ล่าเมียหลวงวัยดึก หึงผัวเด็ก ฆ่าเมียน้อยทั้งกลม

เมียหลวงวัยดึกหึงโหด จ้างฆ่าเมียน้อยวัยสาว ตายสยองทั้งกลมหมกป่าชายเขา สามีเผยเคยอยู่กินกับภรรยาเก่าในอ.ลานสัก จ.อุทัยฯ แต่เลิกรากันไปแล้ว 1 ปี เข้ามาทำงานในกทม.เจอผู้ตายอยู่กินด้วยกันจนผู้ตายตั้งท้องอ่อนๆ เลยพาไปอยู่บ้านที่อุทัยฯ ก่อนเกิดเหตุกำลังจะรับกลับกรุงเทพฯ จู่ๆ หายตัวลึกลับกระทั่งพบกลายเป็นศพ แฉลงมือสุดโหด บีบคอแล้วกรีดซ้ำ ก่อนทุบหัวด้วยของแข็งคาที่ ตร.ลุยล่าเมียหลวง หลังเกิดเหตุไหวตัวหลบหนีเข้ากรุง

เมื่อเวลา 15.30 น. วันที่ 10 ธ.ค. พ.ต.ท.สมหมาย เงินดี พนักงานสอบสวน (สบ.2) สภ.อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี รับแจ้งจากร.ต.ท.รัฐพร คงสุโข หัวหน้าชุดสืบสวนสภ.อ.ลานสัก ว่าพบศพหญิงสาวถูกฆ่าตาย บริเวณป่าละเมาะห่างจากถนนเขาคล้องชัย-เขาน้ำโจน ประมาณ 80 เมตร หมู่ 1 ต.ป่าอ้อ อ.ลานสัก จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงทราบตามลำดับชั้น แล้วรุดไปตรวจสอบพร้อมด้วยพล.ต.ต.ราเชนทร์ รื่นกมล ผบก.ภจว.อุทัยธานี พ.ต.อ.อร่าม ขาวสะอาด ผกก.ลานสัก แพทย์เวรโรงพยาบาลลานสัก และเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมใจอุทัยธานี

ในที่เกิดเหตุพบศพนางศรีแพร ศรีสุจันทร์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80/2 ต.กุดยง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย สภาพศพนอนหงาย สวมเสื้อยืดสีเขียวตองอ่อน กางเกงสามส่วนสีขี้ม้า สภาพศพส่งกลิ่นเน่าเหม็น คาดว่าเสียชีวิตมาหลายวัน บริเวณลำคอมีรอยบีบและรอยมีดกรีดและที่ศีรษะของผู้ตายมีร่องรอยการถูกทุบด้วยของแข็ง ปลายเล็บผู้ตายพบเศษเนื้อติดอยู่ เบื้องต้นทราบว่า นางศรีแพรหายตัวออกจากบ้านไปหลายวัน ต่อมาสามี คือนายทองปาน เก่งทางการ อายุ 23 ปี อยู่บ้านเลขที่ 124 ม.5 ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี เข้าแจ้งความให้เจ้าหน้าที่ช่วยตามหาตัวเมื่อวันที่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา

สอบปากคำนายทองปาน ให้การว่า เคยมีภรรยาชื่อนางยวน รุดทองจันทร์ อายุ 50 ปี ต.น้ำรอบ อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี และเลิกร้างกันมา 1 ปี ต่อมาเดินทางเข้ารับจ้างทำงานก่อสร้างในกรุงเทพฯ และอยู่กินฉันสามีภรรยากับผู้ตายได้ 8 เดือน ต่อมาผู้ตายตั้งท้องได้ 3 เดือน จึงพามาอยู่ที่บ้านพักใน อ.ลานสัก กระทั่งวันที่ 18 พ.ค.ตนไปทำงานต่อที่กรุงเทพฯ และนัดหมายจะมารับภรรยากลับไปกรุงเทพฯ ในวันที่ 5 ธ.ค.แต่ยังไม่ทันถึงวันนัดหมาย วันที่ 3 ธ.ค.ได้รับโทรศัพท์จากญาติว่าภรรยาหายออกจากบ้านไป โดยมีนางประนอม ทวีผล ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านติดกันพาออกไปส่งขึ้นรถโดยสารประจำทาง หลังผู้ตายหายตัวไปหลายวันเป็นห่วงเกรงว่าจะได้รับอันตรายจึงมาที่บ้านและออกติดตามก็ไม่พบ จึงนำความเข้าแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตาม

นายน้อย คำแพง ลุงนายทองปาน กล่าวว่า วันที่ 3 ธ.ค.เวลา 11.00 น.เห็นผู้ตายออกไปกินก๋วยเตี๋ยวกับนางประนอม หลังจากนั้นมีคนเห็นนางประนอมพาผู้ตายขับรถเข้าไปบริเวณที่เกิดเหตุริมป่าละเมาะชายเขา จากนั้นผู้ตายหายตัวไป สอบถามนางประนอมบอกว่าผู้ตายไปหาสามีที่กรุงเทพฯ และเป็นคนพาไปส่งขึ้นรถโดยสาร ตนจึงโทรศัพท์ไปสอบถามนายทองปาน

แต่นายทองปานไม่รู้เรื่อง ตนและญาติๆ ช่วยกันออกตามหาตัวก็ไม่พบ ไปสอบถามภรรยาเก่าของทองปานคือนางยวนบอกว่าไม่ได้พบผู้ตาย โดยตนสังเกตเห็นบาดแผลบริเวณลำคอของนางยวนด้วยจึงโทรศัพท์ไปบอกสามีผู้ตายกระทั่งพบศพดังกล่าว ซึ่งตนและนายทองปานติดใจในการตายของนางศรีแพรขอให้นำศพส่งนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์ให้แน่ชัด

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสภ.อ.ลานสักเชิญตัวนางยวน อดีตภรรยาเก่านายทองปานมาสอบสวน แต่นางยวนไหวตัวหลบหนีไปก่อน จึงเชิญตัวนางประนอม ทวีผล มาสอบสวน พร้อมแจ้งข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน เบื้องต้นนางประนอมให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา

วันเดียวกัน พ.ต.ท.สมหมาย เงินดี พงส. (สบ.2) สภ.อ.ลานสัก เจ้าของคดี เปิดเผยว่า วันนี้เรียกพยานแวดล้อมมาสอบสวนเพิ่มเติม พบว่าคดีนี้ไม่ได้มีนางยวน อดีตภรรยาเก่านายทองปาน และนางประนอมที่เป็นนางนกต่อเท่านั้น การสอบสวนทำให้ทราบว่า มีผู้ลงมืออย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 4 คนที่นางยวนซึ่งเป็นคนมีฐานะจ้างมาช่วยลงมือ โดยพยานคนหนึ่งซัดทอดไปถึงอดีตสมาชิกอบต.คนหนึ่งในจ.อุทัยธานี และเจ้าหน้าที่ยังยึดรถเก๋งไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สีเขียวแก่ 1 คัน มาตรวจสอบ ส่วนนางยวนทราบว่าหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภจ.ว.อุทัยธานี และสภ.อ.ลานสักกำลังติดตามตัวอย่างเร่งด่วน