ปวส.รักคุดยิงโหด ฆ่านศ.สาว ใส่ซาเล้งทิ้งศพ

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 14 ม.ค.


ร.ต.ท.โตมร ถนอมชาติ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.โชคชัย รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า ได้ช่วยเหลือเด็กหญิงถูกทำร้ายโดยการใช้สายไฟมัดตามร่างกายแล้วยัดใส่กล่องกระดาษนำไปทิ้งไว้ในป่าหญ้าหลังหมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 ซอย 213 ถนนเกษตร-นวมินทร์ แขวงจรเข้บัว เขตลาดพร้าว กทม. จึงรุดไปตรวจสอบพบคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.พระมงกุฎเกล้าแล้ว

ทราบชื่อภายหลัง ด.ญ.นิสารัตน์ หรือน้องอ้อม แวงวรรณ อายุ 11 ขวบ นักเรียนชั้น ป.6 โรงเรียนรุจิเสรี อยู่บ้านเลขที่ 156/71 ซอยพหลโยธิน 8 แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กทม.

มีบาดแผลโดนของแข็งทุบบริเวณท้ายทอยแตกเป็นแผล 4 แห่ง

ด.ญ.นิสารัตน์ยังอยู่ในอาการตื่นตระหนกลำดับเรื่องราวระทึกที่เกิดขึ้นว่า


เมื่อช่วงบ่าย ตนพร้อม น.ส.สุภาวดี หรืออุ้ม แวงวรรณ อายุ 19 ปี พี่สาว ที่เรียนอยู่ ชั้นปี 1 สาขาวิชาการท่องเที่ยวและฝรั่งเศส มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา

ออกจากบ้านไปเดินซื้อของที่ห้างเซ็นเตอร์วัน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พบนายอาทิตย์ หรือเล่ หรือบี พรหมจันทร์ อายุ 20 ปี นักศึกษา ปวส.ปี 1 รร.ดุสิตพณิชยการ แฟนเก่าของพี่สาวเดินเข้ามาทักทาย

ก่อนชักชวนเชิงบังคับให้พี่และตน

ไปที่บ้านท้ายซอยพหลโยธิน 30 ตรงข้ามโรงภาพยนตร์เมเจอร์รัชโยธิน ซึ่งเป็นเพิงคล้ายที่เก็บของเก่า

เมื่อเข้าไปได้สักพัก ได้ยินเสียงคล้ายปืนดังขึ้น 1 นัด ในห้องน้ำ


จึงวิ่งไปดูพบพี่สาวนอนจมกองเลือดอยู่ ขณะที่จะเข้าไปช่วยเหลือ นายอาทิตย์ได้ใช้ด้ามปืนทุบเข้าที่ท้ายทอยอย่างแรงจนหมดสติ

มารู้สึกตัวอีกครั้ง

อยู่ในกล่องกระดาษ ตัวถูกมัดด้วยสายไฟพร้อมมีผ้าคลุมรัดแน่น และได้ยินเสียงผู้ชาย 2 คนพูดกันว่า ให้เอาไปฝัง มีอีกคนทักท้วงว่า "ดึกแล้วห้าทุ่ม"

ตามด้วยเสียงนับ 1 2 3 แล้วโยนร่างตนเข้าไปในป่าหญ้า ตอนนั้นรู้สึกกลัวมากเลยแกล้งตายและรอจนกว่ากลุ่มคนร้ายไปแล้วจึงกระเสือกกระสนดิ้นหลุดออกมาเรียกชาวบ้านช่วยแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

หลังจากทราบข้อมูล


พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย ประสาน ร.ต.ท.ณัฏฐ์ สะอาดเอี่ยม
พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.พหลโยธิน พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.

นำกำลังเดินทางไปยังเพิงพักที่เกิดเหตุตามที่เด็กสาวให้การ

โดยมี จ.ส.อ.สมหมาย แวงวรรณ อายุ 45 ปี ทหารสังกัด ร.1 พัน. 4 รอ. ผู้เป็นพ่อของเหยื่อทั้ง 2 ติดตามไปด้วย

พบเพียงนางชำเลียง พรหมจันทร์ อายุ 41 ปี แม่ของนายอาทิตย์ นอนอยู่กับ น.ส.จันทร์จีรา หรือโบ พรหมจันทร์ อายุ 18 ปี ลูกสาว ทั้งคู่ปฏิเสธไม่รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อ้างว่าเพิ่งกลับเข้ามาบ้าน

ส่วนนายอาทิตย์ปกติก็ไม่ได้พักอยู่ที่นี่

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน สนว.ตร.ได้เข้าตรวจสอบในห้องน้ำเก็บรอยคราบเลือดจำนวนหนึ่ง อีกทั้งยังยึดปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ และกระสุนเบอร์ 12 จำนวน 1 นัด ที่ซุกอยู่ใต้ฟูกหน้าห้องน้ำไว้เป็นหลักฐาน

จ.ส.อ.สมหมายเผยว่า


น้องอุ้มเจอกับนายอาทิตย์ เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ระหว่างเรียนอยู่ที่ รร.ศรีอยุธยา ระยะหลังฝ่ายชายมีความประพฤติไม่ค่อยดี เคยพาลูกสาวมากักตัวไว้ที่บ้านหลังนี้หลายครั้ง ครั้งละ 1-2 วัน

ตนพยายามสืบหาก่อนตามเอาลูกกลับไปหลายรอบ

และจะคอยเตือนเรื่องคบผู้ชายคนนี้ พอลูกเข้ามหาวิทยาลัยจึงมาพูดคุยเปิดอกกับตนว่าจะเลิกกับนายอาทิตย์เด็ดขาด


ไม่นึกว่าจะมีเรื่องราวบานปลายรุนแรงขนาดนี้ รู้สึกเป็นห่วงชะตากรรมของลูกสาวมากไม่รู้จะเป็นตายร้ายดีอย่างไร

ต่อมาเมื่อตอนเช้ามืดของวันรุ่งขึ้น


เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เค้นสอบปากคำ น.ส.จันทร์จีรา หรือโบ พรหมจันทร์ อายุ 18 ปี น้องสาวของนายอาทิตย์ และนายแมว จักษุทิพย์ อายุ 27 ปี เพื่อนสนิทของพี่ชายอีกรอบ

ถึงยอมเปิดปากรับสารภาพว่า

นายอาทิตย์เป็นคนลงมือยิงอดีตแฟนสาวจนเสียชีวิตและทำร้าย ด.ญ.นิสารัตน์สลบแล้วใช้สายไฟมัดเอาผ้าห่มคลุมยัดใส่กล่องกระดาษ

เรียกน้องสาวกับเพื่อนช่วยกันหาม 2 พี่น้องเหยื่ออำมหิตขึ้นรถซาเล้งพากันไปทิ้งในป่าหญ้าหลังหมู่บ้านเสนานิเวศน์ โครงการ 2 อำพรางคดี ก่อนแยกย้ายกันกลับ ส่วนนายอาทิตย์ ได้หลบหนีไปไหนไม่ทราบ

พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 จึงประสาน


พล.ต.ต.วิทยา โกสิยะสถิต ผบก.น.4 พร้อมด้วย พ.ต.ท.ธนกรณ์ ก้อนแก้ว รอง ผกก.สส.สน.พหลโยธิน

และฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน กับ สน.โชคชัย กระจายกำลังกันไปยังที่ดินรกร้างเนื้อที่ไม่ต่ำกว่า 5 ไร่ หลังหมู่บ้านเสนานิเวศน์โครงการ 2 ค้นหาศพของ น.ส.สุภาวดี แวงวรรณ อยู่นานนับชั่วโมง

กระทั่งพบถูกหมกอยู่ในพงหญ้าสภาพนอนคว่ำหน้า

สวมเสื้อยืดสีเลือดหมู
กางเกงยีน
ตามร่างกายมีรอยกระสุนปืนลูกซองเข้าที่หน้าอกทะลุหลังประจานความโหดเหี้ยม
และในทันทีที่เห็นสภาพศพของลูกสาว จ.ส.อ.สมหมายถึงกับร่ำไห้ผวาเข้าไปกอดศพอย่างไม่อายใคร

หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนได้มอบศพให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูนำส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ เพื่อตรวจพิสูจน์อีกครั้ง

กระทั่งเวลา 13.00 น.


ระหว่างที่ พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 กำลังสอบปากคำนางชำเลียง พรหมจันทร์ แม่ของฆาตกรใจโหดอยู่นั้น ปรากฏว่านายอาทิตย์ ได้โทรศัพท์เข้ามาหานางชำเลียง บอกกำลังอยู่ที่สถานีขนส่งหมอชิตใหม่

ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

พ.ต.อ.วิชัย จึงสั่งการให้ พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน รีบนำกำลังเดินทางไปยังสถานีขนส่งหมอชิตใหม่ทันที

ก่อนล็อกตัวนายอาทิตย์ได้ในเวลาต่อมา นำตัวไปที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 2 โดยมี พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 ร่วมสอบสวน

นายอาทิตย์นั่งคอตกยอมรับสารภาพว่า


คบหาเป็นแฟนกับผู้ตายกันมา 3 ปี แต่พ่อของฝ่ายหญิงพยายามกีดกัน เพราะอยากให้ได้แฟนเป็นนักเรียน รร.ช่างฝีมือทหาร ก่อนหน้านั้นราว 2 สัปดาห์ ก็ถูกพ่อผู้ตายตบหน้า

หลังจับได้ว่ายังแอบคบหากันอยู่

ทำให้ น.ส.สุภาวดีเริ่มตีจาก พอวันเกิดเหตุเจอผู้ตายโดยบังเอิญเลยชวนมาคุยที่บ้านเพื่อตกลงปัญหารัก แต่ไม่สำเร็จ จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบยิงอดีตแฟนสาวแล้วออกมาใช้ปืนทุบน้องของ น.ส.สุภาวดีจนสลบก่อนเอาสายไฟรัดคอหวังให้ตายเพื่อปิดปาก

จากนั้นเรียกนายแมวช่วยกันอุ้มร่างของทั้งคู่ไปทิ้งป่าหญ้าทำลายหลักฐาน

เสร็จแล้วได้ว่าจ้างรถแท็กซี่ไปส่ง จ.ชลบุรี ก่อนนั่งรถโดยสารย้อนมาลงสถานีขนส่งหมอชิต โทรศัพท์ปรึกษาแม่เลยโดนตำรวจจับ

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอยากขอโทษพ่อแม่ผม และครอบครัวของเขา ที่ทำไปไม่ได้ตั้งใจ แต่เพราะอารมณ์พาไปเท่านั้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา


และข้อหาซ่อนเร้นอำพรางศพแก่นายอาทิตย์ พรหมจันทร์ นักศึกษาหนุ่ม ส่วนนายแมว จักษุทิพย์ และ น.ส.จันทร์จีรา หรือโบ พรหมจันทร์ น้องสาวนายอาทิตย์ โดนดำเนินคดีข้อหาร่วมกันซ่อนเร้นอำพรางศพ

ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ควบคุมผู้ต้องหาทั้งหมด

ไปขออำนาจศาลอาญาฝากขัง พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน


ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์