ตุ๋นเงินแชร์ชาวบ้านร่วม10ล้าน-ผู้เสียหาย200รายโร่แจ้งความ

"ตุ๋นแชร์กว่า 10 ล้านบาท"


แก๊งค์ตุ๋นเงินแชร์ตระเวณ 6 ตำบล ในอ.หล่มสัก หลอกชาวบ้านกว่า 200 ราย ร่วมเล่นแชร์ สูญเงินลงทุนรวมกว่า 10 ล้านบาท ผู้เสียหายโร่แจ้งกำนันในพื้นที่เอาผิด ขณะที่ตำรวจเตรียมสอบปากคำผู้เสียหาย ก่อนออกหมายจับขบวนการหลอกลวง

(11ธ.ค.) นายบุญเพ็ง ราชองค์ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 4 ต. ปากช่อง อ. หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ ผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.ปากช่อง อ.หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ พร้อมกับลูกบ้าน เข้าร้องทุกข์ต่อ นายระเบียบ อ่อนตา กำนัน ต. ปากดุก อ. หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ เพื่อให้ กำนัน ต. ปากดุก ดำเนินการช่วยเหลือพวกตนที่ได้รับความเดือดร้อน จากการที่นายพิทักษ์ อินจันทร์ ชักชวนให้พวกตน และคนอื่นๆ ได้ร่วมเล่นแชร์

"ถูกหลอกกันหลายตำบล"


โดยเมื่อวันที่ 19 พ.ย. ที่ผ่านมา นายพิทักษ์ อินจันทร์ ได้มาพบภรรยาของตนที่บ้าน เพื่อมาชักชวนให้เล่นแชร์ลูกโซ่ โดยบอกว่าจะมีรายได้จากการตอบแทนสูง ทำให้ นางระเบียบ ภรรยาของตนหลงเชื่อ ตัดสินใจลงทุนร่วมในจำนวนเงิน 60,000 บาท และนายพิทักษ์ ยังระบุอีกว่าหากลงทุนจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทนสูงคือ ลงทุน 1 หมื่นบาทจะได้ค่าตอบแทน 6,000 บาทในระยะไม่เกิน 10 วัน เงินส่วนนี้ทั้งต้นและดอกจะนำมาส่งถึงบ้าน

เมื่อได้รับฟังจึงได้ตัดสินใจจ่ายเงินให้นายพิทักษ์ไปจำนวนเงิน 60,000บาท และหลังจากที่จ่ายเงินไปแล้วยังไม่เห็นนายพิทักษ์นำเงินที่ตกลงกันไว้มามอบให้แต่อย่างใดและเมื่อไปสอบถามนายพิทักษ์ ก็ผลัดผ่อนมาจนถึงขณะนี้ มาทราบว่าตอนหลังมีประชาชนจำนวนมากหลายตำบลได้จ่ายเงินให้กับกลุ่มบุคคลจำนวนนี้และเมื่อสอบถามไปแล้ว มีผู้คนหลงเชื่อร่วมจ่ายเงินไป รวมกันแล้ว 6 ตำบล รวมผู้ที่เสียหายจากการถูกหลอก จำนวน 205 รายรวมเป็นเงินที่กลุ่มขบวนการนี้ได้ไปกว่า 10 ล้านบาท เฉพาะหมู่บ้านของตนเองมียอดเงินกว่า 3 ล้านบาทที่จ่ายให้ กับนายพิทักษ์

"รวมตัวมาร้องทุกข์"


ดังนั้นจึงได้พากันมาร้องทุกข์ต่อ นายระเบียบ อ่อนตา กำนันตำบลปากดุก เพราะผู้ที่ไปหลอกชาวบ้านนั้นเป็นลูกบ้านของ นายระเบียบเพื่อเจรจากับนายพิทักษ์เพื่อคืนเงินทั้งหมดกลับมาคืนให้กับผู้เดือดร้อนก่อนที่พวกตนจะนำความเข้าไปแจ้งความดำเนินคดี

นางกา พรมลา อายุ 50 ปี อยู่ หมู่ 4 บ้านวังมล ต. ท่าอีบุญ อ. หล่มสัก จ.เพชรบูรณ์ กล่าวว่า เป็นอีกผู้หนึ่งที่ได้หลงเชื่อกลุ่มขบวนการต้มตุ๋นในเบื้องต้นหลงเชื่อและลงทุนไปจำนวน เงิน 50,000 บาทกับนายไข ราชองค์เป็นน้องชายผู้ใหญ่บ้านรายหนึ่งใน ต. ปากช่อง อ. หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ เพราะเห็นว่าเคยทำมาค้าขายใบยาด้วยกันมาก่อนจึงเชื่อใจ และเมื่อลงทุนไปแล้วกว่า 1 เดือนถึงขณะนี้ก็ไม่มีแนวโน้มว่า จะได้เงินต้นเงินดอกคืนมาแต่อย่างใด มาทราบอีกทีว่าถูกหลอกลวงจึงได้มาลงซื่อและร้องกำนันเพื่อดำเนินการต่อไป

"โดนหลอกกันอื้อ"


นางถาวร พาแก้ว 38 ปี อยู่หมู่ 11 ต. ปากช่อง กล่าวว่า ตนเองหลงเชื่อ นายสุริยา กิตติวรพงษ์ ที่เข้ามาชักชวน และกล่าวว่า หากร่วมลงทุนเล่นแชร์กับทางตนมีเงินตอบแทนสูง ได้หลงเชื่อคราวแรก ลงทุน 30,000 บาท 10 วัน เขาเอาทั้งต้นและดอกมามอบให้ 48,000 บาท หลังจากนั้นลงทุนเพิ่มเป็น 50,000 บาท จากนั้นหายทั้งต้นและดอก ส่วนคนที่มาเก็บเงินคือ นายสุริยา กิตติวรพงษ์ จึงมาร้องเพื่อให้ ทางกำนันช่วยด้วย นางถาวร ยังกล่าวว่า ไม่มีแต่พวกตน ยังมีผู้เสียหายที่โดนหลอกแบบตนมีอีกจำนวนร้อยคน ทีถูกหลอกและยอดเงินตั้งแต่ 5,000 - 300,000 บาท รวมแล้วมากกว่า 10 ล้านบาท

นายระเบียบ อ่อนตา กำนันตำบลปากดุก กล่าวว่า เมื่อมีชาวบ้านมาร้องเรียนพร้อมเอกสาร ก็ต้องรับเรื่องและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ในฐานะเป็นฝ่ายปกครองต่างมีความเสียใจเป็นอย่างยิ่งหลังจากทราบว่ามีการหลอกลวงเกิดขึ้นที่สำคัญคนในตำบลตน เป็นต้นตอของการหลอกลวง เพราะที่ผ่านมาต.ปากดุก เป็นตำบลที่นำร่องในการพัฒนาในด้านต่างๆ พร้อมมีการตั้งศาลพิจารณาช่วยเหลือและไกล่เกลี่ยให้กับประชาชนในคดีต่างๆ เป็นแห่งแรกของประเทศไทย จนได้รับความยอมรับจากสังคมที่จะนำไปพัฒนาตำบลต่อไปนอกจากนั้นยังมีผู้นำตำบลต่างๆ จากต่างจังหวัดมาดูงาน รวมถึงองค์กรต่างประเทศ

"ทำให้ชื่อเสียงของตำบลเสียหาย"


เมื่อเกิดความเสียหายเกินขึ้นชื่อเสียงของตำบลปากดุก คงต้องได้รับผลกระทบทันทีทั้งที่พยายามสร้างความดีมาตลอดแต่มีบุคคลเพียงไม่กี่คนมาสร้างความเสียหาย จึงฝากถึงสังคมทั่วไปให้อภัยเพราะคนชั่วมีเพียงไม่กี่คนที่มาทำลายชื่อเสียง และขอประชาสัมพันธ์ไปสู่ประชาชนทั่วไปหลังจากทราบข่าวนี้โปรดอย่าได้หลงเชื่อกับเรื่องนี้เพราะจะมีแต่ทำให้เสียทรัพย์สินเงินทองไปโดยเปล่าประโยชน์

"เมื่อเกิดปัญหาดังกล่าวขึ้นในตำบลก็ต้องดำเนินการช่วยเหลือประชาชนต่อไปเพราะกว่าจะหาเงินทองมาได้นั้นลำบากแสนเข็ญ และมาเสียรู้ถูกคนหลอกลวงบางครอบครัวมี สร้อยแหวนเงินทองก็นำมาขายเพื่อนำเงินมาลงทุนในเรื่องนี้ส่วนรายชื่อผู้คนที่ร่วมกันหลอกลวงชาวบ้านในครั้งนี้เป็นลูกบ้านของผมทั้งหมด "นายระเบียบกล่าวและว่า

"โดนหลอก 6 ตำบล ผู้เสียหาย 205 คน"


หลังจากได้ตรวจสอบกลุ่มขบวนการที่ร่วมกันหลอกลวงชาวบ้าน ประกอบด้วยนายสุริยา กิตติวรพงษ์ ,นายสายยนต์ สีบัวมีตำแหน่ง เป็น รอง นายก อบต. ปากดุก,นางปาลิตา สีบัว ,นายพิทักษ์ อินจันทร์ เป็น อส.ประจำอยู่อำเภอหล่มสัก ยอดเงินที่ชาวบ้านสูญเสียรวมไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทและมีประชาชนที่ได้รับความเสียหายมาร้องเพื่อแจ้งความรวม 6 ตำบลจำนวนผู้เสียหาย 205 คนและยังมีอีกจำนวนมากที่ยังไม่เดินทางมาแจ้งความเพื่อร้องทุกข์

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้พยายามโทรศัพท์หาผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการโกงเงินชาวบ้านตามที่เบอร์ที่ชาวบ้านมอบให้ แต่เบอร์กลุ่มบุคคลแจ้งให้กับชาวบ้านมานั้น ไม่สามารถติดต่อได้ ทำให้ชาวบ้านยิ่งมีความคิดหนักว่า ถูกโกงเงินแน่ๆ

ผู้เสียหายรายหนึ่ง ระบุว่า หัวหน้าใหญ่ ซื่อเจริญ ไม่ทราบนามสกุลสั่งให้ลูกน้องที่เป็นหน้าม้า เที่ยวหาหลอกเอาเงิน จากนั้นได้นำเงินทั้งหมดที่ได้ ไปเล่นการพนันที่ บ่อนชายแดนประเทศกัมพูชา ในเบื้องต้นผู้เดือดร้อนจากการถูกหลอกเอาเงิน ไม่กล้าที่จะเปิดเผยความจริงเนื่องจากทางหน้าม้าตามรายชื่อดังกล่าว กำชับว่าอย่านำเรื่องนี้ไปเปิดเผยเพราะจะทำให้ผู้คนแตกตื่นและเงินที่เสียไปนั้นจะไม่ได้คืนจึงเก็บเรื่องเอาไว้ กระทั่งจนไม่ไหวหลังจากไปทวงถามหลายครั้งกับผู้ที่มารับเอาเงินไปและมีการผลัดผ่อนมาตลอดจึงพากันแน่ใจว่าถูกโกงเงิน

"รอรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ"


ขณะที่ พ.ต.อ. ปริญญา วิศิษฐฏากุล ผกก. สภ.อ. หล่มสัก จ. เพชรบูรณ์ กล่าวว่า คดีนี้ทางตำรวจรับทราบและได้รับคำร้องของประชาชนที่ได้รับความเสียหายไปบ้างแล้วแต่ยังอยู่ในระหว่างการรวบรวมหลักฐานและสอบปากคำผู้ที่ตกเป็นเหยื่อยังไม่ครบทุกคนหลังจากรับแจ้งแต่พอที่จะสรุปได้

"คดีนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะไม่นิ่งนอนใจไม่นานคงต้องมีการออกหมายจับอย่างแน่นอน เพียงแต่รอผลการสรุปหลักฐานให้ครบถ้วนเสียก่อนเพราะผู้เสียหายมีจำนวนมาก ทางก็ได้ประสานไปยังกำนันตำบลปากดุกให้รับเรื่องและรายชื่อผู้เดือดร้อนที่มาร้องผ่านทางกำนันให้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อนำมาประกอบสำนวน คดีนี้ตำรวจจะต้องมีการออกหมายจับผู้ร่วมกันหลอกลวงชาวบ้านมาดำเนินคดีหลังจากสอบปากคำผู้เสียหายและพยานครบทุกปาก " พ.ต.อ. ปริญญา กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์