ล่าไอ้โหดฆ่าสาวจีน มัดศพทิ้งน้ำ ปมเสียพนัน

เธอถูกฆ่าตายอย่างโหดร้ายเมื่อวันที่ 23 พ.ย.ที่ผ่านมา


จากคดีศพสาวนิรนาม ในที่สุดตำรวจก็รู้ที่มาที่ไปของหญิงสาวชาวจีนที่ถูกฆ่าถ่วงน้ำบางปะกง ว่าเหยื่อสาวรายนี้คือนางหยู เสียวเยี่ยน อายุ 44 ปี แม่ม่ายลูก 1 ประกอบอาชีพทำธุรกิจซื้อทองแดงส่งขายประเทศจีน

สาเหตุการตายครั้งนี้เจ้าหน้าที่คาดว่าคนร้ายน่าจะประสงค์ต่อทรัพย์มากกว่าเรื่องอื่น เพราะเงินในบัตรเอทีเอ็มของผู้ตายหายไปกว่า 4 แสนบาท โดยก่อนหน้านี้ญาติผู้ตายให้การว่ามีคนรู้จักซึ่งเป็นชาวจีนโทรศัพท์เข้ามาขอแลกเงินหยวนจำนวนมาก นางหยูจึงหอบเงินไปพบนอกบ้านพัก นอกจากนี้ ยังมีโทรศัพท์จากคนกลุ่มหนึ่งชวนนางหยูออกไปเล่นการพนันไพ่แปดเก้า ก่อนถูกจับฆ่าถ่วงน้ำอย่างโหดเหี้ยม


พบอีกทีก็กลายเป็นศพลอยอืดแล้ว


ช่วงเที่ยงของวันพบศพ พ.ต.อ.วิโรจน์ วัฒนาวงศ์ ผกก.สภ.อ.บางปะกง พร้อมด้วยพ.ต.ท.ประทีป วัฒนสมบูรณ์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ประกิต มงคลฉันท์ รอง ผกก.สส. ร.ต.ต.เสด็จ แก้วสิงห์ทอง ร้อยเวรฯ นำกำลังไปที่กลางแม่น้ำบางปะกง หมู่ 4 ต.ท่าข้าม เพื่อชันสูตรพลิกศพนางหยู

ตอนแรกตำรวจไม่รู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน เพราะสภาพศพไม่มีหลักฐานใดๆ ชี้ชัด สภาพศพถูกห่อหุ้มด้วยผ้าใบกันแดดสีเขียว เมื่อแกะผ้าใบออกจึงพบว่าที่ลำตัวมีเหล็กโครงหลังคายาวประมาณ 120 ซ.ม. มัดด้วยลวดทองแดงติดกับลำตัวด้านหน้าตั้งแต่หน้าท้องถึงปลายขา
ญาติให้การตร.





สภาพศพเป็นที่น่าเวทนายิ่งนัก


มือทั้งสองข้างถูกใส่กุญแจมือไพล่หลัง ที่ข้อมือซ้ายใส่เลสทองคำหนักประมาณ 1 บาท ขาสองข้างถูกใส่กุญแจมือ ที่ข้อเท้าซ้ายใส่สร้อยขา ปากถูกพันด้วยผ้าเทปสีน้ำตาล ลำคอถูกรัดด้วยเชือก มีสร้อยคอทองคำหนักประมาณ 1 บาท พร้อมด้วยรูปเจ้าแม่กวนอิมล้อมเพชร 1 องค์ห้อยอยู่ ตายในชุดใส่กางเกงยีนส์ เสื้อยืดลายขวางสีเหลือง ขาว แดง ดำ ใส่รองเท้าส้นสูง คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3-4 วัน

ห้วงนั้นตำรวจทำอะไรไม่ได้มากไปกว่าการประกาศหาญาติผู้ตายให้มาดูศพพบพนักงานสอบสวน เพราะไม่รู้ผู้ตายเป็นใครมาจากไหน

แต่หลังจากนั้น 2 วันทุกอย่างก็เริ่มกระจ่างขึ้น เมื่อมีนายไพรัตน์ วิสานนท์ อายุ 48 ปี และนายชัชชัย นิยมพรสิน อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 103/114 ซอยลาซาน ถ.สุขุมวิท กทม. เพื่อนและลูกบุญธรรมของนางหยู เดินทางเข้าพบพ.ต.ท.ประกิต มงฉันท์ รอง ผกก.สส.สภ.อ.บางปะกง เพื่อขอดูรูปศพและสิ่งของที่พบในตัวผู้ตาย เจ้าหน้าที่จึงให้ดูรูปที่ถ่ายเอาไว้ เมื่อทั้ง 2 เห็นรูปพร้อมสร้อยคอและเลสข้อมือก็ยืนยันได้ทันทีว่าเป็นศพของนางหยู ที่เพิ่งหายตัวออกจากบ้านเมื่อหลายวันก่อน


จนกระทั่งมาพบอีกทีแม่ก็กลายเป็นศพแล้ว


นายชัชชัยลูกชายบุญธรรมนางหยูให้การว่า แม่อยู่เมืองไทยมานานแล้ว นอกจากตนเองซึ่งเป็นลูกบุญธรรมแล้ว ยังมีลูกติดของนางหยูอีก 1 คนเป็นผู้หญิงอายุ 9 ขวบ ก่อนหน้านี้แม่บุญธรรมประกอบอาชีพนำเข้าน้ำมันพืชใช้แล้วจากฮ่องกงเข้ามาในเมืองไทย เพื่อทำไบโอดีเซลกับอาหารสัตว์ แต่ต่อมาธุรกิจด้านนี้ไม่ค่อยดี จึงเลิกกิจการ หันมาทำธุรกิจซื้อทองแดงส่งประเทศจีน โดยมีเพื่อนคนจีนด้วยกันเป็นคนแนะนำให้ทำ พร้อมทั้งพาไปดูตามร้านของเก่าตามสถานที่ต่างๆ
สภาพศพนางหยู

ครั้งสุดท้ายมีคนชื่อ"ปิง" เป็นชาวจีนด้วยกันโทรศัพท์มาหาแม่บุญธรรม พร้อมทั้งบอกว่าต้องการแลกเงินเพื่อจะไปเมืองจีน โดยโทรศัพท์นัดแนะกันเพื่อจะแลกเงิน และหลังจากนั้นได้มีโทรศัพท์เข้ามาอีก ซึ่งลูกสาวได้ยินแม่คุยว่าจะไปเล่นไพ่แปดเก้า แต่ไม่รู้ว่าไปเล่นกับใครที่ไหน จากนั้นแม่บุญธรรมได้ขับรถเก๋งโตโยต้า คัมรี่ สีเทา หมายเลขทะเบียน ษฮ 5238 กทม. พร้อมด้วยกระเป๋าสะพายมีเงินหยวนคิดเป็นเงินไทยประมาณ 5 หมื่นบาท ที่นายปิงต้องการขอแลกติดตัวไป พร้อมด้วยเงินไทยอีก 4 หมื่นบาท ออกจากบ้านไปตั้งแต่เย็นวันจันทร์ที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา

หลังจากนั้นทุกคนพยายามโทรศัพท์ติดต่อแม่บุญธรรมหลายครั้ง แต่ก็ติดต่อไม่ได้ เนื่องจากมีการปิดเครื่องโทรศัพท์ จึงได้โทรศัพท์ติดต่อเพื่อนๆ ของแม่ให้ช่วยโทร.ติดต่อให้ แต่ก็ไม่มีใครสามารถติดต่อได้ ก่อนหน้านี้ตนเองกับนายไพรัตน์จึงได้เข้าแจ้งความคนหายไว้ที่สน.บางนา พร้อมทั้งเช็กการใช้เงินตามธนาคารที่แม่บุญธรรมได้ฝากไว้ ปรากฏว่ามีคนกดเงินที่ตู้เอทีเอ็ม ธนาคารกสิกรไทย สาขาซีคอนสแควร์ ตั้งแต่วันจันทร์ ครั้งละ 2 หมื่นบาท จำนวน 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1 แสนบาท และในพื้นที่อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ที่ปั๊มเจ็ท และที่ชลบุรี จันทบุรี รวมทั้งหมด 4 แสนบาท ยังดีที่พวกตนสั่งอายัดไว้ทัน

ตามรูปการณ์เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายจะต้องทรมานนางหยู เพื่อให้บอกรหัสบัตรเอทีเอ็ม หลังจากทราบแล้วได้ฆ่าผู้ตายอย่างโหดเหี้ยม ก่อนนำศพมาทิ้งลงแม่น้ำบางปะกงโดยไม่แตะต้องทรัพย์สินอื่นๆ ของผู้ตายเพื่อเบี่ยงเบนคดี จากนั้นได้นำรถของผู้ตายไป พร้อมทั้งกดเงินตามที่ต่างๆ ทุกวัน วันละ 5 ครั้ง ซึ่งทางญาติผู้ตายได้อายัดเงินเอาไว้ จึงกดได้เพียงแค่ 4 แสนบาท

หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตามตัวนายปิงมาสอบปากคำ ซึ่งในชั้นนี้ยังไม่พบว่านายปิงจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตายของนางหยูแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงเบนเข็มไปหาข้อมูลกับกลุ่มนักเล่นการพนันที่โทรศัพท์มาชวนผู้ตายออกจากบ้านในวันเดียวกัน บางทีผู้ตายอาจเสียพนันจนถูกคนในบ่อนพาไปฆ่าก็ได้

ตำรวจรู้ตัวนักเล่นกลุ่มนี้แล้ว

ให้ชั้นเซียนขนาดไหนอย่างน้อยก็ต้องมีหลักฐานทิ้งไว้



ขอขอบคุณข้อมูลข่าวและภาพดีๆจาก :



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์