เตือนคนไทยอย่าตื่นยุ่นการันตีคุมรังสีมรณะอยู่

"บัวแก้ว" ยันพร้อมช่วยอพยพ เล็งค่าตั๋วเครื่องบินไม่เกินหมื่นหก แจงญี่ปุ่นรับคุมเตานิวเคลียร์อยู่หมัด วอนคนไทยอย่าตื่นรังสีมรณะ

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 17 มี.ค. ผู้สื่อข่างรายงาน ว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย เพื่อประเมินสถานการณ์และผลกระทบจากเหตุโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ใน จ.ฟุคุชิมา และการส่งมอบความช่วยเหลือของไทยให้กับญี่ปุ่น หลังหารือราว 1 ชั่วโมง

จากนั้นนายกษิต แถลงภายหลังว่า ในบริเวณ 11 จังหวัดของญี่ปุ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุที่เกิดขึ้น มีคนไทยอยู่ราว 2 หมื่นคน

ขณะนี้พบแล้ว 15,000 คน ยังมีอีกราว 5,000 คนที่ยังเร่งติดต่ออยู่โดยประสานกับเครือข่ายคนไทย เพื่อให้รู้ว่าบุคคลเหล่านี้อยู่ที่ไหน อย่างไรก็ดีทางการญี่ปุ่นประกาศว่าขณะนี้ยังมีผู้สูญหาย 9,000 คน ซึ่งเราหวังว่าจะไม่มีคนไทยอยู่ในกลุ่มผู้สูญหาย ยืนยันว่าขณะนี้ยังไม่จำเป็นต้องอพยพคนไทย
 
นายกษิต กล่าวอีกว่า ส่วนการเดินทางกลับประเทศของคนไทยได้เริ่มทยอยกลับมาแล้วตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมาแล้ว
 
โดยเที่ยวบินของการบินไทยจากเมืองใหญ่ของญี่ปุ่นหลายแห่งกลับไทย  เรามีที่นั่งมากกว่า 4,000 ที่นั่งต่อวัน ค่าตั๋วเครื่องบินเที่ยวเดียวจากญี่ปุ่นกลับกรุงเทพรวมภาษีจะอยู่ที่ราว 16,000 บาท หากใครพบตั๋วราคาไม่เป็นไปตามนี้ให้สามารถติดต่อตรงที่การบินไทยสถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยในญี่ปุ่น ขณะที่การบินไทยจะกำชับไปยังบริษัทขายตั๋ว ให้ให้ความร่วมมือด้วย
 
ส่วนการให้ความช่วยเหลือของไทยต่อญี่ปุ่นนั้น

นายกษิต กล่าวว่า จนถึงขณะนี้ยอดเงินบริจาคมายังบัญชีของกระทรวงการต่างประเทศอยู่ที่มากกว่า 20 ล้านบาทแล้ว โดยยังมีผู้ทยอยมาบริจาคเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนที่เป็นเงินสดทั้งหมดนั้นจะมอบให้กับสภากาชาดญี่ปุ่นเพียงรายเดียว ขณะที่สิ่งของและเครื่องอุปโภคบริโภคต่าง ๆ การบินไทยได้ให้น้ำหนักสำหรับขนสินค้า 2 ตันต่อวัน นอกจากนี้เครื่องบินซี 130 ของกองทัพอากาศจะทยอยขนสิ่งของไปยังญี่ปุ่น โดยออกเดินทางไปแล้วเมื่อวันที่ 16 มี.ค. 1 ลำ ในวันที่ 17 มี.ค. 2 ลำ และในวันที่ 18 มี.ค. อีก 1 ลำ

นายกษิต กล่าวต่ออีกว่า นอกจากนี้ยังจะทยอยส่งคณะแพทย์เข้าไป

หลังจากที่ขณะนี้มีอยู่แล้ว 2 ชุดจากกระทรวงสาธารณสุขและกองทัพอากาศ สำหรับความช่วยเหลือเรื่องข้าวสารและข้าวเหนียวจำนวน 15,000 ตันนั้น ทางการญี่ปุ่นแจ้งว่าปริมาณสำรองข้าวยังมีเพียงพอ จึงไม่ขอรับก็จะนำงบประมาณดังกล่าวไปใช้จัดหาสินค้าอื่น ๆที่เป็นที่ต้องการ โดยจะปรึกษากับทางการและองค์กรเอกชน (เอ็นจีโอ) ของญี่ปุ่นต่อไป นอกจากนี้ยังได้ประสานงานกับสภาหอการค้าไทย เพื่อให้ประสานโรงงานเพื่อเร่งผลิตสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของฝ่ายญี่ปุ่นในขณะนี้ด้วย
 
ด้าน นายธานี ทองภักดี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า
 
หลังจากที่กระทรวงเคยออกคำแนะนำการเดินทางของคนไทยไปญี่ปุ่นก่อนหน้านี้เพื่อไม่ให้เป็นภาระกับรัฐบาลญี่ปุ่นเพิ่มเติมเนื่องจากขณะนี้มีข้อจำกัดด้านการคมนาคมไฟ้ฟ้า และอาหารต่างๆจึงขอแนะนำให้คนไทยที่มีแนวทางจะเดินทางไปยังญี่ปุ่นโดยเฉพาะพื้นที่ที่ได้รับกระทบ หากไม่มีความจำเป็นจริง ๆ ก็ขอให้ชะลอการเดินทางออกไปก่อน จนกว่าสถานการณ์จะกลับสู่สภาวะปกติ  ส่วนคนไทยที่พำนักอยู่ในญี่ปุ่นอยู่แล้ว หากไม่จำเป็นต้องพำนักอยู่ต่อก็ขอให้พิจารณาเดินทางออกจากพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบและขอให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
 
ส่วน นายชัยวัฒน์ ต่อสกุลแก้ว เลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติภาพกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า เราได้ติดตามสถานการณ์ตลอด 24 ชั่วโมง

ซึ่งข้อมูลปัจจุบันที่ได้รับจากทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA)รายงานล่าสุดที่ได้รับเมื่อเวลา 02.45 น. วันนี้พบว่าปริมาณรังสีลดลงจากเดิม เนื่องจากหิมะและฝนตกลงมาทำให้ปริมาณกัมมันตภาพรังสีลดลง ขณะนี้เตาปฏิกรณ์หมายเลข 1-3 สามารถควบคุมและเติมน้ำได้แล้ว ส่วนเตาที่ 4 ไม่พบควันไฟแล้วและอุณหภูมิของเตาได้ลดลงเช่นกัน ซึ่งปริมาณรังสีที่พบบริเวณโรงไฟฟ้าโชคดีไม่มีการตรวจพบนิวตรอน ซึ่งเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาส่วนสถานการณ์การวัดปริมาณรังสีในประเทศไทยยังพบว่าปกติ ซึ่งเรามีสถานีเฝ้าระวังรังสี 8 แห่งทั่วประเทศ เราจะมีรายงานสรุปวันละ 3ครั้ง ขณะที่แผนที่อากาศบ่งชี้ว่าทิศทางลมได้พัดไปทางทิศตะวันออกลงมหาสมุทรแปซิฟิคทั้งหมด ทั้งนี้สำนักงานฯได้ตั้งศูนย์ข้อมูลเฉพาะกิจให้สามารถโทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลได้ที่02-5967600 หรือตรวจสอบที่เว็บไซต์ www.oaep.go.th
 
ขณะที่ นายปรีชา การสุทธิ์ ที่ปรึกษาด้านเทคนิคนิวเคลียร์สำนักงานพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ กล่าวว่า

เมื่อเกิดเหตุการณ์สึนามิขึ้น ระบบการระบายความร้อนไม่ทำงานทำให้ความร้อนในเตาปฏิกรณ์และความดันสูงขึ้น จึงต้องลดความร้อนด้วยการระบายความร้อนสู่อากาศ เมื่อก๊าซไฮโดเจนในเตาออกมาทำปฏิกิริยากับออกซิเจนจึงเกิดเหมือนแรงระเบิดขึ้นมา และมีสารกัมตภาพรังสีออกมาด้วยแม้อาคารจะไหม้ไฟแต่ผนังอาคารชั้นในที่หุ้มเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์ไม่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ในรัศมี 30 กิโลเมตรจากโรงไฟฟ้า ยังไม่มีอันตรายส่วนอาหารที่นำเข้าจากประเทศญี่ปุ่นในขณะนี้ยังไม่มีสารปนเปื้อนเนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นในวันที่ 11 มีนาคมแต่การขนส่งอาหารต้องใช้ระยะเวลา เช่นเดียวกับนมผงที่มีความกังวลว่าจะมีการปนเปื้อน ขอชี้แจงว่าในขณะนี้ยังเป็นไปไม่ได้ เพราะมีวงจรทางอาหารโดยวัวต้องกินหญ้าที่ปนเปื้อนก่อน แล้วผลิตน้ำนมออกมาจนมาแปรรูปเป็นนมผงส่งออก.