ลูกบิน ลาเดนแถลงยังไม่เชื่อพ่อตาย

 

คมชัดลึก :ลูกชายของ"โอซามา บิน ลาเดน"ออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐฯที่สังหารพ่อตามอำเภอใจ แจงยังไม่เชื่อพ่อเสียชีวิตเพราะยังไม่เห็นศพยืนยัน

 นอกจากนี้ยังตั้งคำถามว่า ทำไมคนไร้อาวุธอย่างพ่อไม่ถูกจับกุมและนำตัวขึ้นพิจารณา

คดีในศาลเหมือนอดีตประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนของอิรัก และอดีตประธานาธิบดีสโลโบดัน มิโลเซวิชของเซอร์เบีย และหากพ่อถูกประหารอย่างรวบรัดโดยไม่มีการดำเนินคดี ก็อาจเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศและหลักการของสหรัฐเรื่องสิทธิได้รับการพิจารณาคดีอย่างยุติธรรม พร้อมกับยืนยันว่าการสังหารคนตามอำเภอใจไม่ใช่หนทางแก้ไขปัญหาทางการเมือง และเรื่องนี้จำเป็นต้องได้รับความยุติธรรม พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลปากีสถานปล่อยตัวสมาชิกในครอบครัวทุกคน โดยเฉพาะผู้หญิงด้วย

 นายโอมาร์ยังวิจารณ์ปฏิบัติการลับของสหรัฐที่ทำให้ลูกอีกคนของพ่อและภรรยาคนหนึ่งของพ่อได้รับบาดเจ็บ

โดยประณามประธานาธิบดีบารัก โอบามา ที่สั่งให้ประหารชายและหญิงที่ไม่มีอาวุธระหว่างการบุก และบอกว่าหากไม่มีการตอบข้อสงสัยในหลายประเด็น พวกเขาก็อาจจะทวงความยุติธรรมจากศาลอาญาระหว่างประเทศและศาลยุติธรรมระหว่างประเทศและสหประชาชาติจะต้องช่วยพวกเขาหาคำตอบ และทางครอบครัวได้เตรียมทีมกฎหมายนานาชาติเพื่อดำเนินการใดๆ หากไม่ได้รับคำตอบภายใน 30 วันนับจากนี้

 นอกจากนี้ยังมีแถลงการณ์อีกฉบับปรากฏในเวบไซต์ของมุสลิมหัวรุนแรง ระบุว่าการนำศพของบิน ลาเดนไปไว้ในทะเล ถือเป็นการลบหลู่ดูหมิ่นทางครอบครัว 

 ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่เปิดเผยชื่อ ออกมาตอบโต้ข้อกล่าวหาของลูกๆของบิน ลาเดน โดยระบุว่า มาตรา 51 ในกฎบัตรของสหประชาชาติ ให้สิทธิแต่ละประเทศในการปกป้องตัวเอง ล่าสุดองค์กรอิสระจับตาข่าวกรองเรื่องการก่อการร้ายของสหรัฐ เปิดเผยว่าอัลไกด้าเรียกร้องให้ชาวมุสลิมออกมาแก้แค้นให้กับบิน ลาเดน และบอกว่าชาวอเมริกันจะต้องชดใช้บทเรียนครั้งนี้ นอกจากนี้ยังระบุว่าการสังหารบิน ลาเดน เป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่และเป็นบาปร้ายแรง พร้อมกับกล่าวโทษว่าประธานาธิบดีโอบามา ได้นำหายนะมาสู่ประชาชนชาวสหรัฐ

 ส่วนอดีตประธานาธิบดีเปอร์เวซ มูชาร์ราฟของปากีสถาน ออกมาชี้แจงเมื่อวานว่ารัฐบาลของเขาไม่ได้ทำข้อตกลงกับสหรัฐเมื่อหลายปีก่อนว่าจะยอมให้ทหารสหรัฐเข้าไปจับเป็นหรือจับตาย บิน ลาเดนในดินแดนของปากีสถาน


เว็บไซท์หนังสือพิมพ์เทเลกราฟ รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงของปากีสถานว่า

ญาติคนหนึ่งของโอซาม่า บิน ลาเดน ได้หายตัวไปในระหว่างที่หน่วยเนวี ซีล ของสหรัฐ ใช้ปฏิบัติการบุกจู่โจมแหล่งกบดานและสังหารเขา ส่งผลให้เกิดความสับสนในเรื่องชะตากรรมของบุตรชายของเขา ที่ได้ฉายาว่า " มกุฎราชกุมารแห่งการก่อการร้าย "

 ภรรยาม่าย 3 คน ของบิน ลาเดน ยังอยู่ในความควบคุมตัวของทางการปากีสถาน

และได้ให้ปากคำต่อเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า ไม่เห็นลูกชายคนหนึ่งของบิน ลาเดน นับตั้งแต่ถูกหน่วยเนวี ซีล บุกเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม และข้อมูลล่าสุดนี้ ทำให้เกิดความวิตกว่า " ฮัมซ่า " บุตรชายคนเล็กที่ได้รับความไว้วางใจที่สุดของผู้นำอัล ไกดา สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้ หลังจากทำเนียบขาว อ้างก่อนหน้านี้ว่า ฮัมซ่า วัย 20 ปี ถูกสังหารในบ้าน ที่เมืองอับบอตตาบัด พร้อมกับบิดา แต่ได้มีการแก้ไขข้อมูลว่า คนที่เสียชีวิต คือ คาลิด พี่ชายวัย 22 ปี ของเขา

 แหล่งข่าวด้านข่าวกรองในกรุงอิสลามาบัด เปิดเผยต่อเทเลกราฟว่า ข้อมูลที่มีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น บวกกับคำให้การของบรรดาภรรยาม่าย ทำให้พวกเขาไม่แน่ใจเกี่ยวกับบุคคลอีก 1 คนที่อยู่ในบ้านหลังนี้ว่า เป็นลูกชายของบิน ลาเดน หรือเป็นคนอื่น

 บิน ลาเดน ซึ่งแต่งงาน 5 ครั้ง มีลูกมากถึง 24 คน แต่ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า ใครอยู่ในบ้านเดียวกับบิน ลาเดน มานาน 5 ปี
 
แต่มีรายงานว่า แคเรียห์ ซาบาร์ มารดาของฮัมซ่า ก็อยู่ในความควบคุมของทางการปากีสถาน ส่วนฮัมซ่า ถูก ส.ส.แพทริค เมอร์เซอร์ ของอังกฤษ ตั้งสมญาให้เป็นมกุฎราชกุมารแห่งการก่อการร้าย เพราะภาพของเขาถูกเผยแพร่ในเว็บไซท์ของพวกหัวรุนแรงในวันครบรอบปีที่ 3 ของการใช้ระเบิดโจมตีระบบขนส่งมวลชนของสหรัฐ เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 52 คน และเขายังอ่านบทกวีเรียกร้องให้ทำลายอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศสและเดนมาร์ค หน่วยข่าวกรองเชื่อว่า เขาอาจได้รับการวางตัวให้ขึ้นเป็นผู้นำอัล ไกดา ในอนาคต และเขามีส่วนร่วมในการลอบสังหารอดีตนายกรัฐมนตรีเบนาซีร์ บุตโต ของปากีสถาน

 เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์แล้ว หลังจากภรรยาและลูก 12 คน ของบิน ลาเดน ถูกนำตัวไปจากบ้านในเมืองอัตบอตตาบัด
 
แต่เจ้าหน้าที่สอบสวนของสำนักข่าวกรองกลาง หรือ CIA ก็ยังไม่มีโอกาสได้สอบปากคำพวกเขา เพื่อค้นหาหลักฐานสำคัญ แต่ทางการสหรัฐมั่นใจว่า จะได้รับอนุญาตให้เข้าถึงพวกเขาในเร็ว ๆ นี้ แต่ทางการปากีสถาน ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ โดยบอกว่า ยังสอบสวนพวกเขาไม่เสร็จเรียบร้อย

 มีรายงานที่ส่งก่อให้เกิดความตึงเครียดบนความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐกับปากีสถาน ทะยอยออกมาอีก
 
จากการที่เจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐ ตำหนิหน่วยข่าวกรองปากีสถาน หรือ ISI ว่า รั่วข้อมูลเกี่ยวกับชื่อของหน้า CIA ประจำกรุงอิสลามาบัด เพื่อตอบโต้ที่ใช้ปฏิบัติการลับบุกบ้านบิน ลาเดน แต่ CIA  ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ผู้นี้จะไม่ถอนตัวออกจากปากีสถาน

 นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า หน่วยเนวี ซีล ได้รับไฟเขียวให้สังหารเจ้าหน้าที่ปากีสถาน ที่สร้างปัญหาให้ในระหว่างการบุก แต่ก็ให้หลีกเลี่ยงการเผชิญหน้าถ้าไม่จำเป็น


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์คมชัดลึก

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์