ป่วนใต้! เผาวอด2ร.ร.

"โดนเผาอีก 8 ห้องเรียน"


แผ่นดิน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ระอุรายวัน หลังกลุ่มโจรไล่ทำร้ายดะทั้งครู ชาวบ้านและเด็กน้อยวัยไร้เดียงสาทั้งเผาบ้านคนไทยพุทธ ล่าสุดลอบวางเพลิงเผาโรงเรียนอีก โดยเมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 10 ธ.ค. พ.ต.ท.สการียา ยูโซ๊ะ รอง ผกก.(สส.) สภ.อ.สายบุรี จ.ปัตตานี พร้อมกำลังและรถดับเพลิงไปตรวจสอบเหตุเพลิงไหม้ โรงเรียนบ้านแซะโมะ หมู่ 4 ต.ตะบิ้ง พบเปลวไฟกำลังโหมลุกไหม้อาคารไม้ชั้นเดียว 8 ห้องเรียนอย่างโชกโชน เจ้าหน้าที่รีบระดมฉีดน้ำสกัดใช้เวลา 2 ชั่วโมง จึงควบคุมเพลิงไว้ได้ ผลปรากฏว่าห้องเรียนชั้น ป.1 ถึง ป.6 ถูกไฟไหม้ได้รับความเสียหายทั้งหมด รวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอนและเครื่องคอมพิวเตอร์ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด

สอบปากคำนางศริดา ราชรักษ์ รักษาการ ผอ.โรงเรียนบ้านแซะโมะ เปิดเผยว่าโรงเรียนมีนักเรียนทั้งหมด 59 คน เป็นชาวมุสลิมทั้งหมด โรงเรียนแห่งนี้อยู่คู่กับประชาชนมานานและมีอาคารเรียนเพียงหลังเดียว แต่เมื่อถูกเผาก็ไม่มีห้องเรียนสำหรับเด็ก ต้องหาเต็นท์มาตั้งชั่วคราว สำหรับตนรู้สึกไม่มีขวัญกำลังใจเพราะกลัวความไม่ปลอดภัย และก่อนหน้านี้ได้หยุดสอนประมาณ 2 สัปดาห์ เพราะเกรงจะไม่ได้รับความปลอดภัยหลังจากที่ครูถูกลอบทำร้ายจนทางสมาพันธ์ครูฯมีมติปิดโรงเรียน

"สวนกับคนร้ายเผา รร. ยิงสวน คนร้ายหนีไปได้"


ขณะเจ้าหน้าที่กำลังตรวจสอบความเสียหายอาคารโรงเรียนบ้านแซะโมะนั้น เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่า เกิดเหตุวางเพลิงเผาอาคารโรงเรียนชุมชนละหารมิตรภาพที่ 113 หมู่ 3 ต.ละหาร อ.สายบุรี รุดไปที่เกิดเหตุ พบชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียนช่วยกันดับเพลิงมอดแล้วโดยต้นเพลิงอยู่ที่บันไดและประตูห้องเรียนชั้น 2 ถูกไฟไหม้เสียหายเล็กน้อย สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุชุดรักษาความปลอดภัยโรงเรียนเห็นไฟลุกไหม้และเห็นคนร้าย 3 คน เดินลงมาจากอาคารเรียนจึงใช้ปืนยิงใส่ จนคนร้ายวิ่งหลบหนีไป

ที่ จ.ยะลา เมื่อเวลา 11.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ต. จิรายุ ภู่ระหงษ์ ร้อยเวร สภ.อ.รามัน จ.ยะลา พ.ต.อ.วิศิษฐ์ อักษรแก้ว ผกก. พ.ต.ท.นรินทร์ บูสะมัญ รอง ผกก. (สส.)พร้อมกำลัง ไปสอบสวนเหตุยิงกันบนถนนหมู่ 6 บ้านจำปูน ต.ท่าธง พบรถ จยย.ล้มอยู่กลางถนนกับรอยคราบเลือดอยู่ ทราบมีผู้บาดเจ็บ 1 คน นำส่ง รพ.รามันไปแล้ว ชื่อนายอุมา สะอิ อายุ 54 ปี อยู่บ้านเลขที่ 53/2 หมู่ 4 บ้านสาเมาะ ต.ท่าธง ถูกยิงด้วยปืนไม่ทราบขนาดเข้าที่นิ้วมือและแขนขวา เหตุเกิดขณะที่นายอุมาขี่ จยย.จากสวนยางพาราจะกลับบ้านถูกคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ไล่ประกบยิง

"ยิงทะลุหลังนอนตายจมกองเลือด"


อีกรายเวลา 13.00 น. เกิดเหตุยิงกันตาย 2 ศพในสวนยางพารา หมู่ 7 บ้านคอกช้าง ต.แม่หวาด อ.ธารโต จ.ยะลา หลังเกิดเหตุ พ.ต.ต.เจริญ นวนทอง สว.(หน.) สภ.ต.แม่หวาด ร.ต.ต.รัฐ พัฒนา ร้อยเวรและกำลังไปสอบสวนที่เกิดเหตุ พบศพนายอิสมาแอ มะแซ อายุ 23 ปี กับ นายอาแว มะแซ อายุ 22 ปี น้องชาย อยู่บ้านเลขที่ 73 หมู่ 10 บ้านควนดินดำ ต.บ้านแหร ทั้งคู่ถูกยิงด้วยกระสุนไม่ทราบขนาดที่หน้าอกทะลุหลัง นอนตายจมกองเลือดคร่อม รถ จยย.ศพละคัน สอบสวนทราบว่า ขณะสองพี่น้องขี่ จยย.คนละคันออกจากสวนจะนำเศษยางไปขายถูกคนร้ายตามจ่อยิงแล้วหลบหนีไป

ส่วน จ.นราธิวาส ตอนสายวันเดียวกัน พ.ต.ท.วิเชียร ยันตรัตน์ รอง ผกก.(ป.) สภ.อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นำกำลังตำรวจ ทหาร ฉก.34 และ นปพ.ฉก.1ภ.จ.นราธิวาส 80 นาย เข้าปิดล้อมบ้านปาเร๊ะบาโล๊ะ ต.กาลิซา หลังสืบทราบว่าแกนนำกลุ่มโจรอาร์เคเคซึ่งมีหมายจับได้แฝงตัวกบดานในพื้นที่ และสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คนคือนายมะแซ กาเร็ง อายุ 38 ปี อยู่บ้านเลขที่ 110/1 หมู่ 8 ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ แกนนำกลุ่มโจรอาร์เคเคมีหมายจับคดียิงนายมาหามะบาละดี ซาอุ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านบาโงอาแซ ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ เสียชีวิต เมื่อวันที่ 26 ต.ค.48 กับนายอีลียะ มะหะมะ อายุ 28 ปี แนวร่วมกลุ่มโจรอาร์เคเค มีหมายจับคดีเดียวกันและวางระเบิดสะพานตันหยง หมู่ 7 ต.ตันหยงลิมอ ทำให้ จ.ส.อ.อดุลย์ แก้วสน หัวหน้าชุดทหารชุด รปภ.ครู สังกัดร้อย ร.1314 ฉก.34 ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.49 แต่ทั้งสองให้การปฏิเสธจึงนำตัวส่งกองทัพภาค 4 ส่วนหน้า สอบสวนขยายผลต่อไป

"แกนนำปลุกระดมโจรใต้"


หน่วยข่าวความมั่นคงในพื้นที่ จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังติดตามความเคลื่อนไหวของนายมะแซ อุเซ็ง แกนนำผู้ก่อเหตุความไม่สงบและเป็นผู้ต้องหาหนีหมายจับคดีปล้นปืนกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เมื่อวันที่ 4 ม.ค. 47 ได้ลักลอบข้ามแดนจากมาเลเซีย มากบดานในพื้นที่บ้านบริจ๊ะ หมู่ 7 ต.ลาโละ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และได้เรียกประชุมแกนนำที่รับผิดชอบเคลื่อนไหวก่อเหตุร้ายในแต่ละพื้นที่ของ จ.นราธิวาส พร้อมมอบเงินก้อนใหญ่จำนวนหนึ่งให้กลุ่มแนวร่วมเพื่อเป็นค่าจ้างในการก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ในช่วงวันที่ 27 ธ.ค. 49 ถึงวันที่ 3 ม.ค. 50 ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลปีใหม่

นอกจากนี้หน่วยข่าวยังระบุด้วยว่า นายอิสมาแอล ระยะหลง ซึ่งเป็นครูสอนศาสนาและเป็นแกนนำในการปลุกระดมกลุ่มเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยการบิดเบือนคำสอนของศาสนา ได้แฝงตัวข้ามแดนเข้าไปฝึกอาวุธให้กับกลุ่มวัยรุ่นที่หลงผิดกว่า 100 คนที่ประเทศเพื่อนบ้าน หลังการฝึกฝนเสร็จแล้วกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวลักลอบข้ามแดนเข้ามาทางด้าน อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เพื่อเตรียมการก่อเหตุร้ายครั้งใหญ่ ในช่วงเวลาเดียวกันด้วย สาเหตุที่ลงมือช่วงปีใหม่ เนื่องจากเป็นเดือนที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากเป้าหมายเพื่อสร้างผลกระทบด้านเศรษฐกิจ โดยมีนายมะแอ อภิบาลแบ แกนนำที่มีค่าหัวนำจับ 2 ล้านบาทเป็นผู้ควบคุมการปฏิบัติการในครั้งนี้

"รัฐฯเข้าใจผิดคิดว่าแค่ปัญหา โจรกระจอก"


ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีฯ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาคที่ 1 (กอ.รมน.ภาค 1) ได้ จัดการสัมมนาโครงการ รวมพลังไทย ก้าวไกลสู่โลกโลกาภิวัตน์ อย่างพอเพียง โดย พล.ต.พีระพงษ์ มานะกิจ ที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาฝ่ายการเมืองมองเรื่องความมั่นคงเป็นมิติของการ เมือง เพราะกลัวทหารจะมีอำนาจ จึงตัดงบประมาณของทหารในด้านต่างๆ โดยเฉพาะรัฐบาลที่ผ่านมาเข้าใจผิดคิดว่าปัญหาภาคใต้เป็นวิธีการก่อการร้ายธรรมดาๆ เป็นโจรกระจอก ไม่ใช่การแบ่งแยกดินแดน จึงไปดำเนินการยุบศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) แล้วให้หน่วยราชการลงไปแก้ปัญหาปรากฏการณ์ไร้ ธรรมรัฐจึงเกิดมีปัญหามากขึ้น

พล.ต.พีระพงษ์กล่าวอีกว่า การเมืองมีอิทธิพลแทรกแซงการทำงานด้านความมั่นคงมาก ไม่ยอมให้ สมช. และฝ่าย เสธ.เป็นคนวางแผน แต่กลับตั้ง พล.ต.อ.ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ยุติธรรมในขณะนั้นมาดูแลแทน จึงมีจิตสำนึกแบบซีอีโอ ไม่เหมือนกับสหรัฐอเมริกาที่นักการเมืองไม่สามารถมาก้าวก่ายฝ่ายความมั่นคงได้ เพราะถ้ามาสั่งการมากเกินไปจะยุ่ง อย่าง ไรก็ตาม ระบบซีอีโอนั้นดี ถ้าฝ่ายบริหารมีจิตสำนึกด้านความมั่นคง แต่ถ้ารู้เรื่องความมั่นคงดี คงไม่ไปขายบริษัทหลายบริษัทที่มีดาวเทียมหรืออะไรต่ออะไร เพราะนั่นมันคือเรื่องความมั่นคง

"ให้ปรับโครงสร้างใหม่"


ที่ปรึกษาสภาความมั่นคงแห่งชาติกล่าวด้วยว่า ที่สำคัญคือการปรับโครงสร้างองค์กรที่ทำให้ประชาชนในจังหวัดภาคใต้ขาดช่องทางในการร้องเรียนคือ การยุบ ศอ.บต. และการยกเลิก พตท.43 เป็นการทำลายระบบสายข่าวทั้งหมด เพราะฝ่ายการเมืองพยายามเลือกคนที่ไว้ใจ ไม่ใช่คนในระบบมาทำงาน เพียงแต่มองเห็นหัวแม่เท้าแล้วไว้ใจ มันก็เกิดปัญหา

รัฐบาลที่ผ่านมามองมิติการพัฒนาเป็นเรื่องของทุนนิยม จัดงบลงไปจำนวนมหาศาลแต่แก้ไม่ได้ และมีการทำลายหลักเดิมคือ ยุทธศาสตร์ พัฒนาและความมั่นคง มาแยกความมั่นคงกับการพัฒนาออกจากกัน โดยมอบให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้นดูแลความมั่นคง แต่มอบให้นายเนวิน ชิดชอบ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลการพัฒนา เลยเกิดปัญหา พล.ต.พีระพงษ์กล่าว

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์