มันเผาอีกแล้ว กุฏิพระวอด ที่อีสาน

อีสานเผาอีก กุฏิพระวอด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 4 ธ.ค. พ.ต.ต.กิตติธัช สีหาชัย สารวัตร สภ.อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้กุฏิในวัดหงส์ทอง หมู่ 5 บ้านหงส์ทอง ต.กองนาง

จึงประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองท่าบ่อและเทศบาลตำบลศรีเชียงใหม่จำนวน 2 คัน รุดไปฉีดน้ำดับไฟ เมื่อไปถึงพบเพลิงกำลังลุกไหม้กุฏิไม้ชั้นเดียวยกพื้นสูง โดยมีชาวบ้านนำกระป๋องใส่น้ำช่วยกันช่วยดับไฟอย่างโกลาหล

เจ้าหน้าที่ได้ระดมฉีดน้ำสกัดไม่ให้เพลิงลามไปกุฏิเจ้าอาวาสที่อยู่ติดกัน แต่เนื่องจากกระแสลมค่อนข้างแรง ทำให้ไฟเผาไหม้อย่างรวดเร็ว โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง เพลิงจึงสงบ ปรากฏว่ากุฏิถูกเผาวอดทั้งหลัง

พระอธิการสมบัติ วิสุทโธ อายุ 58 ปี เจ้าอาวาสวัดหงส์ทอง ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุได้ออกไปทำธุระที่วัดศรีชมพูองค์ตื้อ ที่อยู่ใกล้กัน กลับมาถึงวัดประมาณ 2 ทุ่มเศษ พบกล่องกระดาษต้องสงสัยวางอยู่หน้าประตูกุฏิ ภายในมีรูปทรงกระบอกขนาดเล็กและกล่องสี่เหลี่ยมขนาดใกล้เคียงกันพันทับด้วยเทปกาวสีน้ำตาลและใช้เชือกฟางสีแดงมัดรวมกันไว้

จึงแจ้งผู้ใหญ่บ้านและตำรวจมาตรวจสอบ พบเป็นกระป๋องกาแฟสำเร็จรูปและกล่องเปล่านมเปรี้ยว หลังตำรวจกลับระหว่างกำลังจำวัดได้ยินเสียงเหมือนไฟไหม้ จึงเดินออกไปดูพบไฟลุกไหม้กุฏิหลังเกิดเหตุที่อยู่ติดกัน โดยต้นเพลิงเกิดจากห้องน้ำแล้วลุกลามไปยังห้องอื่นๆ จึงตีกลองเรียกชาวบ้านมาช่วยดับไฟ แต่ก็เอาไม่อยู่

เจ้าอาวาสวัดหงส์ทองให้การอีกว่า ปัจจุบันวัดแห่งนี้มีท่านจำวัดอยู่เพียงรูปเดียว โดยช่วงเข้าพรรษาก็มีสามเณรมาบวช แต่ได้สึกไปแล้ว ส่วนกุฏิที่ถูกไฟไหม้ ไม่มีพระอยู่ จึงใช้เป็นที่เก็บของประเภทเสื่อ หมอน ที่นอน และของใช้ทั่วไป ก่อนหน้านี้มีทหารจากกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 8 (ป.พัน 8) จาก จ.ขอนแก่น ประมาณ 4-5 นาย มาประจำอยู่ที่วัด

แต่เพิ่งย้ายออกไปอยู่หมู่บ้านใกล้เคียงเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา ช่วงที่มีทหารมาอยู่ที่วัดก็ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่พอทหารย้ายออกไปก็เกิดเพลิงไหม้ขึ้น เหตุการณ์ครั้งนี้คิดว่าน่าจะมาจากการวางเพลิงเพื่อสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ เพราะห้องน้ำจุดเกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าใช้

ทางวัดก็ไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใครจนถึงขั้นต้องวางเพลิงเผาวัด มีเพียงเรื่องเล็กๆน้อยๆ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นนานแล้ว จึงไม่มีสาเหตุอื่นนอกจากการวางเพลิงสร้างสถานการณ์ อีกทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยก่อนเกิดไฟไหม้ด้วย


สาเหตุคาดว่าน่าเกิดการวางเพลิงเพราะจุดที่เป็นต้นเพลิงเป็นห้องน้ำไม่มีการต่อไฟฟ้า


ต่อมาเวลา 13.00 น. วานนี้ (5 ธ.ค.) พ.ต.ต.ประเวส ภูบุญเต็ม นักวิทยาศาสตร์ (สบ.2) หัวหน้า ตร.วิทยาการจังหวัดหนองคาย ได้เดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษผ้าและที่นอนที่ทำจากนุ่นหลงเหลืออยู่บางส่วน

ส่วนสาเหตุคาดว่าน่าจะเกิดจากการวางเพลิง เพราะบริเวณจุดที่เป็นต้นเพลิงเป็นห้องน้ำและไม่มีการต่อไฟฟ้าไว้ใช้ จึงตัดประเด็นไฟฟ้าลัดวงจรทิ้งไปได้ เบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนร้ายน่าจะใช้น้ำมันเบนซินราดก่อนที่จะจุดไฟเผา ด้าน พ.ต.ต.กิตติธัช สีหาชัย สารวัตรเวรเจ้าของคดี กล่าวว่า เหตุเพลิงไหม้เพิ่งเกิดขึ้นในพื้นที่ อ.ท่าบ่อ

จากการสอบสวนเจ้าอาวาสทราบว่า เคยย้ายออกจากวัดแห่งนี้ เพราะต้องการไปจำพรรษาต่างจังหวัดและศึกษาพระธรรม แต่ชาวบ้านก็ได้ไปนิมนต์กลับมาที่วัดอีกครั้งและยังให้ความเคารพนับถือ ส่วนเรื่องวัยรุ่นในพื้นที่ทราบว่าไม่มีหัวรุนแรง จึงยังไม่แน่ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกิดจากการสร้างสถานการณ์หรือคลื่นใต้น้ำจริงหรือไม่ แต่ก็ไม่ทิ้งประเด็นขัดแย้งภายในวัด ทั้งนี้จะได้ สอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงต่อไป

ส่วนความคืบหน้าไฟไหม้โรงเรียนหนองแวงพิทยาคม ต.ดอนเมือง อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เมื่อเช้ามืดวันที่ 4 ธ.ค.นั้น พล.ต.ท.สถาพร หลาวทอง ผบช.ภ.3 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานบุคคลต่างๆ ประกอบด้วย ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู ภารโรงที่นอนเฝ้าโรงเรียนรวมทั้งเด็กนักเรียนรวม 25 ปาก

เบื้องต้นยังไม่สรุปแน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไรแน่ แต่ ได้ตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ ลอบวางเพลิง ประมาทและอุบัติเหตุ ส่วนการสร้างสถานการณ์ก็ยังไม่ตัดทิ้ง และจะเชิญนักการเมืองท้องถิ่นและนักการเมืองระดับจังหวัดมาสอบปากคำด้วย ขณะนี้ได้ส่งเจ้าหน้าที่วิทยาการลงไปตรวจสอบคาดว่าอีก 2-3 วันจะได้ข้อสรุปสาเหตุที่ชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามว่าช่วงที่ผ่านมาเกิดเหตุไฟไหม้ โรงเรียนพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 3 หลายครั้ง โดยเฉพาะ จ.นครราชสีมา เกิดถึง 3 ครั้งแล้ว มีการวิเคราะห์สาเหตุอย่างไร พล.ต.ท.สถาพรกล่าวว่า จ.นครราชสีมามีโรงเรียนมากถึง 2 พันกว่าแห่ง ส่วนใหญ่ตั้งมานาน เป็นอาคารไม้ ที่เก่าแก่อายุนานกว่า 30 ปี ระบบไฟฟ้าจึงมีปัญหา

สิ่งที่เกิดขึ้นตำรวจพยายามหามูลเหตุและวิเคราะห์ถึงจุดเชื่อมโยงกัน แต่ก็ไม่พบว่ามีการสร้างสถานการณ์ใน จ.นครราชสีมา และไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับคลื่นใต้น้ำแต่อย่างใด อย่างไรก็ตาม ได้สั่งให้ ผบก.ทั้ง 8 จังหวัดสืบสวนหาข่าวโดยละเอียดและรายงานสถานการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลทุกวัน

แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ปรากฏว่ามีการชุมนุมในลักษณะที่จะก่อความไม่สงบ ส่วน จ.บุรีรัมย์และ จ.สุรินทร์ ได้กำชับให้ดูแลเป็นพิเศษเพราะทั้ง 2 จังหวัดมีฐานคะแนนเสียงของพรรคการเมืองเดิมอยู่มาก ตำรวจได้เข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชน รวมทั้งขอความร่วมมืออดีตนักการเมืองต่างๆ ทุกคนก็รับทราบและให้ความร่วมมือกับทางราชการเป็นอย่างดี




เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์