 2 คนไม่ใช่ทหารพราน และ 2.ขณะนี้ พ.อ.ศิริชัย ไม่ใช่กำลังพลของกรมทหารพรานที่ 26 แต่เคยรับราชการที่หน่วยทหารพรานที่ 26 ตั้งแต่ปี2529-2532 จากนั้นได้ไปรับราชการที่กองบัญชาการกองทัพไทย


โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันว่า บัตรประจำตัวทหารพรานที่ออกให้เป็นปี2551 แต่ขณะนั้นพ.อ.ศิริชัย ได้ย้ายมาอยู่ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ดังนั้นจึงไม่เกี่ยวข้องกับกองทัพแต่อย่างใด ซึ่งจากการพูดคุยกับพ.อ.ศิริชัย เขายืนยันว่า ไม่รู้จักทั้งสองคน แต่เป็นการแอบอ้าง ซึ่งทางพ.อ.ศิริชัยจะรวบรวมหลักฐานเพื่อดำเนินการต่อไป
       


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์