ลูกชายกัดดาฟีโผล่เย้ยกบฎติดกับดัก

โลกงง ซาอีฟ อัล อิสลาม ลูกชายกัดดาฟี ปรากฎตัวเฉยหลังกบฎโวคุมตัวได้แล้ว พาผู้สื่อข่าวทัวร์กรุงตริโปลี เย้ยกบฎหลงกลเข้าไปติดกับ ยันบิดาอยู่ในเมืองหลวง เผด็๋จศึกตริโปลีไม่ง่าย ฝ่ายกบฎเจอต้านหนักหน่วง

บรรยากาศเฉลิมฉลองของฝ่ายต่อต้านพ.อ.โมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย หลังกองกำลังกบฎฯที่สู้รบกับกองกำลังรัฐบาลนานกว่า 6 เดือน รุกคืบถึงกลางกรุงตริโปลี เมื่อวันอาทิตย์ ท่ามกลางเสียงแซ่ซ้องว่าระบอบกัดดาฟีปิดฉากลงแล้วนั้น ดำเนินไปไม่ถึงข้ามวัน ความรู้สึกสับสนและระแวดระวังเข้ามาแทนที่ เมื่อยังไม่มีใครทราบว่าพ.อ.กัดดาฟีหลบซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ขณะที่นายซาอีฟ อัล อิสลาม บุตรชายผู้มีบทบาทสำคัญของผู้นำลิเบีย จู่ๆก็มาปรากฎตัวที่หน้าโรงแรมหรู ริกซอส ที่มีผู้สื่อข่าวต่างชาติราว 35 คนอยู่ภายใน ทั้งที่มีรายงานไปทั่วโลกหนึ่งวันก่อนหน้านั้นว่าถูกฝ่ายกบฎควบคุมตัวไว้แล้ว 
         
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันอังคาร( 23 ส.ค.) นายซาอีฟ อัล อิสลาม นั่งรถกันกระสุนมาที่หน้าโรงแรม ริกซอส ในกรุงตริโปลีเมื่อเช้ามืดวันอังคารที่ผ่านมา

พร้อมบอกกับผู้สื่อข่าวต่างชาติว่า รัฐบาลของบิดายังคุมเมืองหลวง และเจตนาเปิดทางสะดวกให้กบฎเข้าไปในกรุงตริโปลีเพื่อให้ไปติดกับ และต่อจากนี้ พวกเราจะบดขยี้พวกกบฎจนราบคาบไม่เป็นที่แน่ชัดว่า นายซาอีฟถูกกบฎคุมตัวไว้จริง แล้วหลบหนีออกมา หรือว่าที่จริงแล้ว ไม่เคยถูกจับตัวได้เลย แต่การปรากฎตัวของบุตรชายผู้นำลิเบีย ทำให้เกิดคำถามความน่าเชื่อถือของผู้นำกบฎทันที

โฆษกคนหนึ่งของฝ่ายกบฎ ไม่มีคำอธิบายใดๆในเรื่องนี้ ทั้งยังยืนยันอีกข่าวที่ว่า นายมูฮัมเหม็ด บุตรชายคนโตสุดของพ.อ.กัดดาฟี ที่มีรายงานว่าถูกกักบริเวณในบ้านเมื่อวันจันทร์ ก็หลบหนีออกมาเป็นอิสระเช่นกัน นายซาอีฟ อัล อิสลาม ซึ่งสภาพผอมลง มีหนวดเครา สวมเสื้อยืดสีมะกอกและกางเกงลายพราง ยังได้พาผู้สื่อข่าวต่างประเทศ 3 คนขึ้นรถพา ตระเวณดูพื้นที่ต่างๆที่อยู่ในความควบคุมของรัฐบาล รวมถึงพื้นที่รอบโรงแรมฯ และคฤหาสน์บับ อัล อาซิสยาของพ.อ.กัดดาฟี และค่ายทหาร ผ่านถนนสายต่างๆที่เต็มไปด้วยทหารของพ.อ.กัดดาฟี และมีด่านตรวจเป็นระยะ

         
ที่บับ อัล อาซิสยานั้น มีชายราวร้อยคนเข้าแถวรอรับการแจกจ่ายปืนอยู่ด้านหน้า เพื่อเป็นอาสาสมัครปกป้องระบอบกัดดาฟี นายซาอีฟ อัล อิสลาม ได้เข้าจับมือกับคนเหล่านั้น พร้อมชูนิ้วเป็นรูปตัว วี สัญลักษณ์ชัยชนะ     

         


นายซาอีฟ ยังบอกปัดหมายจับของศาลอาญาระหว่างประเทศ( ไอซีซี)ว่า ไม่มีความหมาย และให้ไอซีซีไปลงนรก และว่าการปล่อยข่าวจับกุมตน เป็นคำโกหกของพวกกบฎ

         
นายซาอีฟ กล่าวด้วยว่า บิดาและสมาชิกในครอบครัวทุกคน ยังอยู่ในกรุงตริโปลี   ชี้อาจต้องรบอีกนาน

         
ประธานาธิบดีบารัก โอบามาแห่งสหรัฐฯ เรียกร้องให้พ.อ.กัดดาฟียอมจำนน ส่งมอบอำนาจคืนประชาชน แต่เตือนว่าการต่อสู้ยังไม่ยุติ เช่นเดียวกับนายเจอราร์ด ลองเก้ รัฐมนตรีกลาโหมฝรั่งเศส ที่ระบุว่า สถานการณ์ในลิเบีย ยังห่างไกลกับคำกว่า ยุติ

         
อย่างไรก็ตาม นายริค เคลกก์ รองนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ยืนยันว่า การปรากฎตัวอย่างท้าทายของนายซาอีฟ มิใช่สัญญาณบ่งว่าระบอบกัดดาฟีจะกลับมา


แต่นายซาอีฟและพวกกำลังจนมุมต่างหาก ขึ้นอยู่กับว่าจะพ่ายแพ้ราบคาบเมื่อไหร่เท่านั้น ความเห็นของรองนายกฯอังกฤษมีขึ้นในช่วงเดียวกับที่กลุ่มกบฎลิเบีย รุกโจมตีอย่างหนักหน่วงในย่าน บับ อัล อาซิสยา ในวันอังคาร และเป็นการสู้รบดุเดือดที่สุดนับจากรุกถึงกรุงตริโปลีเมื่อวันอาทิตย์ ทั่วทั้งเมืองได้ยินเสียงปืน เสียงดังคล้ายระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เสียงอื้ออึงของเครื่องบินรบนาโต และมีควันสีดำพวยพุ่งเหนืออาคารแถบนั้น

         
เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯกล่าวว่า สหรัฐฯเชื่อว่า กบฎฯคุมพื้นที่ในเมืองหลวงได้ราว 90 %
 
แต่กองกำลังฝ่ายภักดีกับรัฐบาลยังคุมเมืองเซิร์ต บ้านเกิดของพ.อ.กัดดาฟี และเมืองเซบฮา ทางตอนใต้ ซึ่งเห็นได้ชัดว่ากองกำลังฝ่ายกัดดาฟียังฮึกเหิม โดยได้ยิงจรวดสกั๊ด 3 ลูกจากฐานที่มั่นใกล้เมืองเซิร์ต โจมตีฝ่ายกบฎในเมืองมิสราตาเมื่อวันจันทร์ ซึ่งเป็นการใช้จรวสกั๊ดเป็นครั้งที่สอง แต่จรวดตกในทะเลกับใกล้ชายฝั่ง และไม่มีรายงานความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน

         
ด้านกองกำลังนาโตประกาศจะเดินหน้าโจมตีทางอากาศต่อไปจนกว่ากองกำลังกัดดาฟี จะยอมแพ้ หรือกลับเข้ากรมกอง 

ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมาเครื่องบินรบของนาโต้ได้บินปฏิบัติการเกือบ 20,000 เที่ยว ซึ่งในจำนวนนี้เป็นการโจมตีต่อกองกำลังของกัดดาฟีถึงเกือบ 7,500 เที่ยว และในช่วงสองวันที่ผ่านมายิงโจมตีเป้าหมายทั้งในและรอบกรุงทริโปลีกว่า 40 จุด สถานการณ์ผู้สื่อข่าวไม่สู้ดี

         
ผู้สื่อข่าวต่างชาติ 35 คน ยังคงติดอยู่ที่โรงแรมริกซอส เนื่องจากพวกที่ภักดีต่อพ.อ.กัดดาฟีไม่ยอมให้ออกไปข้างนอก
ขณะที่การสู้รบยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง ส่วนสภาพของโรงแรมก็เริ่มไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องอาศัยอาหารกระป๋องและน้ำบรรจุขวดที่พบในห้องเก็บของและครัวของโรงแรมประทังชีวิต

         
พวกผู้สื่อข่าวต้องไปรวมกันอยู่ที่ล็อบบี้ที่มืดมิด แบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือเริ่มหมด และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ต้องอาศัยกระแสไฟฟ้าก็ไม่สามารถทำงานได้ มีรายงานว่าผู้สื่อข่าวของซีเอ็นเอ็นต้องขอยืมโทรศัพท์ผ่านดาวเทียมของช่างภาพโทรทัศน์ของจีน ในการรายงานสถานการณ์ รวมถึงส่งภาพล่าสุดของนายซาอีฟด้วย


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์