มุ่งแก๊งลักเซฟอุ้มเซฟเสี่ยโรงสี

จากกรณีคนร้ายลอบเข้ายกตู้เซฟภายในบ้านนายอานนท์ และนางวาสนา สุราฤทธิ์ เจ้าของโรงสีมั่นคงธัญญา ต.หนองแก อ.เมือง จ.อุทัยธานี หลบหนีไปพร้อมกับทรัพย์สินภายในประมาณ 5 ล้านบาท เมื่อวันที่ 7 ม.ค.ที่ผ่านมา ความคืบหน้าเมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 8 ม.ค. พล.ต.ต.ราเชนทร์ รื่นกมล ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี พร้อมด้วยพ.ต.ท.สมพงษ์ ประดิษฐ์วรกุล รองผกก.(สส) สภ.อ.เมืองอุทัยธานี และกำลังจำนวนหนึ่งเข้าตรวจสอบคฤหาสน์ 2 ชั้นที่เกิดเหตุ เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติมพร้อมกับตรวจสอบรูปภาพสร้อยคอทองคำ ทองรูปพรรณ แหวนเพชร จี้เพชร ที่นางวาสนา และนายอานนท์เคยสวมใส่อยู่

จากนั้นเรียกน.ส.ส้ม ลูกจ้างที่คืนเกิดเหตุขอนอนในห้องทำงาน และแม่บ้านชาวพม่ามาสอบสวน ก่อนตรวจสอบแผงกุญแจบ้านและภายในโรงสีทั้งหมด ซึ่งมีหลายสิบลูก แต่คนร้ายนำกุญแจไปไขประตูหลังบ้านเพื่อหลบหนีได้อย่างถูกต้อง

ต่อมาไปตรวจสอบจุดที่คนร้ายนำตู้เซฟไปริมป่าละเมาะทางเข้าหมู่บ้านหนองเต่า หมู่ 4 ต.หนองเต่า อ.เมือง จ.อุทัยธานี หลังงัดตู้เซฟนำทรัพย์สินออกไปแล้วเพื่อเก็บหลักฐาน

ด้านพล.ต.ต.สมพงษ์ คงเพชรศักดิ์ รองผบช.ภาค 6 กล่าวว่า สั่งการศูนย์สืบสวนภาค 6 สืบสวนจังหวัด และสืบสวนสภ.อ.เมืองอุทัยธานี ร่วมกันคลี่คลายคดี เบื้องต้นมุ่งไปที่แก๊งยกเซฟที่เคยมีประวัติถูกจับและพ้นโทษออกมา

ส่วนพล.ต.ต.ราเชนทร์ รื่นกมล ผบก.ภ.จว.อุทัยธานี กล่าวว่า ได้ระดมหลายหน่วยเข้าคลี่คลายคดี โดยให้เจ้าของบ้านและคนงาน คนใช้พิมพ์ลายนิ้วมือไว้เป็นหลักฐานแล้ว อีกทั้งวันนี้ยังพบรอยเท้าของคนร้ายเพิ่มขึ้นอีก 2 รอย สำหรับจุดที่พบตู้เซฟทิ้งไว้นั้น จากการตรวจสอบสภาพเซฟมีร่องรอยงัดแงะ ซึ่งคนร้ายต้องมีเวลาพอสมควรในการนำทรัพย์สินไปได้ จึงให้หาพยานในบริเวณนั้นมาขยายผล รวมทั้งหาข่าวแก๊งลักตู้เซฟที่เคยออกอาละวาดตามพื้นที่ต่างๆ โดยเฉพาะทางภาคอีสาน