ไล่ล่า3แม่เล้าวัยเอ๊าะ รวบครูซี7 ลวงขยี้กามม.1-ม.3

พ.ต.อ.สันติ ไทยเสถียร ผกก.สภ.อ. เมืองขอนแก่น พ.ต.ท.บัญชร มาลีศรี พงส.(สบ.3) และ พ.ต.ต.ประทีป ปัญโญวัฒน์ พงส. (สบ.2)

ร่วมกันจับกุมนายจีรพงษ์ โปร่งจิต อายุ 47 ปี ข้าราชการครู ซี 7 สอนวิชากิจกรรมพัฒนาการเรียนรู้ รร.ขามแก่นนคร โดยจับกุมได้ที่สนามชนไก่ บ้านโกธา ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น ตามหมายจับศาลจังหวัดขอนแก่น เลขที่ จ.216/2550 ลงวันที่ 12 ม.ค.2550 ในข้อหากระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี ซึ่งมิใช่ภรรยาของตน โดยเด็กนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม

ข้อหาพรากเด็กอายุยังไม่เกิน 13 ปี ไปเสียจากบิดามารดา หรือผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร ข้อหาพรากเด็กอายุกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี ไปเสียจากบิดามารดา

หรือผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร

นางสุภาวดี (สงวนนามสกุล) อาจารย์ประจำโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.เมืองขอนแก่น ได้นำ ด.ญ.กบ (นามสมมติ) อายุ 13 ปี นักเรียน ชั้น ม.1 และ น.ส.ปลา (นามสมมติ) อายุ 15 ปี นักเรียน ชั้น ม.3 โรงเรียนเดียวกัน

พร้อมผู้ปกครองของเด็กทั้ง 2 คน เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต.ประทีป ปัญโญวัฒน์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองขอนแก่น

ให้ดำเนินคดีกับ นายจีรพงษ์ โปร่งจิต ครู รร. ขามแก่นนคร ในข้อหาล่อลวง ด.ญ.กบ และ ด.ญ.ปลา ไปข่มขืน โดยมี น.ส.กลอย อายุ 15 ปี น.ส.โบว์ อายุ 15 ปี และ น.ส.ฝน อายุ 17 ปี (นามสมมติทั้งหมด) เป็นนางนกต่อ

เป็นอาจารย์สอนเด็กนักเรียนผู้เสียหายทั้ง 2 คน สังเกตเห็นว่าพฤติกรรมของเด็กทั้งสองไม่สดชื่นร่าเริงสมวัย ชอบเดินแยกตัวออกจากกลุ่มเพื่อนฝูง

จึงเรียกมาสอบถาม กระทั่งเด็กทั้งคู่บอกว่าถูกนายจีรพงษ์ โปร่งจิต ซึ่งเป็นครู รร.ขามแก่นนคร ข่มขืน ตนจึงพาเด็กทั้งสองไปปรึกษากับผู้ปกครอง และพามาแจ้งความที่โรงพัก

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 15 ธ.ค.49 ขณะกำลังเล่นวอลเลย์บอลอยู่กับเพื่อนๆ ในสนามของโรงเรียนที่เรียนอยู่ ระหว่างนั้นมี น.ส.กลอย น.ส.โบว์ และ น.ส.ฝน เดินเข้ามาหา พร้อมกับบอกให้ตามมา

ด้วยความเกรงกลัวว่า

จะถูกทำร้ายเพราะทั้ง 3 คนเป็นรุ่นพี่ จึงเดินตามออกไปพูดคุยด้วยที่บริเวณข้างสนามวอลเลย์บอล โดยทั้ง 3 คน บอกว่าจะพาไปทำงาน ด้วยความสงสัยจึงถามกลับไปว่า ทำงานอะไร

จากนั้นก็ดึงแขนตนบังคับให้ซ้อนท้ายรถ จยย.ที่ทั้ง 3 คนขี่มา ไปที่ด้านหลังวัดป่ารัตนมงคล ข้าง รร.ขามแก่นนคร เมื่อไปถึงป่าด้านหลังวัดป่ารัตนมงคลแล้ว สักพักเห็นนายจีรพงษ์ โปร่งจิต

ขับรถเก๋งไม่ทราบยี่ห้อ และทะเบียนมาจอด และลงมาพูดคุยกับรุ่นพี่ทั้ง 3 จากนั้นทั้ง 3 ก็บังคับให้ตนขึ้นไปบนรถยนต์ของนายจีรพงษ์ ก่อนจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไป

นายจีรพงษ์ขับรถพาตนเข้าไปที่โรงแรมม่านรูดชื่อฮันนี่เฮ้าส์ ตั้งอยู่บ้านหัวถนน ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น บังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง

แล้วยื่นเงินให้ 1,000 บาท และพาไปส่งกลับโรงเรียนในช่วงเลิกเรียน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

โดยนัดแนะกับนายจีรพงษ์ให้มารับอีกเช่นเคย และพาไปที่โรงแรมเดิมอีก จากนั้นก็ลงมือข่มขืนตนจนสำเร็จความใคร่แล้วยื่นเงินให้ 1,000 บาท ก่อนพาตัวมาส่งหลังเลิกเรียนเหมือนครั้งที่ผ่านมา

ถูก น.ส.กลอย น.ส.โบว์ และ น.ส.ฝน บังคับมาลักษณะเดียวกัน จำไม่ได้ว่าวันไหน แต่อยู่ในช่วงต้นเดือนธันวาคม 2549 โดยนายจีรพงษ์ พาตนไปที่โรงแรมม่านรูดเพลย์บอย ต.ในเมือง อ.เมืองขอนแก่น

บังคับข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ 1 ครั้ง และยื่นเงินให้ 1,000 บาท และพากลับมาส่งที่โรงเรียนหลังเวลาเลิกเรียนเช่นกัน

3 แม่เล้ารุ่นเยาว์เป็นรุ่นพี่โรงเรียนเดียวกับ ด.ญ.กบ และ ด.ญ.ปลา แต่จบไปแล้ว ก่อนเกิดเหตุได้รับการติดต่อจากนายจีรพงษ์ ครู รร.ขามแก่นนคร ซึ่งเป็นลูกค้าที่เคยซื้อบริการกันมาก่อนว่า

ต้องการเด็กนักเรียนหญิงมาร่วมหลับนอนด้วย ทั้ง 3 คนจึงปรึกษากันก่อนขี่รถ จยย.ไปที่โรงเรียนเดิม

ไปให้นายจีรพงษ์ข่มขืน โดยได้ค่านายหน้าคนละ 300-500 บาทต่อครั้ง เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหาทั้ง 3 แม่เล้า

คือร่วมกันเพื่อสนองความใคร่ของผู้อื่น เป็นธุระจัดหา หรือพาไปเพื่อการอนาจาร ซึ่งหญิงอายุไม่เกิน 15 ปี และอายุกว่า 15 ปี ไม่เกิน 18 ปี และจะติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

เบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาและจะขอไปให้การในชั้นศาล เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเสมือนภาพสะท้อนปัญหาสังคมไทย โดยเฉพาะพื้นที่ จ.ขอนแก่น ที่มีการยึดติดวัตถุนิยมมากจนเกินไป

มีเงินซื้อบัตรเติมเงินมาโทรศัพท์คุยเพื่อความโก๋หรู หรือหาเงินซื้อเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายสวยๆ มาอวดกันเหล่านี้ ทางตำรวจและชุดพิทักษ์สิทธิเด็กและสตรี นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยา

ได้มีมติประชุมหารือร่วมกัน เพื่อหามาตรการป้องกันปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กและสตรี

คาดว่าน่าจะมีมาตรการที่สามารถบรรเทาปัญหาการล่วงละเมิดทางเพศในเด็กและสตรีต่อไป

ได้รับรายงานเบื้องต้นกรณีดังกล่าวจากนายกมล ศิริบรรณ ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) ขอนแก่น เขต 1 แล้ว

ซึ่งทราบว่านายจีรงพศ์ถูกตำรวจจับและได้รับการประกันตัวไปแล้ว

โดยหากพบว่ามีมูล ทางสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ก็มีแนวปฏิบัติไว้แล้ว คือให้ออกจากราชการไว้ก่อน

ซึ่งเรื่องนี้ตนได้เร่งรัดให้ ผอ.สพท.ขอนแก่น เขต 1 สืบข้อเท็จจริงโดยเร็ว

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ