ล่ามือยิงนศ.ชี้ปมขัดแย้งสถาบัน

จากกรณีคนร้าย  2 คนใช้ปืนกระหน่ำยิง นายเชิดชัย ชัยภักดิ์ อายุ  23 ปี ศิษย์เก่าสถาบันเทคโนโลยีปทุมวัน เสียชีวิต และ นายนรินทร์ โตเกาะ อายุ 23 ปี และนายพรพรหม สิรยายน อายุ 24 ปี ได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ทั้งหมดขี่รถ จยย.ออกมาที่ซอยวิภาวดี  36 เขตจตุจักร ท้องที่ สน.พหลโยธิน เหตุเกิดเมื่อกลางดึกวันที่  26 ม.ค.นั้น
    
ความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 27 ม.ค. พ.ต.ท.สุรจิตร เปลี่ยนประเสริฐ สว.สส.สน.พหลโยธิน เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจวางประเด็นหลักไว้ที่เรื่องของสถาบัน โดยก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ตายเดินทางมากินเลี้ยงงานวันเกิดเพื่อนที่ชื่อ ปัด ซึ่งทุกคนที่มาร่วมงานก็เป็นศิษย์เก่าจากสถาบันเทคโนโลยีปทุมวันทั้งหมด ใกล้กันนั้นมีนักเรียนจากสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตอุเทนถวาย ชื่อว่า นายแบงค์ นั่งดื่มอยู่กับญาติภายในบ้านพัก ห่างกันประมาณ 20 เมตร โดยเจ้าของงานวันเกิดก็รู้จักกับนักเรียนจากสถาบันดังกล่าว เนื่องจากต่างพักอยู่ในซอยเดียวกัน 
    
พ.ต.ท.สุรจิตร กล่าวว่า เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะมาดักซุ่มรอ เมื่อกลุ่มผู้ตายขี่มอเตอร์ไซค์ซ้อนสามออกมาข้างนอก เพื่อจะไปซื้อเค้กให้กับเจ้าของงานวันเกิดที่ร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น คนร้าย 2 คนได้ขี่มอเตอร์ไซค์แบบผู้หญิงสวมหมวกกันน็อก ขี่ประกบหลังและใช้อาวุธปืนลูกโม่กระหน่ำยิง ทำให้นายเชิดชัยที่นั่งหลังสุดกระเด็นตกจากรถ ส่วนนายนรินทร์ได้รับบาดเจ็บที่ชายโครงขวา พักรักษาตัวที่ รพ.เปาโลเมโมเรียล สะพานควาย ส่วนนายพรพรหมถูกยิงที่ข้อมือขวา แต่ได้ออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน เจ้าหน้าที่ได้ไปสอบปากคำทั้งสองแล้ว พบว่าทั้งสองไม่สามารถให้การที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี เนื่องจากอยู่ในอาการตกใจ อีกทั้งจะได้เชิญคนที่ชื่อ แบงค์มาให้ปากคำเช่นเดียวกัน นอกจากนี้ช่วงนี้ก็ใกล้จะถึงวันครบรอบสถาปนาของทางอุเทนถวาย หรือ บลูเดย์ ในวันที่ 1 ก.พ.อีกด้วย 
    
พ.ต.ท.สุรจิตร กล่าวต่อว่า ทาง พ.ต.อ.สุพจน์ พรหมศิริ ผกก.สน.พหลโยธิน ได้แบ่งงานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเป็น 2 ชุด  โดยชุดแรกจะตรวจสอบกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุทั้งหมด ส่วนอีกชุดจะลงพื้นที่เพื่อหาพยานบุคคลที่เห็นเหตุการณ์ ตอนนี้พบว่ามีโชเฟอร์แท็กซี่อยู่ในเหตุการณ์ แต่จากการสอบสวนพบว่าได้ยินแต่เสียงปืน นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจจะหาพยานแวดล้อม ทั้งในชุดก่อนและขณะเกิดเหตุ เพื่อไล่ล่าตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์