ผบช.น. เผย “ร.ต.อ.เฉลิม” สั่งคุมเข้มที่พักชาวตะวันออกกลาง

ผบช.น. เผย “ร.ต.อ.เฉลิม” สั่งคุมเข้มที่พักชาวตะวันออกกลาง กำชับทุก สน.ประสานเจ้าของเกสต์เฮ้าส์-คอนโด พร้อมประสานตำรวจท่องเที่ยว สอดส่องเชียงใหม่-พัทยา-ภูเก็ต เผยผู้ต้องหาบึ้มกรุงมี 6 คน
 
พล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าพบ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง  รองนายกรัฐมนตรี เกือบ 2 ชั่วโมง ว่า

  ร.ต.อ.เฉลิม ได้สั่งการให้ทุกหน่วยที่รับผิดชอบพยายามหาทางในการสืบสวนหาข่าวและป้องกัน ไม่ให้มีชาวต่างชาติเข้ามาก่อเหตุในประเทศไทย  ซึ่งขณะนี้ทางนครบาลได้สั่งการไปยัง สน.ทุกท้องที่ ให้ไปประสานกับเจ้าของอาคารที่พัก ที่มีชาวต่างชาติเข้ามาพัก ไม่ว่าจะเป็นเกสต์เฮ้าส์ หรือคอนโดมีเนียม ว่าให้ขอชื่อชาวต่างชาติที่เข้าพักไว้  โดยตำรวจจะเข้าไปสอดส่องดูแลพฤติกรรม โดยเน้นเฉพาะชาวตะวันออกกลาง เน้นพื้นที่ย่านนานา และทองหล่อ เพราะมีชาวตะวันออกกลางอยู่จำนวนมาก

ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า ได้ประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว
 
ให้เข้าไปสอดส่องดูแลและหามาตรการป้องกันสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชาวต่างชาติ โดยเฉพาะที่มีชาวตะวันออกกลางไปเที่ยว ไม่ว่าจะเป็น จ.เชียงใหม่ พัทยา ภูเก็ต  อย่างไรก็ตามขณะนี้ ยังไม่ทราบว่ามีชาวตะวันออกกลางเข้ามาอยู่ในประเทศไทยจำนวนเท่าใด แต่วันนี้ (20 ก.พ.) จะให้ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (สตม.) ตรวจสอบตัวเลขทั้งหมด

พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ทาง ตม.ได้รายชื่อผู้ต้องหาคดีวางระเบิดย่านสุขุมวิท 71 รายที่ 5 เรียบร้อยแล้ว
 
ซึ่งศาลได้ออกหมายจับเป็นรูปภาพตามพยานหลักฐานพบว่าเป็นคนที่เข้าไปคอยดูแลบ้านที่พัก แต่ไม่ใช่เป็นคนประกอบวัตถุระเบิดตามที่สื่อเสนอข่าว ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ได้ออกไปจากบ้านที่เกิดเหตุตอน 07.00 น. อย่างไรก็ตามจากข้อมูลเบื้องต้น ผู้ต้องหารายนี้ไม่อยู่ในประเทศไทยแล้ว เชื่อว่าเดินทางกลับไปยังประเทศอิหร่าน เดินทางออกไปตั้งแต่ช่วงเช้าวันที่ 14 ก.พ. ซึ่งเป็นวันที่เกิดเหตุแล้ว 

เมื่อถามว่าทางการไทยสามารถขอตัวมาดำเนินคดีจากรัฐบาลอิหร่านได้หรือไม่ พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า

ขณะนี้ยังไม่มีกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน   เมื่อถามว่าผู้ต้องหารายที่ 5 เชื่อมโยงกับรถมอเตอร์ไซค์ป้ายทะเบียนอ่างทองหรือไม่  พล.ต.ท.วินัย กล่าวว่า ยังไม่เชื่อมโยง แต่เชื่อมโยงคนอื่น ส่วนบ้านพักซอยสุขุมวิท ไม่ใช่สถานที่ใช้ประกอบวัตถุระเบิด  ซึ่งสถานที่ประกอบวัตถุระเบิดจะอยู่ใน กทม.หรือไม่นั้น ยังไม่แน่ใจ กำลังตรวจสอบอยู่

“กลุ่มที่เคลื่อนไหวเบื้องต้นมี 6 คน สำหรับผู้ต้องหารายที่ 6 นั้น ยังไม่ทราบชื่อ แต่เชื่อว่าทั้งคนที่ 5 และคนที่ 6 กลับประเทศไปหมดแล้ว เป็นผู้ชายทั้งคู่ ถ้าสามารถระบุตัวบุคคลได้ และระบุพฤติกรรมเข้ามาเกี่ยวข้องได้  ก็สามารถออกหมายจับได้ อย่างไรก็ตามในเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าเบื้องหลังของการก่อเหตุเป็นฝีมือกลุ่มไหน เพราะผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ” พล.ต.ท.วินัย กล่าว

ต่อข้อถามว่ามีการพูดถึงกลุ่มอิหร่าน Revolution เข้าไปเกี่ยวข้อง พล.ต.ท.วินัย  กล่าวว่า
 
มีการเอามาต่อกันโดยที่ไม่มีพื้นฐานมาจากทางคดี แต่ข้อมูลที่ตนพูดมาจากพื้นฐานข้อเท็จจริงเป็นหลัก อย่างไรก็ตามไม่มีใครสามารถตอบได้ว่า จะมีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีกหรือไม่  แต่ต้องพยายามป้องกันให้ดีที่สุด ขณะนี้นโยบายด้านการท่องเที่ยวกับความมั่นคงไปด้วยกันไม่ได้ .- สำนักข่าวไทย