ญาติเหยื่อสาวซีวิคโต้แถลงการณ์ มั่นใจกล้องวงจรปิด-พยานมัดตัว


ผู้ปกครองของผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ผู้ต้องหาในสำนวนคดีขับรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิค

ชนรถตู้โดยสาร ทำให้มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บนทางด่วนโทลล์เวย์ วิภาวดีรังสิต เมื่อเดือนธันวาคม 2553 ที่ผ่านมา ออกมายืนยันพร้อมต่อสู้คดีร่วมกับทีมฝ่ายกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) หลังจากที่มีแถลงการณ์ผ่านทางฟอร์เวิร์ดเมล์เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ อ้างว่าเป็นฝ่ายทีมทนายของครอบครัวผู้ต้องหาสาว ใจความสรุปว่าผู้ต้องหาไม่ได้เฉี่ยวชนรถตู้โดยสาร แต่หักหลบรถตู้โดยสารที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางกะทันหัน ทำให้รถที่ผู้ต้องหาขับขี่มาเสียหลักชนเข้ากับกำแพงขอบทางจนรถเสียหาย และไม่มีร่องรอยหลักฐานการชนท้ายรถตู้โดยสารอย่างจัง จึงขอความเป็นธรรม และคดีศาลยังไม่ได้มีคำพิพากษานั้น


เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ นายโสภณ จินันทุยา บิดาของนายภิญโญ จินันทุยา หนึ่งในผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนทางด่วนโทลล์เวย์ ให้สัมภาษณ์ถึงแถลงการณ์ดังกล่าวว่า ตนได้ดูเทปจากวิดีโอกล้องวงจรปิดแล้ว เห็นว่าก่อนเกิดเหตุรถยนต์ฮอนด้า ซีวิค วิ่งไล่จี้ท้ายรถตู้โดยสารมาตลอดด้วยความเร็วสูง มีความพยายามที่จะแซงรถตู้ จะมาอ้างว่าต่างฝ่ายต่างหลบไปชนกำแพงเองน่าจะไม่ถูกต้อง เพราะมีการชนกันถึง 2 ครั้ง พร้อมทั้งมีพยานในที่เกิดเหตุ คงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของทีมนักกฎหมายของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อต่อสู้


นายโสภณกล่าวว่า หลังจากเสร็จจากงานฌาปนกิจศพลูกชาย มีบริษัทประกันของรถยนต์ฮอนด้าติดต่อมายังนายอิทธิกร จินันทุยา ลูกชายคนที่ 2 ว่า จะขอช่วยค่าปลงศพ 100,000 บาท แต่ลูกชายไม่ได้ตอบรับอย่างใด ส่วนทางคู่กรณีไม่เคยติดต่อมาเลยจนถึงปัจจุบัน


ด้าน พ.ต.อ.ศรัญ นิลวรรณ ผกก.สภ.เมืองอุบลราชธานี บิดาของ น.ส.สุดาวดี นิลวรรณ หรือน้องนุ่น อายุ 20 ปี นักศึกษาชั้นปี 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 1 ใน 9 ผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตำรวจ เรื่องดังกล่าวสามารถตรวจสอบได้จากกล้องวิดีโอวงจรปิดในวันเกิดเหตุ และเท่าที่ติดตามข่าวช่วงเกิดเหตุใหม่ๆ เด็กออกมายอมรับได้ขับรถคันเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งการออกมาปฏิเสธของทีมทนายความนั้นก็เป็นสิทธิที่ผู้ต้องหาสามารถทำได้ ซึ่งก็เป็นแนวทางการต่อสู้คดีของทีมทนาย


"แต่ก็สงสัยว่าทำไมเมื่ออ้างว่าไม่ได้ขับรถเฉี่ยวชนจะต้องออกมาพูดความจริงตั้งแต่เกิดเหตุใหม่ๆ ซึ่งในฐานะที่เป็นตำรวจ มีความเชื่อมั่นในการทำงานของตำรวจเจ้าของคดี และเป็นคดีจราจรธรรมดาไม่มีอะไรซับซ้อน ซึ่งมีทั้งพยานบุคคลที่รอดชีวิตในรถตู้โดยสารรวมถึงภาพวงจรปิดที่เกิดเหตุคงมีความชัดเจน" พ.ต.อ.ศรัญระบุ


พ.ต.อ.ศรัญกล่าวถึงการติดต่อพูดคุยในเรื่องค่าเสียหายและค่าจัดการศพจากพ่อแม่เด็กคนขับรถเก๋งว่า ไม่เคยได้รับการติดต่อพูดคุยในเรื่องนี้แต่อย่างใด ซึ่งในที่สุดก็คงจะต้องฟ้องคดีต่อศาลเรียกร้อง


นางถวิล เช้าเที่ยง อายุ 62 ปี แม่ค้าขายพวงมาลัยดอกไม้สดในตลาดราชบุรี แม่บุญธรรมของ ดร.ศาสตรา เช้าเที่ยง อายุ 32 ปี นักวิจัยสำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ซึ่งเสียชีวิต กล่าวว่า ทราบข่าวจากทางทีวีว่าทางเราไปเรียกค่าเสียหายเขามากมาย บางรายเรียกจนเหลือล้น ในส่วนของฉันไม่เคยเรียกเลย สําหรับเรื่องคดีทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ดําเนินการให้ทั้งหมด โดยเริ่มต้นขึ้นศาลเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมานี้เอง


เครดิต :
เครดิต :เนื้อหาข่าว คุณภาพดี หนังสือพิมพ์มติชน


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์