ควงปืนปล้นร้านทองบิ๊กซีซิว20บาทหนี

โจรควงปืนบุกเดี่ยวจี้ร้านทองดังกลางห้างบิ๊กซี สาขาเอกมัย

อาศัยจังหวะห้างเพิ่งเปิดลงมือไม่ถึง 2 นาที กวาดทองในตู้โชว์หนัก 20 บาท มูลค่ากว่าครึ่งล้านหลบหนี แถมยิงใส่ รปภ.ห้างที่พยายามไล่จับ โชคดีกระสุนไม่ถูกใคร ก่อนซิ่ง จยย.เผ่นลอยนวล เผยกล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายก่อนลงมือได้ชัดเจน ผบช.น.สั่งเร่งไล่ล่า พร้อมขู่คาดโทษตร.ท้องที่ หากปล่อยปละละเลยให้เกิดเหตุ

สืบเนื่องจากราคาทองคำพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก จึงอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เหตุอาชญากรรมเพิ่มสูงขึ้นตามไปด้วย

โดยเมื่อเวลา 10.45 น. วันที่ 11 ส.ค. ร.ต.อ.บุญจันทร์ เวียงนนท์ พนักงานสอบสวน (สบ 1) สน.บางขุนเทียน รับแจ้งเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนชิงทรัพย์ร้านทอง ภายในห้างสรรพสินค้าบิ๊กซีซูเปอร์เซ็นเตอร์ สาขาเอกชัย ปากซอยเอกชัย 67 แขวงและเขตบางบอน จึงพร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ รอง ผบช.น. พ.ต.อ.ชาญ แก้วท่าไม้ ผกก.สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน กก.สส.บก.น.9 ไปตรวจสอบยังที่เกิดเหตุซึ่งเป็นร้านค้าทองชื่อ ห้างทองเพชรทองใบเยาวราช ตั้งอยู่บนชั้นที่ 2 ของห้างสรรพสินค้า

เจ้าหน้าที่พบ น.ส.สุพัตรา สีหมากสุข อายุ 25 ปี พนักงานขายทอง ยืนรออยู่หน้าตู้โชว์สินค้าด้วยอาการตื่นตระหนก

จากการสอบสวน น.ส.สุพัตรา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนพนักงานผู้หญิงอีก 2 คน กำลังช่วยกันจัดสินค้าหลังเพิ่งเปิดร้านได้ไม่ถึง 1 ชั่วโมง จากนั้นได้มีคนร้ายเป็นชายผิวคล้ำ อายุประมาณ 30-40 ปี สูงประมาณ 165 เซนติเมตร ใส่หมวกแก๊ปสีดำ และคาดผ้าปิดปาก-จมูกสีขาวเพื่อปิดบังใบหน้า สวมเสื้อคลุมสีครีม นุ่งกางเกงยีน ใส่รองเท้าผ้าใบสีขาว มีกระเป๋าสะพายสีดำคาดสะพายแล่งอีก 1 ใบ ถืออาวุธปืนไม่ทราบขนาดเดินส่ายปากกระบอกเข้ามาหน้าร้าน แล้วตะโกนสั่งให้ตนกับเพื่อนถอยไปรวมกันอยู่ที่มุมตู้โชว์สินค้าด้านใน ซึ่งพวกตนก็ยอมทำตามแต่โดยดี


น.ส.สุพัตรา ให้การอีกว่า จากนั้นคนร้ายก็ยกประตูกั้นซึ่งมีลักษณะเป็นแผ่นไม้ปิด-เปิด บริเวณข้างเคาน์เตอร์เดินเข้ามาหลังตู้โชว์
 
ก่อนใช้มือกวาดสร้อยข้อมือทองคำ น้ำหนัก 2 บาท รวม 10 เส้น มูลค่าประมาณ 507,000 บาท
ที่แขวนอยู่ในตู้โชว์ติดผนัง แล้ววิ่งหนีไปทางบันไดเลื่อนขาขึ้น ทำให้ต้องวิ่งย้อนศรลงไปที่ลานจอดรถเพื่อหลบหนี ขณะที่พนักงานรักษาความปลอดภัยของทางห้าง ได้ยินเสียงพวกตนโวยวายก็พยายามวิ่งติดตามคนร้ายลงไปหวังจะจับกุม แต่กลับถูกคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงสวน จำนวน 1 นัด กระสุนถูกกระจกประตูบานเลื่อนบริเวณทางออกลานจอดรถด้านหลังห้างแตกเสียหาย 2 บาน โชคดีที่ไม่มีผู้ใดเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายสามารถขี่รถ จยย.หลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด

ด้าน พ.ต.อ.ชาญ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ขอดูภาพจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในร้านทองที่เกิดเหตุ และภายในห้างทุกตัวแล้ว
 
เห็นภาพคนร้ายอย่างชัดเจน ซึ่งก่อนลงมือกล้องสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะเดินขึ้นบันไดเลื่อน และเดินผ่านไปมาบริเวณหน้าร้านเพื่อสำรวจดูลาดเลา ตั้งแต่ช่วงเวลาประมาณ 10.00 น. จากนั้นอีกประมาณ 30 นาที คนร้ายถึงจะตัดสินใจก่อเหตุโดยใช้เวลาลงมือไม่ถึง 2 นาที
อย่างไรก็ตาม มีพยานระบุว่ายานพาหนะที่คนร้ายใช้เป็นรถ จยย.แบบผู้หญิง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีเทา หมายเลขทะเบียนจำได้แค่เลข 2 ตัวหลังคือ 48
ไม่ทราบหมวดอักษรและจังหวัด ซึ่งได้วิทยุแจ้งให้ตำรวจทุกท้องที่ช่วยสกัดจับแล้วแต่ยังไร้วี่แวว

“ตนเชื่อว่าคนร้ายรายนี้ต้องเป็นคนในพื้นที่และวางแผนก่อนลงมือมาเป็นอย่างดี ส่วนอาวุธปืนที่ใช้น่าจะเป็นปืนลูกซองสั้นไทยแบบประดิษฐ์ เนื่องจากพบกระสุนปืนลูกปรายตกอยู่บริเวณประตูทางออกลานจอดรถด้านหลังห้าง ซึ่งเป็นจุดที่คนร้ายยิงใส่ รปภ.เพื่อสกัดไม่ให้ติดตาม
สำหรับมาตรการการดูแลร้านค้าทองในช่วงที่ราคาทองคำกำลังพุ่งสูงนั้น ทาง พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร.ก็เพิ่งสั่งการลงมาให้ทุกท้องที่เฝ้าระวังเหตุร้ายให้มากเป็นพิเศษ
ซึ่งตนก็ได้กวดขันให้สายตรวจแวะเวียนมาดูแลตลอด โดยเฉพาะในช่วงเย็นและหัวค่ำของทุกวัน แต่กรณีนี้คนร้ายเลือกลงมือในช่วงสายหลังห้างเปิดได้ไม่นาน แสดงว่าต้องศึกษาทางหนีทีไล่มาเป็นอย่างดี และหลังจากนี้จะเรียกประชุมฝ่ายสืบสวนให้เร่งรัดติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป” พ.ต.อ.ชาญ กล่าว

ส่วน พล.ต.ท.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวแล้ว

ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รอง ผบช.น. เข้าไปดูแล ส่วนจะเป็นการละเลยในการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจหรือไม่นั้นต้องรอการตรวจสอบ หากพบว่าเป็นการละเลยจริงก็จะมีระเบียบการลงโทษตามลำดับขั้นอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามในช่วงนี้ที่ทองคำมีราคาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง บช.น.ได้กำชับให้ตำรวจแต่ละท้องที่เพิ่มความเข้มในการตรวจตรา เพื่อป้องกันคนร้ายที่อาจฉวยโอกาสเข้ามาก่อเหตุ และหากร้านทองใดที่ต้องการให้ตำรวจเข้าไปดูแลเพิ่มเติม โดยเฉพาะในห้างสรรพสินค้าที่คนร้ายมักเลือกก่อเหตุในระยะหลังนี้ ก็สามารถประสานตำรวจท้องที่เข้าไปดูแลได้ แต่ยอมรับว่ากำลังเจ้าหน้าที่ที่มีอยู่ในขณะนี้มีอยู่ไม่เพียงพอ.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์