ชูวิทย์แฉแหล่งค้ากามรับวาเลนไทน์

ชูวิทย์แฉแหล่งค้ากามรับวาเลนไทน์

นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้แถลงข่าวในชื่อ "ทาสกามอารมณ์ ต้อนรับวันวาเลนไทน์"ซึ่งเป็นขบวนการค้าประเวณีรายใหญ่ของประเทศ และมีผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลัง

สำหรับข้อมูลที่นำมาแถลงเป็นภาพถ่ายและคลิปวิดีโอ

ซึ่งเป็นรูปแบบของขบวนการค้ามนุษย์ หรือขบวนการค้ากามในรูปแบบใหม่ในพื้นที่กทม.และตามหัวเมืองใหญ่ และเปิดเผยรายชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งจะเปิดชื่อและนามสกุลจริงของกลุ่มขบวนการ

 "การแถลงข่าวในหัวข้อดังกล่าว เพื่อกระตุ้นให้เห็นว่าในช่วงใกล้เทศกาลวันแห่งความรัก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นการค้ากาม เป็นปัญหาสังคมที่รุนแรง โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของโรคเอดส์ ที่มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น" นายชูวิทย์ กล่าวและว่า

ทั้งนี้แหลงขายบริการทางเพศดังกล่าวอยู่บริเวณถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ซึ่งเป็นบ้านและห้องแถว
 
โดยมีนักธุรกิจและนักการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้อง  ซ่องตึกแถวที่เปิดให้บริการอยู่ย่านสำโรง และซ่องรีสอร์ทที่เปิดอยู่ย่านรามอินทรา จึงอยากเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรี ออกมาแก้ไขปัญหาในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะหลายประเทศกำลังจับตามองเรื่องการค้าประเวณีในประเทศไทย โดยวันที่13 ก.พ.เวลา 10.00 น. สถานทูตสหรัฐอเมริกาได้เชิญตนเองไปให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ด้วย
            
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคลิปวิดีโอที่ชูวิทย์นำมาเปิดนั้น ได้มีการไปถ่ายตามสถานที่ต่างๆที่นายชูวิทย์ระบุว่ามีการค้ากาม 

เช่นซอยแห่งหนึ่งที่ระบุว่าอยู่ใจกลาง  กทม. โดยในคลิปอ้างว่าเป็น "ซ่องห้องแถว" ซึ่งกลางวันมีลักษณะเป็นร้านขายของธรรมดา แต่กลางคืนก็เปิดเป็นร้านคาราโอเกะ รวมไปถึงห้องแถวธรรมดา แต่มีผู้หญิงนุ่งน้อยห่มน้อยนั่งรออยู่ โดยมีกลุ่มคนคอยโบกรถเรียกให้เข้าไปใช้บริการ  นอกจากนี้ยังมีคลิปการเจรจากับแม่เล้าด้วย   ต่อมาในคลิปยังระบุว่ามีสถานบริการลักษณะรีสอร์ท ที่เป็นที่พักแต่ก็มีลักษณะการค้าบริการทางเพศประกอบด้วย ทั้งนี้ยังมีภาพหญิงค้าบริการยืนอยู่ริมถนนด้วย

ทั้งนี้เอกสารประกอบการแถลงข่าวที่นายชูวิทย์นำมาเปิดเผยนั้นระบุว่า โครงสร้างกระบวนการค้ามนุษย์ มีพัฒนาการหลายรูปแบบ
 
กลุ่ม คลับบาร์ คอกเทลเล้าจ์ คาราโอเกะ กลุ่มโรงแรม ซ่อง โสเภณีข้างถนน กลุ่มอาบอบนวด นวดแผนโบราณ สปา กลุ่มนางโทรศัพท์ ไซด์ไลน์ รีสอร์ท และโสเภณีต่างชาติ และมีเครือข่ายทั้งนักธุรกิจ ร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐ และร่วมนักการเมือง ซึ่งจะเป็นกลุ่มธุรกิจเพศพาณิชย์ขนาดใหญ่ โดยสัดส่วนรายได้กลุ่มธุรกิจเหล่านี้สูงกว่า 200,000 ล้านบาทต่อปี หรือเทียบเท่า เกือบ 10 % ของงบประมาณรายจ่ายประเทศไทย ซึ่งรายได้อันดับ 1 คือ นวดแผนโบราณ 38,447 ล้านบาท , ที่ 2 บาร์เบียร์ 28,520 ล้านบาท , ที่ 3 อาบ อบ นวด 27,884 ล้านบาท , ที่ 4 คาราโอเกะ 20,112 ล้านบาท , ที่ 5 ซ่อง 18,775 ล้านบาท และที่ 6 ธุรกิจอื่น 66,262 ล้านบาท โดยมีรายได้เฉลี่ยต่อหัวต่ำสุด ประมาณ 35,000 บาท สูงสุด 125,000 บาท 
    
นอกจากนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวถึงเรื่องบ่อนพนันเพิ่มเติมด้วยว่า จากการตรวจสอบพบว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ย่าน ซ.กิ่งเพชร 4 และ 6 ยังมีการเล่นพนัน ชั้นล่าง 5 โต๊ะ ชั้นบน 10 โต๊ะ ตนขอท้าให้ พ.ล.ต.ท.วินัย ทองสอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบช.น. ไปตรวจสอบดูพร้อมดำเนินการ


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์