Big footลุยน้ำท่วม...จับโจร

ภาพจาก คมชัดลึกภาพจาก คมชัดลึก


ยามตะวันลับพ้นขอบฟ้า...ผืนน้ำที่นองท่วมพื้นถนนบริเวณหน้าห้างสรรพสินค้าไอทีสแควร์ หลักสี่ เริ่มเปลี่ยนเป็นสีมืดหม่น แต่ขับแสงไฟวับวาบสีแดงจากรถ "สายตรวจ Big Foot" ทั้ง 4 คัน ที่ส่งสัญญาณเริ่มต้นภารกิจในค่ำคืนนี้

       
พล.ต.ต.อดิศร์ งามจิตสุขศรี ผู้บังคับการกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมทีมงานตำรวจท่องเที่ยว, พ.ต.ท.อธิป วงษ์ศิวาภัย รองผกก.ป.สน.ทุ่งสองห้อง พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง และ นายณัฐนันท์ จันทร รองประธานสมาพันธ์ออฟโรดแห่งประเทศไทย พร้อมอาสาสมัคร นำรถออฟโรด 4 คัน มาร่วมกระจายกำลังออกตรวจ 3 เส้นทางในพื้นที่ สน.ทุ่งสองห้อง ได้แก่ พื้นที่ฝั่งบางบัว ฝั่งขวาของถนนแจ้งวัฒนะ เคหะหลักสี่ ท่าทราย ศูนย์ราชการ และหมู่บ้านย่านถนนแจ้งวัฒนะ อาทิ เคหะทุ่งสองห้อง, หมู่บ้านเมืองทอง และหมู่บ้านชวนชื่น
       
               "พื้นที่ สน.ทุ่งสองห้องค่อนข้างกว้าง มีความสูงต่ำต่างกันเยอะ ต้องจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว แต่ละคันจะมีเนวิเกเตอร์คอยนำทาง ซึ่งเนวิเกเตอร์จะรู้ว่าถนนในช่วงไหนน้ำลึกหรือน้ำตื้น" พ.ต.ท.อธิป แจงสภาพพื้นที่ ซึ่งต้องมีเนวิเกเตอร์นำทาง แม้ว่าศักยภาพสายตรวจ Big foot จะลุยน้ำลึกได้ 1.40 เมตรก็ตาม
       
               ราวสองทุ่ม "สายตรวจ Big foot" ทั้ง 4 คัน ล้อเริ่มหมุนแยกย้ายไปตามแผนการตรวจที่วางไว้ "คม ชัด ลึก" กระโดดขึ้นรถออฟโรดสายตรวจ ที่มีชื่อเรียกว่า "44x4 Big foot" เพื่อมุ่งหน้าสู่เคหะทุ่งสองห้อง ระหว่างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจใช้ไฟฉายส่องดูตามบ้านเรือนว่ามีอะไรที่ผิดปกติหรือไม่ รวมทั้งเตรียมกระดาษขนาดเล็ก หรือที่เรียกว่า "จดหมายน้อย" ไว้คอยจดเรื่องราวร้องทุกข์ของชาวบ้านที่ร้องขอมาหรือแจ้งเบาะแสคนร้าย
       
               "เดินไปไหนครับ ขึ้นรถไปด้วยกันไหมครับ" เจ้าหน้าที่ตำรวจถามประชาชนที่ยังสัญจรอยู่ในน้ำ
        
               "ไปด้วยครับพี่...เออ เมื่อตอนผมเดินผ่านเสาไฟ ผมเห็นหม้อแปลงรั่วอยู่นะครับ" ชายวัย 30 ปี บอกขณะปีนขึ้นรถสายตรวจออฟโรด ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจดเรื่องร้องเรียนแจ้งเบาะแสลงในจดหมายน้อย แล้วรีบประสานไปยังหน่วยที่เกี่ยวข้องทันที
       
               ระหว่างทางได้ยินเสียงเจ้าหน้าที่วิทยุ สน.ทุ่งสองห้อง แจ้งมาว่า มีเด็กถูกจระเข้ยาว 2 เมตร ไล่กัดขณะไปเล่นน้ำในสวนหย่อม แต่ไม่ได้รับอันตราย อยากให้ไปตรวจสอบบริเวณสวนหย่อม ข้างโรงเรียนเคหะทุ่งสองห้องวิทยา 2 !!
        
               จังหวะเดียวกันนี้ มีชาวบ้านพายเรือสวนมาร้องทักว่า "พี่มาจับไอเข้เปล่า อยู่ที่สวนหย่อม เมื่อกี้สวนกับมันมา!?!"
        
               "กำลังไปดูครับ.." เจ้าหน้าที่ตำรวจตอบ แต่อดคิดไม่ได้ว่า จะเชื่อดีไหม?
        
               เมื่อสายตรวจ Big Foot เดินทางถึงสวนหย่อมที่รับแจ้งว่าพบจระเข้ มองเห็นระดับน้ำในบึงยังนิ่งไม่ไหวติง ประกอบกับรถไม่สามารถเข้าไปในสวนหย่อม ซึ่งมีพื้นที่เป็นบึงใหญ่ได้ จึงทำได้เพียงส่องไฟตรวจหาแววตาแดงๆ ของจระเข้เท่านั้น เมื่อส่องไฟสำรวจอยู่หลายนาทีก็ยังไม่พบสิ่งผิดปกติ จึงถอนกำลังกลับเข้าตรวจเส้นทางเป้าหมายต่อ
       
               "เจอไอ้เข้ไหม มันมีจริงเหรอครับ แต่เมื่อกี้มีคนเจองูเหลือมตัวใหญ่ ที่ต้นมะขามด้วยนะคุณตำรวจ" ชายวัย 40 ตะโกนถามมาจากชั้นสองของบ้าน เมื่อเห็นรถสายตรวจผ่านมา
       
               "วันนี้เข้ามาช่วยจับโจรนะครับ แต่ยังไม่เห็นมีใครให้เบาะแสเรื่องโจรเลย มีแต่เบาะแสเรื่องจระเข้กับงูเหลือม" พล.ต.ต.อดิศร์ ตอบกลับอย่างอารมณ์ดี
       
               หลายชั่วโมงผ่านไป...สายตรวจ Big Foot ตระเวนตรวจจนทั่วทุกพื้นที่เป้าหมายแล้ว แต่ไม่พบสิ่งปกติอะไร และตลอดรายทางก็ให้ความช่วยเหลือประชาชนได้อาศัยขึ้นรถสายตรวจไปส่งถึงบ้าน อย่างรายล่าสุด ต้องพาคุณลุงวัย 58 ปี ที่ออกมาหาซื้อเสบียงและเครื่องสูบน้ำ ไปส่งที่บ้านที่อยู่ไกล และต้องย้อนกลับไปในเส้นทางสวนหย่อมที่มีคนแจ้งว่าพบจระเข้อีกครั้ง แต่ทุกคนก็เต็มใจ เพียงแต่ได้รับคำว่า "ขอบคุณ" สั้นๆ แต่จริงใจจากผู้ประสบภัย ก็ทำให้ทุกคนหายเหนื่อย
       
               "ผมจะบอกกับลูกน้องว่า ทำงานไม่ต้องให้ใครรู้หรอก ขอแค่ให้เรารู้ว่า เราทำแล้วช่วยเหลือประชาชนได้ก็พอแล้ว" พล.ต.ต.อดิศร์ ทิ้งท้ายในค่ำคืนที่เหนื่อยล้า แต่สังเกตว่าตำรวจและอาสาสมัครทุกคนยังใจสู้...ทั้งที่อีกไม่กี่นาทีก็เช้าวันใหม่แล้ว


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์