โจรป่วนใต้รุกหนัก ยิงครูสงขลา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สายวานนี้ (12 ธ.ค.) ที่โรงแรม เจบี.หาดใหญ่ จ.สงขลา กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้จัดพบปะสื่อมวลชนในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและแนวทางการทำงานร่วมกัน โดยมี พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผช.ผบ.ตร. รักษาการ ผบช.ภาค 9 พล.ต.จำลอง คุณส่ง เลขา กอ.สสส.จชต. พล.ต.ต.วีระยุทธ์ สิทธิมาลิก รอง ผบช.ภาค 9 เข้าร่วมด้วย

พล.ท.วิโรจน์กล่าวว่า โครงสร้างใหม่ของ ศอ.บต. จะดีขึ้นกว่าเดิมเพราะได้ยกเอาข้อดีของ กอ.สสส.จชต.มาประยุกต์ และ ศอ.บต.ยุคใหม่จะมีเรื่องที่กว้างขวางกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยุติธรรมหรือเรื่องความต้องการด้านอื่นๆ ของประชาชน ส่วนการทำงานของ ศอ.บต.ในปี 2550 หากได้รับความร่วมมือจากประชาชน สามารถยืนยันได้ว่าเหตุการณ์จะดีกว่าเดิม ส่วนสถานการณ์ช่วงปีใหม่ เจ้าหน้าที่ต่างทำงานเต็มที คาดว่าสามารถคุมเหตุการณ์ ความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นในเมืองเศรษฐกิจหรือย่านการค้าได้ แต่สิ่งสำคัญต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนเป็นหลัก พร้อมแจ้งเตือนฝ่ายทหาร พลเรือน ตำรวจ ให้มีการระวังตนเอง โดยเฉพาะการพกพาอาวุธ หากคาดว่าไม่สามารถจะตอบโต้หรือดูแลได้ ไม่ควรพกไป เพราะจะเป็นการนำอาวุธไปให้ฝ่ายตรงข้าม

ด้าน พล.ต.ท.อดุลย์ กล่าวถึงความคืบหน้ากรณี จับกุมผู้ก่อเหตุความไม่สงบว่า ที่ผ่านมาศาลจังหวัดปัตตานี ตัดสินประหารชีวิตผู้ต้องหาคดีฆ่าตัดคอนายจรินทร์ ขุนทอง เหตุเกิดเมื่อปี 2547 พิพากษาตัดสินจำคุก 10 ปี ผู้ต้องหาที่วางระเบิดหน้าบริษัทพิธานพาณิชย์ ส่วนคดีลอบวางระเบิดย่านการค้าในเมืองหาดใหญ่ สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 1 คน อยู่ระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล รวมทั้งคดีวางระเบิดธนาคารที่ จ.ยะลา จับกุมตัวได้ 10 คน อยู่ในขั้นดำเนินการตามกระบวนการของกฎหมาย

สำหรับเหตุทำร้ายรายวันยังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 07.00 น. พ.ต.ท.ชัยวัฒน์ ปานบุญทอง สวส.สภ.อ.จะนะ จ.สงขลา พร้อมกำลังไปสอบสวนเหตุยิงกันบาดเจ็บที่สามแยกท่าล้อ ถนนสายจะนะ-สะพานไม้แก่น หมู่ 3 ต.สะพานไม้แก่น พบรถ จยย.ฮอนด้า ล้มอยู่ริมถนน ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.สงขลา แล้ว ทราบชื่อนายอรุณ จันทร์จิตจริงใจ อายุ 54 ปี ครู คศ.2 โรงเรียนชุมชนบ้านสะพานไม้แก่น ถูกยิงเข้าหน้าท้อง 4 นัด อาการสาหัส สอบสวนทราบว่า ขณะนายอรุณขี่ จยย.ไปโรงเรียน ถูกคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ประกบยิง เชื่อเป็นฝีมือของกลุ่มแนวร่วมในพื้นที่เพื่อสร้างสถานการณ์

ส่วนที่ จ.ปัตตานี กลางดึกวันที่ 11 ธ.ค. พ.ต.อ.สมจิตร นาสมยนต์ ผกก.สภ.อ.เมืองปัตตานี พร้อมกำลังไปสอบสวนเหตุยิงกันที่หน้าบ้านเลขที่ 28 บ้านสุงาการี หมู่ 6 ต.ปูยุค พบเพียงกองเลือดจำนวนมาก ส่วนคนเจ็บถูกนำส่ง รพ.ปัตตานี ทราบชื่อนายอับดุลรอแม วานี อายุ 45 ปี เป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ถูกยิงด้วยปืนพกไม่ทราบขนาดเข้าลำตัว 1 นัด อาการสาหัส สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายอับดุลรอแมกำลังจะเดินเข้าบ้านถูกคนร้ายขี่ จยย.ผ่านมายิงใส่แล้วหลบหนีไป

อีกรายเวลา 07.30 น. วันที่ 12 ธ.ค. ขณะที่นายเพียน ทองอินทร์ อายุ 70 ปี อดีตแพทย์ประจำตำบล อยู่บ้านเลขที่ 98/1 หมู่ 5 ต.แป้น อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ขี่ จยย.ผ่านถนนสายบ้านกะลาพอ-บ้านแป้น ต.บือเระ ถูกคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ตามประกบยิง ถูกเข้าศีรษะ 1 นัด เสียชีวิตคาที่ หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.สการียา ยูโซ๊ะ รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.สายบุรี นำกำลังรุดไปที่เกิดเหตุ เชื่อว่าทั้ง 2 เหตุการณ์เป็นฝีมือกลุ่มโจรใต้

ด้าน จ.นราธิวาส ตอนเช้าวันเดียวกัน พ.ท.ณรงค์ สวนแก้ว ผบ.ฉก.34 พ.ต.ท.วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผกก. (ป.) สภ.อ.ระแงะ และ ร.ต.ต.พัฒนศักดิ์ เพียรงาม ผบ.มว.3 ฉก.1 นปพ.ภ.จ.นราธิวาส นำกำลัง 80 นาย เข้าปิดล้อมตรวจค้นหมู่บ้านตราแดะ หมู่ 5 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ หลังสืบทราบว่ามีผู้ต้องหาตามหมายจับ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในคดีลอบวางระเบิดดักสังหารเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.อ. ระแงะ ได้รับบาดเจ็บ 4 นาย บริเวณสะพานน้ำแดง หมู่ 5 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ เมื่อวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้ หลบหนีมากบดานและสามารถจับกุมผู้ต้องสงสัยได้ 1 คน คือนายซุพยาน ฮะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 9/3 นำตัวไปสอบสวนที่ สภ.อ.ระแงะ แต่ให้การปฏิเสธ

ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองยะลา นายธีระ มินทราศักดิ์ ผวจ.ยะลา เรียกประชุม นายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำท้องถิ่น เพื่อซักซ้อมทำความเข้าใจหลังประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รัฐ พร้อมเน้นย้ำให้ข้าราชการในพื้นที่เรียกความศรัทธากลับคืนมา โดย ผวจ.ยะลากล่าวว่า ปัญหาการก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนอย่างกว้างขวาง ดังนั้น ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันและขอให้ เจ้าหน้าที่ในระดับอำเภอทุกหน่วยงาน เร่งลงพื้นที่ทำความเข้าใจกับประชาชน เนื่องจากที่ผ่านมาพบว่าประชาชนและเจ้าหน้าที่ภาครัฐมีความห่างเหินกันจนกลายเป็นช่องว่างให้กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบฉวยโอกาสปลุกระดมประชาชน พร้อมกันนี้ได้มอบหมายให้หน่วยกำลังในพื้นที่ทั้งทหาร ตำรวจ คอยดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยอย่างต่อเนื่อง

นายธีระกล่าวอีกว่า สำหรับชาวไทยพุทธใน ต.คีรีเขต อ.ธารโต จ.ยะลา ที่มีความหวาดระแวงคนในพื้นที่ว่า เรื่องนี้ได้มอบหมายให้ นอภ.ธารโต เข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิดแล้ว โดยการเรียกประชุมชาวบ้านทั้ง 2 กลุ่มให้เกิดความเข้าใจต่อกันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำของมือที่สาม หรือกลุ่มก่อความไม่สงบที่พยายามจะบิดเบือนความจริง และมีเป้าหมายให้พี่น้องคนไทยพุทธ-มุสลิมเกิดความแตกแยกกันเอง และขณะนี้ทราบว่าทั้ง 2 ฝ่ายต่างเข้าใจกันแล้ว

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายก รัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุม ครม.ว่า ที่ประชุมไม่ได้หยิบยกปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ขึ้นมาหารือ และไม่มีการรายงานกรณีที่ชาวไทยพุทธอพยพออกจากพื้นที่ แต่จากการประสานงานกับนายพระนาย สุวรรณรัฐ ผอ.ศอ.บต. ทราบว่า สิ่งที่รัฐบาลต้องแก้ไขคือ เรื่องการบริหารงาน การให้ตำแหน่งที่เหมาะสมแก่ ศอ.บต. เพราะขณะนี้ คณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.) และคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) ยังไม่สามารถดำเนินการทั้งเรื่องอัตราและจำนวนคนให้กับ ศอ.บต.ได้ เป็นเรื่องที่ตนจะต้องหาทางแก้ไขให้ ผู้สื่อข่าวถามว่าจะสกัดกั้นข่าวลือต่างๆในพื้นที่อย่างไร เพราะล่าสุดมีข่าวว่าจะมีการปักธงรัฐปัตตานีในเดือน ธ.ค.นี้ พล.อ.สุรยุทธ์ ตอบว่า คงไม่ได้สกัดกั้น แต่เราคงพิสูจน์ทราบด้วยข้อเท็จจริง คือไม่มีการปักธงอย่างที่ว่าอาจจะเป็นการพูดจาหรือจากเอกสาร ใบปลิวต่างๆ เหมือนอย่างที่ตนโดนตั้งค่าหัว