มีไฟไหม้อีก ร.ร.ภาคอีสาน หนนี้โผล่ที่ศรีสะเกษ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 05.10 น. วานนี้ (25 ธ.ค.) พ.ต.ต.สุนันธิวัฒน์ พรมทา สารวัตรเวร สภ.อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนปรางค์กู่ ต.พิมาย อ.ปรางค์กู่ โรงเรียนระดับมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 จึงนำกำลังพร้อมรถดับเพลิง 8 คัน รุดไประงับเหตุ พบว่าที่เกิดเหตุเป็นอาคารไม้ 2 ชั้น ยกพื้นสูง เพลิงได้ลุกโหมห้องหมวดคณิตศาสตร์ ที่อยู่ริมขวาสุดชั้นสอง และลามลงไปยังห้องเก็บเครื่องดนตรีโปงลางด้านล่างอย่างรวดเร็ว เนื่องจากมีลมกระโชกแรง ระดม ฉีดน้ำสกัด 2 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ

สอบสวนนายวรรณกิจ อินทรประพงศ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนปรางค์กู่ ให้การว่า โรงเรียนแห่งนี้เปิดสอนตั้งแต่ ชั้น ม.1-ม.6 มีนักเรียน 1,888 คน ครู 55 คน ครูอัตราจ้าง 16 คน ลูกจ้าง 7 คน นักการภารโรง 3 คน ส่วนอาคารที่เกิดเหตุเป็นอาคารแบบ 216 ก. ขนาด 16 ห้องเรียน สร้างเมื่อปี 2519 งบประมาณ 1.5 ล้านบาท สำหรับวันนี้เป็นวันที่ทางโรงเรียนจัดสอบกลางภาค ได้สั่งเลื่อนการสอบออกไปเป็นวันที่ 26 ธ.ค.แล้ว ส่วนค่าเสียหายประมาณ 1 ล้านบาท

ทางด้าน พ.ต.ท.สมบูรณ์ วิเชียรจรัส รอง ผกก.สส. สภ.อ.ปรางค์กู่ เปิดเผยว่า จากการสอบสวนทราบว่านายทวีศักดิ์ ศรีสุข ครูเวร กับนายประยนต์ อสิพงศ์ นักการภารโรง เข้าเวรดูแลสถานที่ นอนอยู่ที่ตึกอำนวยการ ก่อนเกิดเหตุ นายสุเทียบ พงษ์ธนู ยามรักษาการณ์ของโรงเรียนได้ยินเสียงคล้ายประทัดดังขึ้นที่ห้องเกิดเหตุแล้วไฟฟ้าได้ดับลง หลังจากนั้นก็เห็นเปลวไฟลุกในห้องจึงวิ่งไปตามครูที่บ้านพักในโรงเรียนช่วยดับเพลิง ส่วนนายทวีศักดิ์วิ่งไปสับคัตเอาต์ และแจ้งตำรวจมาระงับเหตุ หลังเกิดเหตุได้ประสานเจ้าหน้าที่วิทยาการ ภ.จ.ศรีสะเกษ มาตรวจที่เกิดเหตุแล้ว พบห้องเกิดเหตุมีเครื่องคอมพิวเตอร์ 2 เครื่อง คาดว่าสาเหตุอาจเกิดจากเสียบปลั๊กเครื่องคอมพิวเตอร์ ไม่แน่น หรือหนูอาจกัดสายไฟฟ้าทำให้ไฟฟ้าลัดวงจรแล้วเพลิงไหม้ขึ้น แต่ต้องรอผลตรวจจาก เจ้าหน้าที่วิทยาการอีกครั้ง

ต่อมา นายสันทัด จัตุชัย ผวจ.ศรีสะเกษ พล.ต. ธีรศักดิ์ ฤทธิวงศ์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 และคณะ เดินทางไปตรวจที่เกิดเหตุ โดยมี พ.ต.อ.วิรัตน์ อาภาเขต ผกก.สภ.อ. ปรางค์กู่ รายงานผลการสอบสวนเบื้องต้นว่าเพลิงได้ลุกไหม้ที่โต๊ะคอมพิวเตอร์ในห้องหมวดคณิตศาสตร์ และลามไปทั้งห้อง จากนั้น พล.ต.ธีรศักดิ์เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้โรงเรียนต่างๆ ที่สร้างมานานกว่า 15 ปี ตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้าให้แล้วเสร็จภายในสิ้นปี และมอบหมายให้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดหางบประมาณซื้ออุปกรณ์ ดับเพลิง อาทิ ถังดับเพลิงเคมี ถังน้ำ ถังทราย ขวาน เพื่อใช้ได้ทันท่วงที ส่วนสาเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ส่วนประเด็นวางเพลิงสร้างสถานการณ์ก็ยังไม่ตัดทิ้ง

ส่วนการสอบสวนหาสาเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนชั้นอนุบาลโรงเรียนประสารวิทยา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เช้าวันเดียวกัน พล.ต.ต.อำนาจ อันอาตม์งาม ผบก.ภ.จ. นครราชสีมา พ.ต.อ.สุวัฒน์ พุ่มพันธ์ ผกก.สภ.อ.สีคิ้ว และ พ.ต.ท.สมชัย ใจสูงเนิน สารวัตรเจ้าของคดี นำตัวนายนงค์ พยัคฆเดช อายุ 37 ปี กับนายอำนวย ติ๊บกันเงิน อายุ 54 ปี ช่างรับเหมาซ่อมแซมโครงหลังคาอาคารเรียนดังกล่าว มาสอบปากคำเพิ่มเติม โดยมีนายวันชัย ศิริเมธาวี ประธานชุมชนร่มโพธิ์ทอง ต.สีคิ้ว ให้การเป็นพยานยืนยันว่า เห็นนายนงค์วิ่งออกจากที่เกิดเหตุอย่างมีพิรุธ

จากการสอบสวนนายนงค์ ยอมรับสารภาพว่า รับงานซ่อมหลังคาอาคารดังกล่าวจากนายณรงค์ หมวกสันเทียะ ผู้รับเหมา ก่อนเกิดเหตุปีนขึ้นไปใต้เพดานหลังคาทำการเชื่อมโครงเหล็กทางด้านทิศใต้ของอาคาร โดยนายอำนวยคอยส่งเหล็กและอุปกรณ์การเชื่อม หลังจากเชื่อมโครงหลังคาล็อกแรกเสร็จ กำลังจะเชื่อมล็อกที่ 2 บริเวณใต้รางรับน้ำฝน สะเก็ดไฟได้ตกใส่กันสาดชั้น 2 ของอาคารจนเกิดเพลิงไหม้ ตนและนายอำนวยพยายามช่วยกันตักน้ำสาดดับไฟ แต่น้ำสาดไปไม่ถึง จนไฟลุกลามรุนแรง ด้วยความตกใจจึงวิ่งออกจากที่เกิดเหตุตั้งใจจะไปบอกเจ้าของโรงเรียนให้แจ้งรถดับเพลิงมาระงับเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อหานายนงค์กับนายอำนวย ว่าร่วมกันกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้เกิดเพลิงไหม้

ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 เช้าวันเดียวกัน พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 กล่าวถึงเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนปรางค์กู่ ว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.สุรสีห์ สุนทรศารทูล รอง ผบช.ภ.3 พร้อมด้วยตำรวจวิทยาการเขต 2 ลงไปตรวจที่เกิดเหตุแล้ว เบื้องต้นตั้งประเด็นสาเหตุเพลิงไหม้ 4 ประเด็น คือ อุบัติเหตุ ความประมาท ลอบวางเพลิง และเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และได้รายงาน พล.ท.สุเจตน์ วัฒนสุข แม่ทัพภาคที่ 2 ทราบ มอบหมายให้ พล.ต.ธีรศักดิ์ ฤทธิวงศ์ รองแม่ทัพภาค 2 ไปตรวจที่เกิดเหตุแล้ว

ผบช.ภ.3 กล่าวต่อว่า ส่วนเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนเอกชนประสารวิทยา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา พนักงานสอบสวนได้ดำเนินคดีกับนายนงค์ พยัคฆเดช และนายอำนวย ติ๊บกันเงิน ช่างที่มาซ่อมแซมหลังคาอาคารเรียน ที่เชื่อมเหล็กโครงหลังคาอาคาร แล้วสะเก็ดไฟกระเด็นไปถูกพลาสติกกั้นห้องเรียนจนเกิดเพลิงไหม้ ส่วนเหตุเพลิงไหม้อาคารเรียนโรงเรียนสกัดนากวิทยา ต.สุขไพบูลย์ อ.เสิงสาง จ.นครราชสีมา ซึ่งต้นเหตุเพลิงไหม้เกิดจากการกระทำของบุคคลหรือการลอบวางเพลิง การสอบสวนคืบหน้าไปมาก ในวันที่ 29 ธ.ค. นี้ ชุดสืบสวนและชุดสอบสวนจะประชุมร่วมกันเพื่อสรุปสำนวนก่อนจะระบุกลุ่มคนร้ายที่เผาโรงเรียน

พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 กล่าวต่อว่า ในวันที่ 26 ธ.ค. เวลา 10.00 น. พล.ต.อ.พัชรวาท วงศ์สุวรรณ รอง ผบ.ตร. ได้เชิญผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดที่เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนทั่วประเทศยกเว้นภาคใต้ ไปประชุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้ชี้แจงเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นในแต่ละแห่งพร้อมจะกำชับเรื่องการปฏิบัติหน้าที่ดูแลป้องกันเหตุเพลิงไหม้โรงเรียนที่อาจจะเกิดขึ้นอีก

นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงสถานการณ์ไฟไหม้โรงเรียนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในภาคเหนือและภาคอีสานว่า สาเหตุที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะมาจากการลอบวางเพลิงหรืออุบัติเหตุ กระทรวงศึกษาธิการและรัฐบาล มีความเป็นห่วงและต้องการหาสาเหตุ รวมทั้งมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวดให้ได้ โดยกรณีลอบวางเพลิงต้องเร่งจับคนร้ายให้ได้ เพราะอาจทำให้คนอื่นตีความกันไปต่างๆได้ว่าเกิดจากคลื่นใต้น้ำ หรือความขัดแย้งส่วนตัว ทั้งนี้ สาเหตุไฟไหม้โรงเรียนมีทั้งเกิดจากอุบัติเหตุและการลอบวางเพลิง ซึ่งบางกรณีก็สามารถหาต้นตอได้ แต่ บางกรณีก็ยังเป็นปริศนาอยู่ คงต้องปล่อยให้เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงเป็นผู้ดำเนินการ ตนมองว่าการดูแลเฝ้าเวรยามตลอด 24 ชั่วโมง น่าจะสามารถป้องกันปัญหาได้ในระดับหนึ่ง และอยากให้ครูมาช่วยกันผลัดเปลี่ยนเวรยามด้วย เนื่องจากโรงเรียนแต่ละโรงมีภารโรง 1-2 คนเท่านั้น