ช่วยฝรั่งผู้ดีหลงป่าเกาะพะงันข้ามวัน

เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเกาะพะงัน ร่วมกับชุดอาสาสมัครสำรองเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี และกำลังกว่า 50 คน ช่วยกันค้นหานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่หลงป่าบริเวณหน้าผาโฉลกหลำ ม.7 ต.เกาะพะงัน หลังจากที่ชุดค้นหาชุดแรกค้นหาตั้งแต่เวลา 20.00น. ของคืนวันที่ 18 ธ.ค. แต่ยังไม่พบนักท่องเที่ยว

จนกระทั่งเมื่อเวลา 10.30 น. ชุดค้นหาที่ 2 ได้พบและช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษ 2 คนได้อย่างปลอดภัย ทราบชื่อว่านายไมเคิล เกรท อายุ 30 ปี สัญชาติอังกฤษ และน.ส.เวโรนิกา อายุ 27 ปี สัญชาติอังกฤษแฟนสาว ทั้งสองอยู่ในสภาพอิดโรย จากการอดน้ำอดอาหาร หลังจากที่หลงป่าตั้งแต่เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 18 ธ.ค. เป็นเวลารวมกว่า 19 ชั่วโมง

นายชัชพล แตงประดิษฐ์ หัวหน้าศูนย์กู้ภัยเกาะพะงัน กล่าวว่า ช่วงเย็นวันที่ 18 ธ.ค. หน่วยกู้ภัยเกาะพะงันได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือทางโทรศัพท์จากนายไมเคิลว่าหลงอยู่ในป่าบริเวณผาโฉลกหลำ-หาดขวด จึงประสานงานไปยังนายบุรี รัตนธรรม ปลัดอาวุโส รักษาการนายอำเภอเกาะพะงัน นำกำลังอาสาสมัครร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเกาะพะงัน และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติธารเสด็จ เข้าไปค้นหาช่วยเหลือตลอดทั้งคืน ระหว่างค้นหาได้จุดพลุและยิงปืนส่งสัญญาณตลอดคืน แต่ก็ไม่พบคนทั้งสองแต่อย่างใด

เวลาต่อมานักท่องเที่ยวชาวอังกฤษได้โทรศัพท์ติดต่อกลับมายังศูนย์กู้ภัยเกาะพะงันอีกครั้ง แจ้งว่าขณะนี้ไม่มีอาหารแล้ว ขอให้จัดเฮลิคอปเตอร์ไปรับโดยด่วน หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้ คาดว่าแบตเตอร์รี่โทรศัพท์มือถือหมด ทางอำเภอเกาะพะงันจึงได้ประสานงานเพื่อขอการสนับสนุนจากกองทัพเรือ กองเรือภาคที่ 2 ให้จัดเฮลิคอปเตอร์เข้าไปช่วยเหลือ แต่ด้วยสภาพอากาศที่ไม่เอื้ออำนวย จึงไม่สามารถนำเฮลิคอปเตอร์ขึ้นไปได้

ต่อมานายบุรี ได้จัดชุดช่วยเหลือเป็น 2 ชุดเดินหน้ากระดานเข้าป่า ชุดที่หนึ่งออกจากหาดขอม-โฉลกหลำ ชุดที่สองเดินทางจากท้องนายปาน พร้อมจุดพลุและยิงปืน นายไมเคิลได้ติดต่อทางโทรศัพท์มือถือกลับมาว่าได้ยินเสียงแล้ว และแจ้งกลับว่าให้อยู่ในพิกัดที่ได้ยินเสียง จนกระทั่งชุดค้นหาก็ได้พบตัวนายไมเคิลพร้อมแฟนสาว ที่ลานหินโฉลกหลำห่างจากหาดโฉลกหลำไปประมาณ 3 ก.ม. นักท่องเที่ยวทั้งสองคนอยู่ในอาการอ่อนเพลีย จึงส่งไปรักษาตัวที่ร.พ.เกาะพะงันจนอาการปลอดภัย

จากการสอบถามนายไมเคิล เล่าว่าหลังจากนั่งเรือหางจากหาดขวดมาเที่ยวที่หาดริ้น อ.เกาะพะงันพร้อมแฟนสาว แต่ขากลับไม่สามารถนั่งเรือกลับได้ เนื่องจากมีคลื่นลมแรง จึงตัดสินใจเดินเท้าเข้าป่า แต่ด้วยความไม่ชำนาญเส้นทางจึงหลงทาง