หวั่นจิ๊บ ไผ่เขียวฆ่าตัวตาย ส่งตร.ประกบติดในห้องขัง-ติดตั้งกล้องวงจรปิดตลอด 24 ชั่วโมง

พล.ต.ต.อนุรักษ์ แตงเกษม ผบก.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา

กล่าวเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ว่า สั่งการให้ พ.ต.ท.จักราวุธ คล้ายนิล รอง ผกก.ปป.สภ.อุทัย ดูแลจิ๊บ ไผ่เขียว ภายในห้องควบคุมตัวอย่างใกล้ชิด โดยส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปประกบ รวมทั้งติดตั้งกล้องวงจรปิดตลอด 24  ชั่วโมง เพราะเกรงว่าผู้ต้องหาอาจเกิดความเครียดและคิดสั้น
 

พล.ต.ต.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง รอง ผบช.ภ.1 กล่าวเมื่อวันที่ 14 ธันวาคม ว่า หลังจากจับกุม นายจิ๊บ ไผ่เขียว แล้ว

มีการสอบสวนขยายผลคดีเกี่ยวข้องกับยาเสพติดและมีการปิดล้อมตรวจค้นกลุ่มเครือข่ายนักค้ายาเสพติดและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรวม 13 เป้าหมาย ในพื้นที่ 3 อำเภอ คือ อำเภอพระนครศรีอยุธยา อำเภอวังน้อย และอำเภอบางปะอิน ประกอบด้วยท้องที่ สภ.พระอินทร์ราชา อำเภอบางปะอิน ตรวจค้น 2 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด โดยมีการมั่วสุมภายในบ้านจำนวน 3 คน เป็นชาย 1 คน หญิง 2 คน ท้องที่ สภ.บางปะอิน อำเภอบางปะอิน ตรวจค้น 1 เป้าหมาย ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย
 
ท้องที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา อำเภอพระนครศรีอยุธยา ตรวจค้น 3 เป้าหมาย จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ที่ จ 346/53 ข้อหาเสพยาเสพติดให้โทษ (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน

ท้องที่ สภ.วังน้อย อำเภอวังน้อย ตรวจค้น 7 เป้าหมาย อยู่ระหว่างการขยายผลในพื้นที่ของอำเภอวังน้อย เพราะการตรวจค้นยังไม่เสร็จสิ้นสมบูรณ์

ก่อนหน้านี้ "จิ๊บ ไผ่เขียว" หรือ นายนพพล ประสงค์ศิล อายุ 23 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีใช้อาวุธปืนยิงใส่รถโตโยต้า ยาริส ในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ทำให้ด.ช.โภคิน ดีผิว หรือน้องโตมี่ บาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิต ในเวลาต่อมานั้น ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมได้แล้ว หลังย้อนกลับมาซ่อนตัวในพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเมื่อเวลา 02.00 น. วันที่ 14 ธันวาคม  พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1(รรท.ผบช.ภ.1) พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจู่โจมเข้าจับกุมนายจิ๊บ ได้ที่ห้อง 505 ตึก K หมู่บ้านสินทิวาธานี ถนนโรจนะ หมู่ 2  ต.สามเรือน อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ขณะกำลังนอนหลับ และค้นใต้หมอนพบอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมกระสุนจำนวนหนึ่ง

จากการสอบสวนเบื้องต้นนายจิ๊บ สารภาพว่า ได้ร่วมกับพี่ชายคือ นายชาญชัย ประสงค์ศิล หรือโจ๊ก ไผ่เขียว ที่ถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญฆาตกรรมไปแล้ว

ก่อเหตุยิงน้องโตมี่จริง  โดยขี่รถจักรยานยนต์และพี่ชายซ้อนท้ายมาตามถนนสายเอเชียขาเข้ากรุงเทพ ฯ แต่รถโตโยต้า ยาริส ที่น้องโตมี่นั่งมาภายในรถวิ่งด้วยความเร็วสูงในช่องทางที่ 4 นายโจ๊กจึงให้เร่งเครื่องแซงและใช้อาวุธปืนยิงใส่รวม 10 นัด สาเหตุที่ทำไปเพราะความหมั่นไส้เท่านั้น
 

ด้านพล.ต.อ.อัศวิน กล่าวว่า ก่อนถูกจับกุมพบว่า นายจิ๊บหนีไปถึง อ.แกลง จ.ระยอง จากนั้นได้ขึ้นรถตู้โดยสารเข้ากรุงเทพ เมื่อบ่าย ๆ วันที่ 13 ธันวาคมที่ผานมา

และนัดเพื่อให้มารับที่ห้างฟิวเจอร์ รังสิต จ.ปทุมธานี ก่อนกลับมาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา และเข้าพักที่อาคารในหมู่บ้านสินทิวาธานี  โดยทุกขึ้นตอน ทุกคนที่เข้ามาเกี่ยวข้องในการพาหนี ตำรวจมีข้อมูลและรายชื่อ รวมความชัดเจนในตัวบุคคลหมดแล้ว และกำลังติดตามจับกุมมาสอบปากคำทั้งหมด

วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) นางสุรีย์ประภา ตรัยเวช เลขาธิการ ป.ป.ส.

กล่าวถึงกรณีการจับกุมนายนพพล ประสงค์ศิล หรือจิ๊บ ไผ่เขียว ผู้ต้องหาฆ่า ด.ช.โภคิน ดีผิว หรือน้องโตมี่ วัย 12 ปี ว่า ป.ป.ส.ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบอายัดทรัพย์สินเครือข่ายของ จิ๊บ ไผ่เขียว ตาม พ.ร.บ.ปราบปรามผู้กระทำผิดคดียาเสพติด พ.ศ.2534 เบื้องต้นได้ทรัพย์สินมูลค่ารวมกว่า 35 ล้านบาท มีเงินสดกว่า 8 ล้านบาท บัญชีทรัพย์สินในชื่อญาติและแฟนของจิ๊บ ไผ่เขียว 16 บัญชี เป็นเงินกว่า 3 ล้านบาท บ้าน 4 หลัง รถยนต์ 3 คัน รถจักรยานยนต์ 17 คัน ทองรูปพรรณ 10 รายการ และอาวุธปืนจำนวนหนึ่ง โดยทรัพย์สินที่เป็นบัญชีธนาคาร ป.ป.ส.ได้ระงับการเบิกถอนห้ามมีการเคลื่อนไหวทางบัญชี และสั่งการเจ้าหน้าที่ขยายผลติดตามอายัดทรัพย์สินอื่นต่อไป

เลขาธิการ ป.ป.ส.ยังกล่าวว่า จิ๊บ ไผ่เขียว และพี่ชายคือนายชาญชัย ประสงค์ศิล (โจ๊ก ไผ่เขียว)

ที่ถูกตำรวจวิสามัญก่อนหน้านี้มีรายชื่อในบัญชีนักค้ายาเสพติดของ ป.ป.ส.ภาค 1 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่เขตจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและปทุมธานี ซึ่งอยู่ระหว่างติดตามจับกุมอยู่แล้ว ภายหลังอายัดทรัพย์สิน ป.ป.ส.จะประกาศจำแนกทรัพย์สินแต่ละประเภทและเปิดโอกาสให้ญาติและแฟนสาวของจิ๊บและโจ๊ก ไผ่เขียว มาชี้แจงพิสูจน์ทรัพย์ชี้แจงที่มาของทรัพย์สิน  เนื่องจากทรัพย์ที่อายัดไว้ต้องสงสัยว่ามาจากการค้ายาเสพติด หากไม่สามารถชี้แจงพิสูจน์ทรัพย์ได้ทรัพย์ทั้งหมดต้องถูกยึดตามกฎหมายคดียาเสพติด