กะเหรี่ยงแสบเจาะเซฟลักทรัพย์นายจ้าง-เชิด 2 ล. ลอยนวล

กะเหรี่ยงแสบเจาะเซฟลักทรัพย์นายจ้าง-เชิด 2 ล. ลอยนวล

กะเหรี่ยงแสบเจาะเซฟลักทรัพย์นายจ้าง-เชิด 2 ล. ลอยนวล

โดย ทีมข่าวอาชญากรรม ผู้จัดการออนไลน์ 23 กุมภาพันธ์ 2549 01:09 น.

สาวใช้กะเหรี่ยงแสบ พาโจ๋ขึ้นห้องนอนนายจ้าง ที่มีคุณย่าวัย 90 เฝ้าบ้านลำพัง ก่อนใช้หินเจียเจาะเซฟลักทรัพย์ ได้ทองหนักร่วม 100 บาท- นาฬิกา-เงินดอลล่าร์ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้าน แล้วพากันซ้อนจยย.รับจ้างหนีลอยนวล ด้านเจ้าของบ้านเชื่อ คนร้ายเตรียมการโจรกรรมล่วงหน้า ขณะที่ตำรวจสเก็ตภาพเตรียมล่าตัวดำเนินคดี

เมื่อเวลา 21.30 น. วานนี้ (22 ก.พ.49) พ.ต.ท.ธนภูมิ สินธวาชีวะ ได้รับแจ้งจากนางพรลัดลัด กีรติกวินการย์ อายุ 36 ปี อยู่บ้านเลขที่ 50/66 หมู่บ้านสิรินดา ซ.บางกระดี่ 34 แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน ว่าถูกสาวใช้ชาวกะเหรี่ยงเจาะตู้เซฟ ขโมยทรัพย์สินไปมูลค่ารวมกว่า 2 ล้านบาท จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ก่อนรุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ตั้งอยู่ในพื้นที่ประมาณ 80 ตร.วา ภายในห้องนอน ชั้น 2 ที่บริเวณปลายเตียง พบตู้เซฟ ยี่ห้อคิงคอง ขนาดสูง 36 นิ้ว กว้าง 20 นิ้ว ถูกคนร้ายใช้หินเจียเจาะตู้เซฟ เป็นรูรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนาด 12 คูณ 16 นิ้ว โดยมีเศษหินเจียหักอยู่ 3 อัน ปลั๊ก 3 ตา และฆ้อนปอนด์อีก 1 อัน นอกจากนี้ยังพบทรัพย์สินถูกรื้อค้นกระจัดกระจายกองอยู่เต็มพื้น จากการตรวจสอบ ปรากฏว่า มีทรัพย์สินที่ถูกขโมยไปประกอบด้วย ทองรูปพรรณน้ำหนัก 80 บาท ,เครื่องประดับพลอย บุษราคัม, นาฬิกาแบรนด์เนม ทั้งหญิงและชายกว่า 10 เรือน, และเงินดอลล่าร์ ยูเอส 5,000 , เงินยูโร 5,000 เงินดอลล่าร์ฮ่องกงอีก 12,000 รวมทรัพย์สินที่หายไปครั้งนี้กว่า 2 ล้านบาท

นางพรลัดดา กล่าวว่าตนและสามีเป็นเจ้าของบริษัท บางกอก เจอร์นี่ย์ จำกัด ซึ่งเป็นเอเย่นต์รับจองทัวร์และขายตั๋วเครื่องบิน โดยเมื่อประมาณวันที่ 6 ก.พ. ที่ผ่านมา ตนได้รับน.ส.ฝน หรือหมูตอน อายุ 37 ปี สัญญาติกะเหรี่ยงเข้ามาทำงานบ้าน โดยผ่านบริษัทจัดหางาน ชื่อ บ.รุ่งแสงเทียน จำกัด โดยน.ส.ฝนเข้ามาอยู่นั้นมีเพียงเสื้อผ้ามา 2 ชุดเท่านั้น ต่อมาเมื่อวันอาทิตย์ที่ 19 ก.พ.ที่ผ่านมา น.ส.ฝนได้ขออนุญาตตนออกไปข้างนอก โดยอ้างว่าจะไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านพี่สาวย่านบางพลี จ.สมุทรปราการ โดยขากลับน.ส.ฝนนั่งแท็กซี่ มาและให้แท็กซี่โทรศัพท์มาถามทางกลับบ้านจากตนตลอดทาง เมื่อมาถึงยังได้ให้แท็กซี่รอและมาขอเงินค่าแท็กซี่จากตน โดยตนได้ให้ไปจำนวน 500 บาท

นางพรลัดดา กล่าวต่อว่า จนกระทั่งวันเกิดเหตุ ตนและสามีได้ออกไปทำงานกันที่บริษัทตั้งแต่ช่วงเช้า ส่วนลูกชายได้ไปโรงเรียน โดยปล่อยให้ นางกี่หยู แซ่แต้ อายุ 90 ปี แม่ของสามี ซึ่งมีอาการหลงๆ ลืมๆเฝ้าบ้านอยู่กับคนรับใช้เพียง 2 คน ต่อมาลูกชายตนได้กลับมาบ้านก่อนและโทรศัพท์ไปบอกเมื่อเวลา 17.00 น. ว่า คนรับใช้ไม่อยู่บ้าน ตน่จึงรู้สึกแปลกใจและได้บอกลูกไปว่า ให้ปิดบ้านไว้ก่อน และตนได้รีบกลับบ้านมาดู ตรวจสอบพบว่าภายในห้องนอนถูกคนร้ายเจาะตู้เซพโจรกรรมทรัพย์สินไปหลายรายการดังกล่าว

นางพรลัดดา เล่าอีกว่า ต่อมาจึงได้มาสอบถามจากแม่สามี ก็ได้บอกว่า ขณะเกิดเหตุเห็นน.ส.ฝนได้พาผู้ชายอายุประมาณกว่า 20 ปี เดินเข้ามาทางห้องครัวหลังบ้าน ก่อนที่ทั้งคู่จะหายขึ้นไปบนชั้นที่สอง สักพักก็ลงมาพร้อมกับหิ้วกระเป๋าออกมาคนละใบ จากนั้นทั้งคู่ก็เรียกมอเตอร์ไซด์รับจ้างซ้อนออกไปนอกหมู่บ้าน โดยที่ไม่มีรปภ.ตรวจสอบ ซึ่งการรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านน่าจะต้องเข้มงวดมากกว่านี้

"เชื่อว่าคนร้ายที่ขโมยทรัพย์สินครั้งนี้ ไม่ใช่ใครต้องเป็นน.ส.ฝน หรือหมูตอนนี้แน่นอน โดยได้ไปพาผู้ชายซึ่งตนไม่ทราบว่าเป็นใครเข้ามาช่วยกันเจาะตู้เซพ และคงมีการเตรียมการณ์ล่วงหน้ากันไว้เป็นอย่างดี ซึ่งตนสงสัยตั้งแต่ที่ให้แท็กซี่โทรมาถามทางตลอดเวลาแล้ว โดยอยากให้คนที่พบเห็นช่วยแจ้งเบาะแสด้วย โดยน.ส.ฝนมีรูปร่างท้วม ผิวสองสี สูงประมาณ 162-164 ซม. พูดภาษาไทยได้ชัดเจน และที่สำคัญเป็นคนที่มีกลิ่นตัวค่อนข้างแรงมาก" นางพรลัดดา กล่าว

ทางด้านเจ้าหน้าที่จากกองพิสูจน์หลักฐาน ได้ทำการเก็บหลักฐานเป็นลายนิ้วมือแฝง และนำกล่องเครื่องประดับไปทำการอบและตรวจพิสูจน์ในห้องปฏิบัติการ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ทำการสเก็ตภาพคนร้าย พร้อมกับประสานชุดสืบสวนลงพื้นที่เพื่อติดตามตัวน.ส.ฝนมาทำการสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์