ตร.แฉสันธนะ ปมขัดแย้งอื้อ

"ตามสอบสวนทุกประเด็น"


กรณีมือปืนประกบยิงนายประยุทธ เนตรายนต์ อายุ 60 ปี คนสนิทของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตตำรวจสันติบาลและผู้สมัคร ส.ว.กรุงเทพมหานคร ซึ่งเคยออกมาแฉเรื่องบ่อนการพนันในกรุงเทพฯ ตายสยองคารถ หลังนั่งออกจากสนามม้านางเลิ้ง ติดไฟแดงบริเวณแยกสวรรคโลก เมื่อค่ำวันที่ 26 พ.ย. ที่ผ่านมา

ความคืบหน้า ที่ บช.น. วันที่ 27 พ.ย. พล.ต.ท. วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ พล.ต.ต. กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน หาข้อมูลประวัติส่วนตัวของผู้ตายและผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงตรวจสอบกลุ่มที่มีความขัดแย้งกับ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ เพื่อหาสาเหตุให้ชัดเจน และดำเนินการสอบสวนในทุกประเด็น ส่วนมือปืนจะยิงผิดตัวหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ และหากผู้เสียหายจะขอกำลังตำรวจเพื่อดูแลความปลอดภัย ตำรวจก็พร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ส่วนในประเด็นที่ พ.ต.ท.สันธนะร้องเรียนว่า ยังมีนักพนันเข้าไปเล่นในบ่อนเตาปูน เพราะยังมีการลักลอบเปิดเล่นกันอยู่นั้น ตำรวจก็พยายามเข้าไปจับกุมอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตำรวจจะถูกฟ้องร้องไปแล้ว ก็ไม่ได้ทำให้ละความพยายาม แต่คงต้องมีวิธีการที่ชัดเจน ข่าวไม่รั่วไหล และตำรวจท้องที่ ต้องไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบ่อนการพนัน การจับกุมต้องมีประสิทธิภาพ

"ขัดผลประโยชน์อื้อ"


ด้าน พล.ต.ต.มานิต วงศ์สมบูรณ์ ผบก.น.1 กล่าวถึงแนวทางการสืบสวนคลี่คลายปมสังหารคนสนิทของ พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ ว่า มีหลายประเด็นที่เกี่ยวข้อง สาเหตุหนึ่งอาจมาจากความขัดแย้งเรื่องเต็นท์รถมือสอง ใกล้กับห้างซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ ซึ่งมีผู้ว่าจ้างให้ พ.ต.ท.สันธนะเข้าไปยึดพื้นที่ จนเกิดความขัดแย้งกันขึ้น เรื่องบ่อนการพนันหลายแห่ง ที่ พ.ต.ท.สันธนะออกมาเปิดโปงเบื้องหลังว่ายังเปิดเล่นกันอยู่ นอกจากนี้ ยังมีเรื่องการพนันในสนามม้า ซึ่ง พ.ต.ท.สันธนะเปิดธุรกิจคอกม้าแข่ง อาจจะไปขัดผลประโยชน์ในวงการธุรกิจการพนันแข่งม้าก็ได้ แต่ทั้งนี้ จะตรวจสอบประวัติของนายประยุทธ เนตรายนต์ ผู้เสียชีวิตให้แน่ชัดต่อไปว่ามีความขัดแย้งส่วนตัวกับใครหรือไม่ สำหรับกลุ่มมือปืน เชื่อว่าน่าจะเป็นมืออาชีพ เพราะมีความชำนาญการยิง วางแผนขั้นตอนการลงมือเป็นอย่างดี

วันเดียวกัน ที่ กก.สส.บก.น.1 พล.ต.ต.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น รอง ผบช.น. ได้เรียกประชุมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน เพื่อคลี่คลายคดี ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ทั้งนี้ มีรายงานว่าชุดสืบสวนดังกล่าว ได้แบ่งกำลังออกตรวจสอบความเคลื่อนไหวของซุ้มมือปืนในจังหวัดต่างๆ โดยเฉพาะที่ จ.นครปฐม และ จ.ราชบุรี รวมทั้งบ่อนการพนันอิทธิพลในกรุงเทพฯและชายแดนประเทศกัมพูชาเป็นสำคัญ

"ขอเวลา หาข้อมูลให้แน่ชัดว่าคนร้ายเจตนาฆ่าใครแน่"


พล.ต.ต.กฤษฎาเปิดเผยว่า ต้องขอเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานอีกสักระยะเพื่อความชัดเจนกว่านี้ว่าคนร้ายมุ่งประสงค์เอาชีวิตใครกันแน่ระหว่าง พ.ต.ท.สันธนะกับผู้ตาย จึงจำเป็นต้องตรวจสอบประวัติความขัดแย้งของผู้ตายควบคู่ไปกันด้วยว่ามีปัญหากับใครหรือไม่ ส่วนที่ พ.ต.ท.สันธนะระบุว่าจะขอแก้แค้นบ้าง เพราะฝ่ายตัวเองเป็นผู้สูญเสีย พล.ต.ต.กฤษฎากล่าวว่า คงยอมให้ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะบ้านเมืองมีกฎหมาย และเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มที่ ใครเกี่ยวข้องจะเรียกมาสอบปากคำทั้งหมด

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่า ในเบื้องต้นทางชุดคลี่คลายคดียังไม่สามารถสรุปประเด็นการสังหารได้ว่ามาจากเรื่องอะไร เนื่องจากการตรวจสอบผู้ตายและ พ.ต.ท. สันธนะมีความขัดแย้งกับบุคคลอื่นๆอีกหลายสาเหตุ อาทิ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 26 พ.ย. การแข่งม้าที่สนามม้านางเลิ้ง ม้าของ พ.ต.ท.สันธนะ ชื่อคุณสันธนะเข้าที่ 2 แต่เบียดคู่คี่มากับม้าเรืองรินของ เสธ.ทหารชื่อดัง ซึ่งเป็นที่รู้กันว่าไม่ลงรอยกับ พ.ต.ท.สันธนะ ซึ่งวิ่งเข้าที่ 1 เมื่อเข้าเส้นชัยแล้ว จ๊อกกี้มีปัญหาลงมาชกต่อยกัน และประเด็นคนสนิทของผู้ตายพัวพันกับการค้ายาเสพติด เครือข่ายของนายโอฬาร หรือเอนก เจ้าของสวนส้มใน อ.ฝาง ซึ่งถูกชุดสืบสวน บช.ภ.1 จับกุมก่อนหน้านี้ด้วย รวมถึงเหตุการณ์ที่ผู้ตายและ พ.ต.ท.สันธนะเข้าไปโวยวายกับผู้กว้างขวางที่ประตูเหล็กหน้าบ่อนเตาปูน จนมีปากเสียงทะเลาะวิวาทกับคนคุมประตู ก่อนจะเข้าไปแจ้งตำรวจ สน.เตาปูน ว่ายังมีการเปิดบ่อนกันอยู่

"พยานบอกไม่ตรงกับคำให้การ อดีตรอง ผกก."


นอกจากนี้ มีรายงานว่า ชุดสืบสวนได้พยานแวด ล้อมคนหนึ่งระบุว่า พ.ต.ท.สันธนะ นั่งไปในรถคันเกิดเหตุก่อนจะถูกมือปืนยิงด้วย โดยเห็น พ.ต.ท.สันธนะวิ่งถือปืนลงจากรถไล่ตามคนร้าย แต่คนร้ายขี่รถหนีไปแล้ว ทำให้ชุดสืบสวนต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงในประเด็นนี้ให้ชัดเจน ว่า หากเป็นจริง ทำไม พ.ต.ท.สันธนะต้องให้การขัดแย้งว่าไปรถคนละคัน อีกทั้งทำไมมือปืนไม่เจาะจงยิงอดีตรอง ผกก.สันติบาล แต่มุ่งไปที่มือขวาคนสนิทซึ่งนั่งอยู่ เบาะหน้าคนเดียว

ด้าน พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ เปิดเผยถึงปมสังหารคนสนิท ว่า น่าจะมาจากเรื่องที่ตนกับผู้ตายไปแจ้งความเรื่องบ่อนการพนันที่เปิดเล่นในท้องที่ สน.เตาปูน เมื่อวันที่ 25 และ 26 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้าที่เข้าแจ้งความ ไม่ใช่อยู่ดีๆไปแจ้ง เพราะว่าขัดผลประโยชน์ แต่เพราะได้เข้าไปดูบ่อนที่หลังตลาดประมวล ย่านเตาปูนแล้ว พบว่ายังมีการเปิดเล่นกันอยู่ตามปกติ ตนกับผู้ตายจึงไปต่อว่าเด็กเปิดประตูเหล็กว่าบ้านเมืองเป็นอย่างนี้ ยังเปิดเล่นกันได้อย่างไร จากนั้นไปแจ้งความตอนตี 2 ของวันที่ 25 ก.ย. ซึ่งที่ทำอย่างนั้นไม่ต้องการให้ใครมาเคลียร์ หรือไม่มีผลประโยชน์ใดๆแอบแฝง เพราะทำธุรกิจคอกม้าเพียงอย่างเดียว ภายหลังไปแจ้งความแล้ว ทราบข่าวจากผู้ใหญ่วงในไม่ใช่ระดับเด็กๆ เตือนให้หยุดการกระทำและระวังตัวให้ดี แต่ไม่สนใจ เพราะไม่ได้รับผลประโยชน์ หรือเรียกรับเงินจากใคร ตั้งแต่นั้นมาก็ระวังตัวเรื่อยมา ไม่คิดว่าจะกล้าทำกันกลางกรุงอย่างนี้

"น้องไม่ทราบเหตุพี่ถูกฆ่า"


ส่วนที่ รพ.รามาธิบดี ด.ต.หญิงเยาวลักษณ์ สาลี อายุ 48 ปี เจ้าหน้าที่เสมียนคดี สน.พหลโยธิน น้องสาวนายประยุทธ ผู้ตาย เดินทางไปรับศพพี่ชายเพื่อนำไปบำเพ็ญกุศล ที่วัดบึงทองหลาง ซอยลาดพร้าว 101 โดยเปิดเผยว่า ไม่ทราบถึงสาเหตุที่นายประยุทธถูกสังหาร เมื่อ 4-5 วันก่อนโทร.คุยกันตามปกติ ผู้ตายก็ยังสอบถามสารทุกข์สุขดิบ ไม่ได้บอกว่ามีเรื่องราวอะไรกับใคร

เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.อำนวย นิ่มมะโน ผบก.น.2 พ.ต.อ.วิชัย สังข์ประไพ รอง ผบก.น.2 ได้นำกำลังเข้า ตรวจค้นบ่อนเตาปูน เลขที่ 269 และ 281 ตรอกข้าวสาร แขวงและเขตบางซื่อ กรุงเทพฯ ตามที่ พ.ต.ท.สันธนะ ระบุว่า เป็นบ่อนลักลอบเล่นการพนันกันอย่างต่อเนื่อง ผลการตรวจค้นพบเป็นบ่อนร้าง ห้องโล่งเปล่า พื้นห้องฝุ่นเกาะหนาเตอะ มีนายณรงค์ พึ่งวัน อายุ 47 ปี เป็นผู้ดูแล ผบก.น.2 กล่าวว่า การตรวจค้นครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่ 18 ในรอบปี ถือเป็นมาตรการป้องปรามการเล่นการพนัน และจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์