โจ๋ภูเก็ตโหดยิงอริมองหน้า-คาสี่แยก

"โจ๋ ถูกมองหน้า แค้นยิงดับกลางแยก"


วัยรุ่นภูเก็ตโหด ซิ่งจยย.ยิงดับคู่อริลูกผู้ใหญ่บ้านวัย 15 กลางสี่แยกไฟแดง ตร.ตามรวบตัวได้ทันควัน สารภาพขับไปรวมกลุ่มบริเวณวงเวียนถูกมองหน้าท้าทาย เลยแค้นตามไปยิง ถูกรวบคุมตัวทำแผนฯ

เมื่อเวลา 00.45 น. วันที่ 24 ธ.ค. พ.ต.ต.วิชาญ สุวรรณสิทธิ์ สารวัตรเวร สภ.อ.เมืองภูเก็ต ได้รับแจ้งว่ามีเหตุกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุยิงกันตายเหตุเกิดบริเวณหน้าสี่แยกเทพทุ่งคา(โรงเรียนสตรี) ถ.เทพกษัตรีย์ ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต หลังรับแจ้งจึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบตามลำดับ จากนั้นรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข ผกก. สภ.อ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ท.สมปอง บุญรัตน์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.สมคิด บุญรัตน์ สว.สส. สภ.อ.เมืองภูเก็ต พ.ต.ต.พงศ์นริทร์ สุทิน สวป. สภ.อ.เมืองภูเก็ต และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจมูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบกลุ่มวัยรุ่นกำลังมุงดูเหตุการณ์อยู่เป็นจำนวนมากจุดเกิดเหตุเป็นสี่แยกไฟแดงตรงพื้นถนนพบร่างของชายวัยรุ่นนอนหงายจมกองเลือดอยู่หายใจรวยรินเจ้าหน้าที่พยายามทำการช่วยชีวิตแต่ก็ไม่ทันเสียชีวิตคาที่อยู่ในที่เกิดเหตุ จากการชันสูตรพลิกศพทราบชื่อภายหลังชื่อนายชุมพล เรื่องดำ อายุ 15 ปี อยู่บ้านเลขที่ 112 ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เป็นลูกของนายประเสริฐ เรืองดำ ผู้ใหญ่บ้าน ม.3 ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต สภาพศพสวมเสื้อยืดสีดำนุ่งกางเกงยีนส์ขาสั้นสีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนลูกซองไม่ทราบขนาดเข้าที่บริเวณด้านหลัง เป็นรู 6 รู กระจุกอยู่ และที่บริเวณกลางศีรษะถูกแทงด้วยของแข็งเป็นแผลฉกรรจ์

"ตบด้วยปืน แล้วยิงซ้ำ"


ทั้งนี้จากการสอบสวน น.ส.ภรกาตน์ วิจิตร อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 ถ.ดำรง ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ขณะที่ตนขับขี่รถจยย.กำลังจะกลับบ้านพบเห็นผู้ตายและเพื่อนๆ ขับขี่รถจยย.มาเป็นกลุ่มประมาณ 5 คัน จำนวน 10 กว่าคน ขับมุ่งหน้ามาจากหน้าเรือนจำเพื่อมุ่งหน้าไปยังสี่แยกสตรีโดยมาติดไฟแดงอยู่ที่บริเวณสี่แยกหน้าโรงเรียนสตรีภูเก็ตจุดเกิดเหตุใกล้ๆ กับตน จากนั้นไม่นานได้มีกลุ่มวัยรุ่นขับรถจยย. 5 คันประมาณ 10 คนขับตามหลังมาตามหลังมาพร้อมทั้งชักอาวุธขึ้นมาใช้อาวุธปืนดังกล่าวตบเข้าที่ศีรษะของผู้ตาย จากนั้นเพื่อนผู้ตายที่ขับขี่รถจยย. มาด้วยกันหันมาเห็นอาวุธปืนจึงได้ขับรถออกหนีอย่างไม่คิดชีวิต แต่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวได้ใช้อาวุธปืนยิงไปที่ผู้ตาย และเพื่อนผู้ตายได้ขับรถเลี้ยวซ้ายหนีไปทางสะพานหินโดยมีผู้ตายนั่งไปด้วย ประมาณ 150 เมตร ก่อนที่ผู้ตายจะตกจากรถจยย. ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีน้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียน ลงมานอนเสียชีวิตดังกล่าวโดยที่เพื่อนผู้ตายที่ขับรถจยย.มาด้วยขับหนีโดยไม่หันมามองผู้ตาย จากนั้นตนจึงได้โทร.แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว

จากนั้นไม่นาน พ.ต.อ.ณษ เศวตเลข ผกก. สภ.อ.เมืองภูเก็ต ได้สั่งการให้ตั้งจุดสกัดเส้นทางที่คนร้ายจะหลบหนี พร้อมทั้งสั่งการให้พ.ต.ท.สมคิด และชุดสืบสวนเร่งติดตามกลุ่มเพื่อนของผู้ตายที่ขับขี่รถจยย. มาด้วยกัน เนื่องจากทราบตัวคนร้ายแล้วว่าเป็นกลุ่มใดและคนร้ายเป็นคนที่รู้จักและเคยเป็นคู่อริที่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาทใช้อาวุธปืนไล่ยิงกันมาก่อนหลายครั้งกับผู้ตายโดยมีคนรู้จักบ้านของมือปืนที่ก่อเหตุรายนี้ดีเกรงว่าจะหลบหนีออกนอกพื้นที่

"แค้น ถูกมองหน้าด่าพ่อแม่"


ต่อมาเมื่อเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนกว่า 10 นาย ได้นำกำลังบุกไปยังบ้านเช่าไม่มีเลขที่ ถ.เยาวราช ต.ตลาดใหญ่ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ตามที่ได้รับรายงานพบว่ามีกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวที่ก่อเหตุยิงนายชุมพล เสียชีวิต อยู่ภายในบ้านเช่าดังกล่าวจึงได้นำกำลังบุกเข้าตรวจค้นพบวัยรุ่น 2 คนทราบชื่อคือนายปิยะวุฒิ หรือแอ๊บ ปัทมปาณีวงศ์ อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/19 ม.1 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต และนายวิรัตน์ หรือดำ ทองชู อายุ 20 ปี อยู่บ้านเลขที่ 84/30 ม.1 ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต นั่งอยู่ภายในบ้านจากนั้นได้ตรวจค้นภายในห้องนอนพบอาวุธปืนลูกซอง ขนาดเบอร์ 12 ยี่ห้อ Sellier&Bellot จำนวน 1 กระบอก และกระสุนปืนลูกซองจำนวน 4 นัดอยู่ข้างหมอนหนุน ภายในห้องนอนจึงได้ยึดไว้เป็นหลักฐานและได้ควบคุมตัวมายังสภ.อ.เมืองภูเก็ต พร้อมยึดรถจยย.ยี่ห้อยามาฮ่า มีโอ สีส้ม ทะเบียน กษษ 238 ภูเก็ต

จากการสอบสวนนายปิยะวุฒิ หรือแอ๊บ ทราบว่าขณะที่ขับรถจยย.เที่ยวกับเพื่อนในกลุ่มภายในตัวเมืองได้พบกลุ่มผู้ตายขับขี่รถจยย. หน้าวงเวียนสุรินทร์ (วงเวียนหอนาฬิกา) จากนั้นนายชุมพล ผู้ตายพร้อมเพื่อนได้ขับรถชะลอและหันมามองหน้าพวกตนที่ขับรถอยู่พร้อมทั้งทำท่าทางท้าทายและด่าพ่อล่อแม่กลุ่มพวกตนและขับรถหลบหนีไปทางเรือนจำจากนั้นตนเองและพวกจึงได้ขับรถจยย. ติดตามไปจนไปทันกันที่สี่แยกโรงเรียนสตรีภูเก็ตและได้ชักอาวุธปืนขึ้นพร้อมทั้งตบไปที่หัวผู้ตายที่นั่งซ้อนท้ายก่อนที่เพื่อนผู้ตายจะพยายามขับรถหนีจึงได้ยิงปืนไปทางผู้ตาย 1 นัด ก่อนแยกย้ายกันหลบหนี จนมาถูกจับกุมได้ในที่สุด

ต่อมาเมื่อเวลา 09.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.อ.เมืองภูเก็ตกว่า 20 นายได้นำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพยังจุดเกิดเหตุท่ามกลุ่มญาติของผู้ตายที่มารอดักอยู่เป็นจำนวนมากรวมทั้งประชาชนที่สัญจรไปมาจอดรถลงมายืนดูการทำแผนประกอบการรับสารภาพเป็นจำนวนมาก ซึ่งเหตุการณ์ก็ผ่านไปได้ด้วยดี

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์