เพลิงพิโรธ..เผาโบ๊เบ๊วอดส่งท้ายปีจอ

"รถดับเพลิงเข้าไม่ถึง กว่าจะควบคุมเพลิงได้ นาน 8 ชม."


เพลิงพิโรธส่งท้ายปีจอ เผาวอดตลาดโบ๊เบ๊กลางดึก ผู้ค้าหอบของหนีจ้าละหวั่น รถน้ำกว่า 50 คันเข้าไม่ถึงเพราะซอยแคบติดแผงค้า ต้องจอดฝั่งตรงข้ามคลอง จนท.ลากสายฉีดน้ำสกัดจนพลัดตกเจ็บ 2 และต้องใช้เวลานานกว่า 8 ชม.ถึงจะควบคุมเพลิงไว้ได้ พบเสียหายยับบางคูหาทำท่าทรุดตัว ด้านกทม.เตรียมประกาศเป็นเขตอันตราย

วานนี้ (29 ธ.ค.49) เมื่อเวลา 21.00 น. ร.ต.ท.นราวุฒิ รักษาวงศ์ ร้อยเวรสายตรวจ สน.ปทุมวัน รับแจ้งมีเหตุเพลิงไหม้ ภายในตลาดโบ๊เบ๊สะพาน 2 ถ.กรุงเกษม แขวงรองมเมือง เขตปทุมวัน กทม. จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ ก่อนรุดตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พล.ต.ต.เจตน์ มงคลหัตถี ,พล.ต.ต.กมล แก้วสุวรรณ รอง ผบช.น.,พ.ต.อ.วัลลภ ประทุมเมือง ผกก.สน.ปทุมวัน ,พ.ต.ท.อาคม จันทนลาช รอง ผกก.สส.และได้ประสานรถน้ำดับเพลิงจำนวน 50 คันพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย ขณะที่ด้านผู้บริหารกทม. มีนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าฯ กทม. นายพุฒิพงษ์ ปุณกัณฑ์ และดร.วัลลภ สุวรรณดี รองผู้ว่าฯ กทม. ได้เดินทางไปร่วมตรวจสอบด้วย

ที่เกิดเหตุต้นเพลิงเป็นอาคารพาณิชย์สูง 5 ชั้น เป็นร้านขายเสื้อผ้าชื่อร้านศิริชัย อยู่ในตลาดโบ๊เบ๊ สะพาน 1 ซึ่งเป็นซอยแคบแจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำรถดับเพลิงเข้าไปได้ เนื่องจากติดแผงค้าจำนวนมาก จึงต้องจอดรถดับเพลิงไว้ด้านนอกบริเวณฝั่งตรงข้ามคลองผดุงกรุงเกษม และคลองมหานาคโดยเจ้าหน้าที่ได้ปิดการจราจรบนถนนสายดังกล่าว และต้องฉีดน้ำเข้าไปจากฝั่งตรงข้ามคลอง นอกจากนี้ยังใช้รถกระเช้าขึ้นระดมฉีดน้ำจากด้านฝั่งตรงข้าม แต่เพลิงกลับลุกไหม้รุนแรงและลามไปเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีเสียงระเบิดคล้ายถังแก๊สระเบิดเป็นระลอกๆ ขณะที่ประชาชนย่านดังกล่าวต่างวิ่งแตกตื่น หอบหิ้วของออกมาจากร้านกันจ้าละหวั่น

"ไฟไหม้เพียบหลายคูหา เหตุรถดับเพลิงเข้าไม่ถึง เพราะซอยแคบ"


กระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 4 ชม.ล่วงเลยเข้าวันใหม่ เพลิงก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง เนื่องจากรถน้ำเข้าไปไม่ถึงจุดเกิดเหตุได้ ทำให้อาคารร้านค้าย่านดังกล่าวถูกไฟเผาผลาญไปหลายคูหาตั้งแต่ช่วงสะพาน 2 ไปสะพาน 3 และสะพาน 1 และมีบางคูหาที่มีทีท่าว่าจะทรุดตัว ซึ่งยังไม่สามารถตรวจสอบจำนวนตัวเลขความเสียหายที่แน่ชัดได้ แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัย 2 ราย ได้รับบาดเจ็บจากการพลัดตกลงมาจากอาคารที่ขึ้นไปฉีดน้ำควบคุมเพลิงครั้งนี้

จากการสอบสวนนายชัยวัฒน์ นิมิตรพงษ์ศักดิ์ พ่อค้าขายเสื้อผ้าอยู่ฝั่งตรงข้ามร้านศิริชัย กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุขณะที่นั่งขายของอยู่นั้น ก็เห็นมีประกายไฟช็อตที่สายไฟบริเวณทางเข้าซอยใกล้ร้านศิริชัย จากนั้นเกิดไฟลุกลามเข้าไปในร้านที่เป็นแฟลตเก่า จนกระทั่งลุกลามจนไม่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้

ด้าน น.ส.วรพรรณ ชิวสุจินต์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 98/2 ถ.กรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน เจ้าของร้านศิริชัยต้นเพลิง เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุมีไฟช็อตออกจากสายไฟและมีประกายไฟ จนกระทั่งลุกลามเข้ามาภายในร้าน จึงได้ตะโกนบอกให้ลูกจ้างรีบวิ่งหนี ซึ่งทราบว่าทุกคนหนีรอดออกมาได้ แต่มีลูกน้องอีกคนซึ่งก่อนเหตุได้ขึ้นไปอยู่บริเวณชั้น 3 ตอนนี้ยังไม่ทราบว่าออกมาได้หรือยัง

"ยังประเมินความเสียหายไม่ได้"


ด้านนายอภิรักษ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เพลิงได้ลุกลามอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอุปสรรคสำคัญคือเจ้าหน้าที่ลากสายไฟไปฉีดสกัดเพลิงด้วยความยากลำบาก เพราะเป็นย่านร้านค้าแออัด และยังไม่สามารถประเมินความเสียหายได้ แต่ได้สั่งการให้ทำการสกัดเพลิงตามจุดต่างๆ เพื่อไม่ให้ลุกลาม นอกจากนี้ ยังได้รับรายงานว่ามีอาคารทรุดตัวแต่ยังไม่ถล่มลงมา ก็ได้สั่งการให้กันประชาชนออกจากจุดเสี่ยง และพื้นที่ใกล้เคียง รวมทั้งได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ใช้ความระมัดระวัง อย่างไรก็ตามยังประเมินสถานการณ์ไม่ได้ ต้องรอให้เพลิงสงบและประกาศเป็นพื้นที่อันตราย โดยจะมอบหมายให้สำนักฯโยธาและผังเมืองเข้าไปดูแลพื้นที่

ขณะที่ ดร.วัลลภ รองผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้เจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมเพลิงได้ยากลำบาก เนื่องจากติดปัญหาเรื่องความแออัดของแผงค้าและตึกแถว ซึ่งที่ผานมาทางกทม.ได้ขอร้องให้ผู้ค้าย้ายออกไปแล้ว แต่ผู้ค้าไม่รับฟัง จนกทม.ไม่สามารถทำอะไรได้ ซึ่งตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ และขณะนี้ก็ยังไม่ทราบว่าความเสียหายครั้งนี้มากน้อยเพียงใด ซึ่งหลังจากเพลิงสงบ ก็จะต้องมอบหมายให้ฝ่ายโยธา กทม.เข้ามาตรวจสอบซึ่งอาจต้องประกาศให้เป็นพื้นที่อันตรายต่อไป เนื่องจากตึกที่ถูกไฟไหม้นั้นเสี่ยงต่อการทรุดตัวและหรือถล่มลงมาได้

"ควบคุมเพลิงได้ แต่ยังต้องฉีดน้ำเลี้ยงเพราะยังดับไม่หมด"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลาประมาณ 05.00 น.เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ แต่ยังต้องคงฉีดน้ำเลี้ยงไว้ตลอดเวลา เพราะในอาคารบางส่วนยังมีกลุ่มควันและเถ้าถ่านหลงเหลืออยู่ เกรงว่าไฟจะปะทุขึ้นมาอีก เบื้องต้นพบว่า แฟลตร้างที่ขายเสื้อผ้าค้าส่ง และอาคารที่อยู่ล้อมรอบประมาณ 70-80 คูหาได้รับความเสียหาย และมีอาคารบางส่วนพังถล่มลงมา

อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถเข้าไปตรวจสอบภายในอาคารที่เกิดเหตุได้เนื่องจากเกรงว่า ตัวอาคารจะทรุดตัวและถล่มลงมา โดยคาดว่า ช่วงเช้าเจ้าหน้าที่จะเข้าไปตรวจสอบได้ว่า ภายในมีผู้เสียชีวิตอยู่ภายในซากอาคารหรือไม่

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์