พบบ่อยกัดหมา สังเวียนเลือดแอบเปิดตั้งอยู่ใน กทม.-ชลบุรี (มีคลิป)

ตำรวจพบมีบ่อนกัดหมาจริง เตรียมลากคอมาดำเนินคดียกแก๊ง

อดีตผีพนันเผยลักลอบเปิดสังเวียนเลือดแพร่หลายในกรุงเทพฯ-เมืองชลคนหนุนหลังมีแต่อิทธิพล พบพฤติกรรมสุดทารุณ สั่งลูกหมานำเข้าจากต่างประเทศมาซุ่มเลี้ยง กักขัง กลั่นแกล้งจนเครียดตั้งแต่เล็กยันโต แม้ซื่อสัตย์กับเจ้าของแต่ก็ยังถูกสั่งไปตาย ด้านนายกคนรักสัตว์ฯชงกฎหมายใหม่เอาผิดพวกใจร้าย ส่วนสัตวแพทย์หวั่นคนดูจะติดโรคพิษสุนัขบ้า
   
จากกรณีการนำเสนอข่าวเรื่องราวของคนใจบาป

ที่ลักลอบเปิดบ่อนพนันนำสุนัขอเมริกันพิตบูล มาลงสนามกัดกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ภายในโกดังไม้ ที่ดัดแปลงเป็นสนามแข่งประลองคมเขี้ยว กลางหมู่บ้านพื้นที่ ต.เขาดิน อ.เมือง จ.นครสวรรค์ โดยมีการเดิมพันเล่นพนันกันสูงถึงหลักล้าน ซึ่งบ่อนดังกล่าวเป็นบ่อนวิ่ง ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
   
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 27 ก.ค. ผู้สื่อข่าวจากส่วนกลางได้รับการเปิดเผยจากแหล่งข่าวรายหนึ่งที่อยู่ในจังหวัดทางภาคกลาง

ซึ่งเคยอยู่ในกลุ่มผู้นิยมเล่นการพนันกัดสุนัขมาก่อน แต่ตอนหลังได้เลิกอย่างเด็ดขาด เนื่องจากเกิดความสงสารและไม่อยากทรมานสัตว์ว่า บ่อนกัดสุนัขที่เปิดนี้ เป็นบ่อนวิ่งของ จ.นครสวรรค์ ที่นาน ๆ จะแอบจัดขึ้นสักครั้ง จากนั้นก็จะเดินสายเวียนไปจัดกันต่อยังจังหวัดอื่น ๆ ตามโซนภาคเหนือ กลาง อีสาน และตะวันออก แต่ส่วนใหญ่ กรุงเทพฯ ชลบุรี และพัทยา จะมีการจัดกันบ่อยมากที่สุด ซึ่งการจัดแข่งขันทุกครั้งจะมีการเก็บเงินค่าผ่านประตูรายละ 100 บาท โดยกลุ่มผู้ที่นิยมเลี้ยงสุนัขอเมริกันพิตบูล แล้วกัดแข่งขันชิงเงินพนันนั้น มีอยู่เฉพาะกลุ่มเกือบทุกสาขาอาชีพและเกือบทุกจังหวัด มีตั้งแต่นักการเมืองท้องถิ่น ข้าราชการ นักธุรกิจ รวมไปถึงชาวบ้านที่ฐานะร่ำรวย
   
นอกจากนี้สุนัขสายพันธุ์ที่เลี้ยง มักจะนิยมสั่งซื้อลูกสุนัขจากต่างประเทศมากกว่าสั่งซื้อในประเทศไทย เพราะมีนิสัยดุร้ายและสภาพร่างกายแข็งแรงกว่ามาก
 
โดยแต่ละตัวจะมีราคาสูงถึงหลักแสนบาท ส่วนการเลี้ยงดูของเจ้าของ จะเลี้ยงไว้แบบให้เครียด ๆ ด้วยการล่ามโซ่ในบริเวณที่แคบ ๆ จากนั้นจะใช้ไก่หรือแมวล่อหน้าล่อตายั่วให้มันเกิดความโมโห ทำแบบนี้เรื่อยมาจนกระทั่งสุนัขมีอายุประมาณ 3-5 ปี จึงจะนำมาแข่งขันได้ ขณะที่กติกาการแข่งขันจะให้สุนัขกัดกันจนกว่าจะมีตัวใดตัวหนึ่งยอมแพ้หรือไม่ก็พิการขาขาด ตาบอด ตลอดจนกัดกันตายไปข้างหนึ่ง ตามแต่เจ้าของต้องการ เนื่องจากสุนัขพันธุ์นี้รักและซื่อสัตย์กับเจ้าของมาก ประกอบกับมีสัญชาตญาณของนักสู้อยู่แล้ว หากหมดทางสู้แต่เจ้าของยังสั่งให้สู้ต่อไป ก็จะยอมสู้ถวายชีวิตให้สมแก่ใจนายของมัน โดยไม่สนว่าที่ผ่านมามันจะถูกเลี้ยงดูมาอย่างทารุณขนาดไหน
   


ต่อมาเวลา 10.00 น. ของวันเดียวกัน พ.ต.อ.ชาญวิทย์ กนกนาก ผกก.สภ.เก้าเลี้ยว

ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.ชฎิล พรหมไพบูลย์ ผบก.ภ.จว.นครสวรรค์ ให้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบปราม และชุดสืบสวนกว่า 20 นาย เดินทางไปตรวจสอบยังบ้านเลขที่ 107 หมู่ 3ต.เขาดิน อ.เก้าเลี้ยว โดยมีนายอำพัน สดสะอาดอายุ 60 ปี เป็นเจ้าของผู้ได้รับใบอนุญาตบ่อนชนไก่ พบว่าบ้านหลังดังกล่าวปลูกอยู่กลางทุ่งนาเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่ ภายในรั้วบ้านก็มีโรงเรือนที่เป็นสังเวียนสำหรับชนไก่ ปลูกห่างจากบ้านพักประมาณ 50 เมตร แต่ไม่ได้มีการชนไก่กันมานานหลายปีแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงยึดอุปกรณ์การชนไก่ อุปกรณ์กัดสุนัข เช่น รั้วกั้นรอบสังเวียนชนไก่ พรมปูพื้น ขวดน้ำ เหล็กไว้เป็นหลักฐาน
   
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายมนตรี สดสะอาด อายุประมาณ 35 ปี เป็นเจ้าหน้าที่ อส.ประจำอำเภอเก้าเลี้ยว และเป็นลูกชายของผู้มีใบอนุญาตเปิดบ่อนไก่


ให้การว่า ในวันเกิดเหตุตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ยอมรับว่าเมื่อช่วงวันที่10 ก.ค.ที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มเพื่อนชื่นชอบการกัดสุนัข มีทั้งคนในพื้นที่ที่เปิดฟาร์มเลี้ยงสุนัขอเมริกันพิตบูลขายและกลุ่มคนที่ ชอบกัดสุนัข เดินทางมาขอใช้สถานที่ซ้อมกัดสุนัขเพื่อถ่ายรูปส่งขายทางอินเทอร์เน็ตมีประมาณ 2-3 คู่ คู่ละ 10-15 นาที เท่านั้น ไม่มีการเล่นการพนันตามที่เป็นข่าว
   
ด้าน พ.ต.อ.ชาญวิทย์ ผกก.สภ.เก้า เลี้ยว เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ผู้บังคับบัญชาให้ความสนใจเป็นพิเศษ จึงสั่งให้ตนรายงานข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น

ซึ่งตนได้ลงพื้นที่สอบสวนผู้เกี่ยวข้องด้วยตนเอง ทราบว่า เมื่อวันที่ 10 ก.ค. ที่ผ่านมา มีการแข่งขันกันเฉพาะคนในกลุ่มที่ชอบการกัดสุนัขเท่านั้น และเวียนมาที่สถานที่ดังกล่าวเพียงครั้งเดียวระยะเวลาสั้น ๆ ส่วนจะมีการเล่นการพนันหรือไม่นั้น ขณะนี้ได้สั่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องทุกราย หากพบว่ามีใครเกี่ยวข้องกระทำความผิดจะดำเนินคดีทุกคน โดยวันนี้พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำนายมนตรี สดสะอาด ลูกชายเจ้าของบ้าน นายอำพันธุ์ สดสะอาด เจ้าของบ้าน นางกมลวรรณ แซ่ตั้ง ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 จะเรียกผู้เกี่ยวข้องทุกรายที่ปรากฏในภาพมาสอบและจะออกหมายเรียกตามไปอีกครั้ง
   
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า แนวทางการสืบ สวนทราบว่าเมื่อช่วงวันที่ 10 ที่ผ่านมามีกลุ่มคนที่ชอบกัดสุนัขเดินทางมาจากกรุงเทพฯและ จ.นครราชสีมา
 
เพื่อนำสุนัขมาแข่งกัดกัน โดยมีการนำสุนัข 2-3 คู่มากัดซ้อมดูเชิงกันจริง แต่มีคู่หนึ่งที่เห็นในภาพที่ลงหนังสือพิมพ์ มีการจับสุนัขมากัดพนันเงินกันในวงเงินสูงถึง 1 ล้านบาท โดยมีคนล้อมวงเชียร์ไม่น้อยกว่า 20-30 คน แต่ว่าการจ่ายเงินกันนั้นไม่ได้จ่ายกันที่สังเวียนแต่จะโอนกันภายหลัง ซึ่งเมื่อแข่งขันกันเสร็จสิ้นแล้วก็แยกย้ายกันไป ขณะที่การตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบคราบเลือดของสุนัขติดตามข้างสังเวียนชนไก่จำนวนมาก คาดว่าในวันดังกล่าวต้องมีสุนัขที่ได้รับบาดเจ็บจริง ซึ่งตำรวจได้เก็บหลักฐานทั้งหมดและเตรียมล่าแก๊งใจโหดกลุ่มนี้มาดำเนินคดีต่อไป
   
ด้าน รศ.สพ.ญ.ดร.อัจฉริยา ไศละสูต นายกสัตวแพทยสมาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์กล่าวว่า การพนันกัดสุนัข นอกจากเป็นทารุณต่อสัตว์แล้ว ยังเป็นการทำให้เกิดโอกาสของการแพร่ระบาดในเชื้อพิษสุนัขบ้าด้วย เท่าที่ทราบข้อมูลจากหน้าหนังสือพิมพ์คาดว่าไม่ได้มีการตรวจโรคหรือการป้องกันการติดเชื้อแต่อย่างใด 
   
ส่วน นายโรเจอร์ โลหนันท์ เลขาธิการสมาคมพิทักษ์สัตว์ไทย กล่าวว่า ทราบเรื่องของการพนันกัดสุนัขมานานแล้ว
 
ซึ่งในแง่ของคนรักสัตว์ย่อมไม่พอใจอยู่แล้ว แต่ก็ทำอะไรไม่  ได้ โดยในแง่กฎหมายเพื่อเอาผิดกับคนที่ทารุณสัตว์ มีเพียงกฎหมายอาญามาตรา 382 มีโทษปรับ 1,000 บาท จำคุก 1 เดือน หรือ ทั้งจำ ทั้งปรับ และยังมีกฎหมายลักษณะพนันที่เข้ามาบังคับอีกด้วย อย่างไรก็ตาม พ.ร.บ.การทารุณกรรมสัตว์ ซึ่งยังไม่ผ่านการพิจารณาของสภา โดยห้ามนำสัตว์มาต่อสู้กันโดยไม่ได้ รับอนุญาต หากฝ่าฝืน มีโทษปรับถึง 40,000 บาท จำคุก 2 ปี นั้น ยังคงต้องรอดูว่า รัฐบาลชุดใหม่จะให้ความสำคัญกับกฎหมายฉบับนี้มากแค่ไหน
   
อย่างไรก็ตามทางด้าน นายปรีชา สมบูรณ์ประเสริฐ อธิบดีกรมปศุสัตว์ ได้สอบถามไปยังปศุสัตว์จังหวัดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว
 
โดยมีคำสั่งให้ปศุสัตว์ จ.นคร สวรรค์ เร่งตรวจฟาร์มทุกแห่งทั้งจังหวัด หากพบ สั่งยึดหมาพิตบูล ตาม พ.ร.บ.ห้ามเคลื่อนย้ายสัตว์นำเข้าประเทศ เป็นสายพันธุ์ดุร้าย อย่างไรก็ดีเข้าใจว่าสุนัขพันธุ์ดังกล่าวเป็นการเพาะขยายพันธุ์ในประเทศ เนื่องจากไม่มีกฎหมายเข้าไปดูแลการเพาะขยายพันธุ์สัตว์เลี้ยง ในเรื่องกรมปศุสัตว์ จะใช้กฎหมายโรคระบาดสัตว์เข้าไปตรวจสอบที่บ่อนดังกล่าว และฟาร์ม ว่าสุนัขเหล่านี้มีประวัติการทำวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้าหรือไม่หากไม่มีต้องโทษปรับเพียงสองร้อยบาทเท่านั้น หรือหากไม่มีหลักฐานการทำวัคซีน กรมฯจะใช้อำนาจกักสัตว์ไว้ตรวจสอบว่าเป็นพาหะของโรค ซึ่งเป็นระยะเวลาสั้น ๆ.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์