กดมือถือถล่มทหารเจ็บ 1 ตามด้วยเผา อีก 2 โรงเรียน

"ระเบิดศาลาที่พักผู้โดยสาร"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 23.45 น. วันที่ 17 ธ.ค. พ.ต.อ.อลงกรณ์ สีมาวุธ ผกก.สภ.อ.ธารโต จ.ยะลา พ.ต.ท.วิรุฬห์ สุวรรณวงศ์ รอง ผกก. (สส.) พ.ต.ต.สุวิทย์ ลายเจียร สวป. และกำลังไปสอบสวนเหตุวางระเบิดรถทหาร ริมถนนสายยะลา-เบตง บ้านเจาะซีโป ต.บ้านแหร พบจุดเกิดเหตุอยู่บริเวณศาลาพักผู้โดยสาร ที่โคนเสาศาลามีหลุมระเบิดกว้าง 1 เมตร ลึก 30 เซนติเมตร แรงระเบิดทำให้กระเบื้องหลังคาศาลาเสียหายกับรถตรวจการณ์ ตรากงจักร ที่จอดอยู่ใกล้กันถูกสะเก็ดระเบิดตัวถังเป็นรูพรุน และมีทหารได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 นาย คือพลทหารอธิวัฒน์ ภูงามนิล อายุ 22 ปี สังกัด ร้อย ร.3123 ฉก.14 ถูกสะเก็ดระเบิดทั่วลำตัวนำส่ง รพ.ธารโต

ในที่เกิดเหตุพบเศษชิ้นส่วนโทรศัพท์มือถือและเศษสะเก็ดระเบิดกระจายเกลื่อน สอบสวนทราบว่าขณะที่กำลังทหารชุดดังกล่าวนำรถตรวจการณ์ตั้งด่านตรวจบริเวณหน้าศาลาพักผู้โดยสาร แล้วเกิดระเบิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว เป็นเหตุให้พลทหารอธิวัฒน์ยืนอยู่ใกล้ศาลาถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัส เชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มโจรใต้ที่เคลื่อนไหวอยู่ในหมู่บ้านแอบนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 5 กก. มาวางไว้ที่ศาลาหวังสังหารหมู่กำลังทหารที่มาตั้งด่านตรวจ โดยกดชนวนระเบิดด้วยโทรศัพท์มือถือ

"รับสารภาพแต่ไม่ยอมซัดทอดผู้บงการ"


ส่วนความคืบหน้าคดีวางระเบิดโชว์รูมรถกลาง เมืองยะลา เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น เมื่อเวลา 14.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชร์ภูมิ ผกก.สภ.อ. เมืองยะลา พร้อมกำลังคุมตัวนายอาลาดิน มะสอ อายุ 26 ปี อยู่หมู่ 4 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ผู้ต้องหาวางระเบิดโชว์รูมรถ จยย.ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่ร้านน่ำฮั่วจั่น เลขที่ 407/1-2 ถนนสิโรรส อ.เมือง จ.ยะลา โดยรับสารภาพว่าเป็นคนนำระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนัก 5 กก. เข้าไปวางภายในร้านแต่ไม่ยอมซัดทอดถึงคนบงการ

ด้าน จ.ปัตตานี เมื่อกลางดึกวันที่ 17 ธ.ค. เกิดเหตุลอบวางเพลิงเผาโรงเรียน 2 แห่ง คือที่โรงเรียนบ้านกรือแซะ ม.1 ต.ยะรัง อ.ยะรัง หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.ต่วนเดร์ จุฑานันท์ รอง ผกก. (สส.) สภ.อ.ยะรัง พร้อมกำลังและรถดับเพลิงไปฉีดน้ำสกัด แต่ไม่ทัน ทำให้อาคารชั้นเดียววอดทั้งหลัง สาเหตุเชื่อถูกลอบวางเพลิง โดยคนร้ายงัดหน้าต่างด้านหลังอาคารเข้าไปราดน้ำมันจุดไฟก่อนหลบหนี



"วางเพลิงเผาอาคารเรียน"


อีกรายที่โรงเรียนบ้านบาโง ม.1 ต.ปานัน อ.มายอ ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงอาคารเรียนชั้นเดียวเสียหายบางส่วน ต่อมา พ.ต.อ.วัชรินทร์ อมราพิทักษ์ ผกก.สภ.อ.มายอ นำกำลังพร้อมรถดับเพลิงไปที่เกิดเหตุ พบประตู ผนังห้องเรียนและอุปกรณ์การเรียนถูกเผาเสียหาย หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ.จ.ปัตตานี ได้วิทยุด่วนที่สุดสั่งทุกโรงพักให้ระดมกำลังตรวจเข้มที่สุดทุกจุดทั้งสถานที่ราชการ บ้านเรือนประชาชน พร้อมตั้งจุดตรวจตามเส้นทางเพื่อป้องกันกลุ่มโจรออกก่อเหตุ

ส่วนกรณีที่นายอิสมาแอ กูเต๊ะ อายุ 25 ปี ที่ชาวบ้านกูแบสิรา ต.กอลำ อ.ยะรัง จ.ปัตตานี ถูกจับกุมในคดียิงชุดรักษาความปลอดภัย ภายหลังได้มีแกนนำในหมู่บ้านกูแบสิราปลุกระดมชาวบ้านที่เป็นผู้หญิงและเด็กชุมนุมประท้วงที่หน้าสถานีตำรวจยุทธศาสตร์เขาตูม อ.ยะรัง เพื่อกดดันให้เจ้าหน้าที่ปล่อยตัวนายอิสมาแอ กระทั่งมีการเจรจากันและยอมสลายตัวไปนั้น

"ชาวบ้านรวมตัวชุมนุมอีกครั้ง"


ต่อมาเช้าวานนี้ (18 ธ.ค.) กลุ่มชาวบ้านชุดเดิมกว่า 100 คน มารวมตัวกันอีกครั้งพร้อมปิดถนนสายปัตตานี- ยะลา หมู่ 4 ต.เมาะมาวี อ.ยะรัง บริเวณหน้าสถานียุทธศาสตร์เมาะมาวี ภายหลังนายวินัย คุรุวรรณพัฒน์ รอง ผวจ.ปัตตานี พล.ต.ต.ก่อเกียรติ วงศ์วรชาติ ผบก.ภ. จ.ปัตตานี พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ปิติเศรษฐพันธ์ รอง ผบก. นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามปัตตานีเดินทางมาเจรจา โดยชาวบ้านต้องการให้ปล่อยตัวนายอิสมาแอ กูเต๊ะ อ้างเป็นผู้บริสุทธิ์ หลังการเจรจาเจ้าหน้าที่ไม่ต้องการให้เหตุการณ์บานปลายจึงยอมให้ประกันตัวนายอิสมาแอ โดยให้นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานกรรมการอิสลามปัตตานี กับกลุ่มญาติผู้ต้องหาเซ็นรับรอง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหามาส่งมอบให้ญาติ ก่อนสลายตัวไปในเวลา 16.30 น. ระหว่างการชุมนุมกลุ่มแนวร่วมโจรใต้ได้ก่อกวนโดยโรยตะปูเรือใบ ตัดต้นไม้ วางระเบิดปลอมตามเส้นทางต่างๆใกล้กับที่ชุมนุม จนเจ้าหน้าที่ต้องออกตรวจสอบกันวุ่นทั้งวัน

ขณะที่ จ.สงขลา ร.ต.อ.พิภพ พรหมยก รอง ผบ.ร้อย ฉก.ตชด.ที่ 4302 อ.เทพา จ.สงขลา พร้อมกำลังควบคุมตัวนายซูฮา เจ๊ะปอ อายุ 39 ปี อยู่หมู่ 5 ต.ฆอเลาะ อ.แว้ง จ.นราธิวาส ขณะเดินสำรวจเส้นทางรถไฟบริเวณ หมู่ 5 บ้านท่าแมงลัก ต.เกาะสะบ้า อ.เทพา ค้นเป้สะพายพบแผนที่สถานที่สำคัญๆ รวมทั้งค่าย ตชด.และค่ายทหาร นำตัวส่งให้ พ.ต.อ.สมพงษ์ ขอนแก่น ผบ.ฉก.ตชด.4 สอบสวน แต่นายซูฮาพูดจาวกไปวนมาลักษณะเหมือนคนสติไม่สมประกอบ แถมไม่ยอมกินน้ำและอาหาร เลยส่งตัวไปค่ายอิงคยุทธบริหาร อ.หนองจิก จ.ปัตตานี สอบสวนอีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากสงสัยเป็นแนวร่วมโจรใต้

"แต่งกายเลียนแบบทหาร เพื่อให้ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นฝีมือรัฐบาล"


ที่กระทรวงมหาดไทย นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว. มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. ในฐานะประธาน คมช. ระบุว่ามีการเมืองท้องถิ่น เข้ามามีส่วนในการก่อความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ยังไม่ทราบเรื่อง คงต้องตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องอีกครั้ง ส่วนกรณีที่นายกูเฮง สะอิ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านควนลาแม ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี ยิงคนร้ายตาย 2 ศพ และตัวเองบาดเจ็บนั้น จะหารือร่วมกับนายชาญชัย สุนทรมัฏฐ์ อธิบดีกรมการปกครอง เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านขวัญกำลังใจ แต่สำหรับเรื่องการล้างแค้นเชื่อว่าจะเกิดขึ้นอีก เพราะเหตุการณ์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นก็เกิดจากการล้างแค้นทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ทางกองทัพภาคที่ 4 และ ศอ.บต.ได้เตรียมการไว้พร้อมแล้ว

เมื่อถามถึงเรื่องที่คนร้ายได้แต่งกายเลียนแบบทหารแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ นายอารีย์ตอบว่า เป็นตัวอย่างที่จะทำให้ชาวบ้านได้เห็นชัดว่าการก่อเหตุที่ผ่านมาไม่ใช่ฝีมือเจ้าหน้าที่รัฐ แต่เป็นการแอบอ้างของคนร้าย พร้อมชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจถึงวิธีการของคนร้าย จะทำให้ความเข้าใจระหว่างกันดียิ่งขึ้น ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ก.พ. ยังไม่รับรองตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยของนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต. นายอารีย์ตอบว่า ได้รับคำชี้แจงจาก ก.พ.ว่าจะแก้ไขกฎหมายให้ถูกต้องก่อนและเป็นการแก้เพียงบางส่วนเท่านั้น คิดว่าคงไม่ล่าช้า เพราะ ก.พ.ยืนยันแล้วว่าจะสามารถชี้แจงให้ สนช.พิจารณาอนุมัติได้

"ให้การช่วยเหลือ ผญบ.สู้โจร"


ขณะที่นายชาญชัย สุนทรมัฏฐ์ อธิบดีกรมการปกครอง กล่าวถึงเรื่องการช่วยเหลือผู้ใหญ่บ้านที่ได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกับกลุ่มโจรว่า จะให้ความช่วยเหลือเป็นกรณีพิเศษ โดยเป็นหน้าที่ของทางจังหวัดที่จะกำหนดให้ความช่วยเหลือ ทั้งนี้ จะมีการพิจารณานำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯขอเครื่องราชอิสริยาภรณ์หรือมอบเหรียญตราเป็นการเชิดชูเกียรติ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีระเบียบที่ชัดเจนในการปูนความดีความชอบแก่กำนัน ผู้ใหญ่บ้านที่ปฏิบัติงานอย่างทุ่มเท ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นกรณีศึกษา เพราะไม่เพียงแค่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เท่านั้นที่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านทำงานอย่างเต็มที่ แต่ในพื้นที่อื่นๆ ก็ได้ มีส่วนช่วยเหลือในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอีกมาก

ส่วนนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.กองพุทธศาสนสถาน สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ในฐานะที่ได้รับมอบหมายดูแลและสนองงานคณะสงฆ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวว่า ปลายเดือน ธ.ค.นี้ ทาง พศ.จะดำเนินการแจกวิทยุสื่อสารให้กับวัดทุกวัดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 230 วัด วัดละ 2 เครื่อง เพื่อใช้ติดต่อสื่อสารกับทางเจ้าหน้าที่ เมื่อเกิดเหตุการณ์รุนแรงในพื้นที่ที่ส่งผลกระทบต่อพระ เนื่องจากที่ผ่านมาเวลาเกิดเหตุในพื้นที่ โทรศัพท์มือถือจะถูกตัดสัญญาณ ทำให้พระไม่สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ได้

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าวสารที่มีคุณภาพ จากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ





เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์