รวบดีเจ.ผับฮ่องกงกลับอุดรฯมาค้ายา

รวบดีเจ.-นักร้องค้ายาอี เผยทำงานอยู่ในฮ่องกงและกลับมาเยี่ยมบ้านเกิด ถึงกรุงเทพฯแวะซื้อยาอี ก่อนนำมาขายต่อตามสถานบันเทิงในเมืองอุดรฯ ถูกตร.ล่อซื้อจับกุมได้พร้อมยาอีของกลาง

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 30 พ.ย. พล.ต.ต.ยุทธนา ปาละนิติเสนา ผบก.อุดรธานี และพ.ต.ท.ณัฐนนท์ ประชุม รอง ผกก.กลุ่มงานสืบสวนตำรวจภูธร จ.อุดรธานี แถลงจับกุมนายวีระยุทธ ไกยวงศ์ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 80 หมู่ 15 ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย ทำงานเป็นดีเจ.อยู่ที่ร้านชื่อขอนแก่น ในประเทศฮ่องกง กับนายนันทพล พลซา อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 179 ม.4 ต.จำปาโมง อ.บ้านผือ จ.อุดรฯ เป็นนักร้องที่ร้านชื่อตายาย ในประเทศฮ่องกง พร้อมของกลาง ยาอีจำนวน 40 เม็ดและยาเค จำนวน 2 ถุง น้ำหนัก 1 กรัม รถจยย.สกู๊ดเตอร์สีดำ และรถจยย.ฮอนด้าเทน่าสีเขียว ออกมาแถลงข่าวผลการกวาดล้างก่อนงานประจำปีทุ่งศรีเมืองอุดรฯ

พล.ต.ต.ยุทธนากล่าวว่า เนื่องจากในขณะนี้ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตำรวจภ.จว.อุดรฯได้ออกกวาดล้างอาชญากรรม ก่อนงานประจำปีทุ่งศรีเมืองอุดรฯ ต่อมาได้ทำการสืบทราบว่า มีการนำยาเสพติดให้โทษประเภทยาอี และยาเค มาจำหน่ายในสถานบันเทิงเขตตัวเมืองอุดรฯ จึงได้มอบหมายให้ พ,ต.ท.ณัฐนนท์ รองผกก.กลุ่มงานสืบสวนฯ นำกำลังเจ้าหน้าที่ไปทำการสืบสวนติดตามจับกุม จนสืบทราบว่าพ่อค้ายาอีและยาเค คือ นายวีระยุทธ จึงได้ส่งสายออกติดต่อล่อซื้อ และนัดส่งของกันที่ปากซอยทองคำอุทิศ ต.หมากแข้ง อ.เมือง อุดรฯ หลังจากนั้นจึงได้นำกำลังไปซุ่มรอบๆ บริเวณดังกล่าว

พล.ต.ต.ยุทธนากล่าวต่อไปว่า จนเวลาดังกล่าว ก็ได้มี นายวีระยุทธขับรถจยย.สกุ๊ดเตอร์สีดำ มาจอดและพบกับสายตามที่ได้นัดหมายไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงได้เข้าจับกุมตัว พบยาอี 3 เม็ด และนำตัวไปตรวจค้นห้องพักไม่มีชื่อที่เช่าอยู่เป็นห้องปูนชั้นเดียว อยู่ในซอยทองคำอุทิศ ได้ยาอีเพิ่ม 29 เม็ด และยาเคจำนวน 2 ถุง ที่ซุกซ่อนอยู่บนหัวเตียงนอน ทำการตรวจยึดและควบคุมตัวมาสอบสวน และจากการขยายผล ก็ทราบว่านายวีระยุทธได้ซื้อยาอีมาจากนายนันทพล จึงได้ทำการติดต่อล่อซื้อ และจับกุมนายนันทพลได้พร้อมยาอีจำนวน 3 เม็ด ที่บริเวณหน้า ร้านอาหารญี่ปุ่นใกล้กับสถานีตำรวจภูธรอุดรธานี ถ.ศรีสุข ต.หมากแข้ง พร้อมยึดจยย.ฮอนด้าเทน่าสีเขียว และเมื่อไปตรวจค้นหอพักที่เช่าอยู่ที่เดียวกันกับนายวีระยุทธ แต่อยู่คนละห้องได้ยาอีอีก 5 เม็ด รวมเป็น 8 เม็ด จึงนำมาสอบสวน

จากการสอบสวนทั้ง 2 คน ให้การยอมรับสารภาพว่า ได้ไปทำงานเป็นดีเจ.และนักร้อง ที่ประเทศฮ่องกง และเดินทางกลับมาที่เมืองไทยแล้วก็แวะลงที่กทม.ซื้อยาอีและยาเคกับเพื่อนที่ชื่อเบิ้ล เป็นหญิงสาววัยรุ่นแถวลาดพร้าว ยาอีเม็ดละ 600 บาท และยาเคถุงละ 500 บาท แล้วนำมาจำหน่ายต่อให้กับเพื่อนที่ทำงานเป็นนักร้องนักดนตรี ตามสถานบันเทิงในตัวเมืองอุดรฯ ในราคาเม็ดละ 1,000 บาท ที่กำลังแพร่ระบาดนิยมกันเสพส่วนใหญ่คนที่ซื้อมาเสพนั้นจะเป็นคนมีเงินและนำมาจำหน่ายถึง 2 ครั้ง จนมาถูกตำรวจล่อซื้อจับกุมไว้ได้ดังกล่าว

หลังจากนั้น พล.ต.ต.ยุทธนา ปาละนิติเสนา ผบก.ภ.จว.อุดรฯจึงได้มอบตัวนายวีระยุทธ ไกยวงศ์ กับนายนันทพล พลซา พร้อมของกลาง ยาอีและยาเค ให้ร้อยเวรสภ.อ.เมืองอุดรฯ นำไปดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยได้แจ้งข้อหานายวีระยุทธว่า "มียาเสพติดประเภทหนึ่งหรือยาอี มีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และมีวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทประเภท 2 หรือยาเคตามิน มีไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย" ส่วนนายนันทพลแจ้งข้อกล่าวหาว่า "มียาเสพติดประเภทหนึ่งหรือยาอี มีไว้ในครอบเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย" ต่อไป