มติครูใต้-ปิดร.ร. ทุกสังกัด โดยไม่มีกำหนด

"กลายเป็นแดนมิคสัญญีเข้าไปทุกที"


ความหวังที่จะเห็นสันติสุขใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ริบหรี่ลงเรื่อยๆ กลุ่มโจรยังคงตระเวนก่อเหตุร้ายเข่นฆ่าชาวบ้านผู้บริสุทธิ์ล้มตายเป็นใบไม้ร่วง โดยเฉพาะชาวไทยพุทธต้องอพยพหนีภัยไปอาศัยวัดเป็นที่ซุกหัว นอน โดยเจ้าหน้าที่รัฐหมดปัญญาควบคุมสถานการณ์ เพราะทหาร-ตำรวจก็ถูกฆ่าตายรายวันเช่นกัน ประชาชนต้องอยู่กันอย่างหวาดผวา และใกล้จะกลายเป็นดินแดนมิคสัญญีเข้าไปทุกที ล่าสุดบรรดาครูที่ต้องตกเป็นเหยื่อโจรชั่วทนไม่ไหว ลงมติปิดโรงเรียนทั้ง 3 จังหวัดอย่าง ไม่มีกำหนดแล้ว

ครู 3 จว.ใต้ประชุมเครียด

ที่ห้องประชุมสหกรณ์จังหวัดปัตตานี เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 27 พ.ย. นายบุญสม ทองศรีพลาย ประธานสหพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และประธานสมา-พันธ์ครู จ.ปัตตานี ประชุมร่วมกับนายธวัช แซ่อ่ำ ประธานสมาพันธ์ครู จ.นราธิวาส และนายสัญญา สุวรรณโพธิ์ ประธานสมาพันธ์ครู จ.ยะลา โดยมีเพื่อนครูจากทั้ง 3 จังหวัด เข้าร่วมรับฟังและแสดงความคิดเห็นกันอย่างเคร่งเครียดนานกว่า 3 ชั่วโมง การประชุมครั้งนี้เพื่อหาข้อยุติในการเปิด-ปิดโรงเรียน และหามาตรการรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้กับครู เพื่อนำเสนอให้ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองที่ดูแลรับผิดชอบในพื้นที่ ได้ทบทวนมาตรการที่ผ่านมาว่ามีข้อบกพร่องผิดพลาดจุดใดบ้าง เพราะมาตรการที่ภาครัฐกำหนดไม่ สามารถคุ้มครองชีวิตครูได้

ปัตตานี ปิด 336 โรงเรียน

นายบุญสม ทองศรีพลาย เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า ที่ประชุมมีมติขอความร่วมมือให้ทุกโรงเรียนในทุกสังกัดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หยุดการเรียนการสอนชั่วคราว เริ่มตั้งแต่วันที่ 28 พ.ย.นี้เป็นต้นไป จนกว่าคณะกรรมการสมาพันธ์ครู 3 จังหวัด จะได้ หารือกำหนดแนวทางและมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ชัดเจน การหยุดครั้งนี้เรายึดหลักความปลอดภัยของเพื่อนครูเป็นหลัก ไม่ใช่เป็นการกดดัน และอาจปิดไม่ นาน อีกทั้งเป็นการทบทวนเรื่องของแนวทางดูแลครูให้ รัดกุมมากขึ้นในอนาคต เพราะขณะนี้มีครูเสียชีวิตไปแล้วถึง 59 คน บาดเจ็บจำนวนมาก ส่วนโรงเรียนไหนจะดำเนินการอย่างไรก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของผู้บริหารแต่ละแห่ง โดยโรงเรียนในสังกัดสำนักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานใน จ.ปัตตานี รวมทั้งโรงเรียนในสังกัดอื่น ทั้งระดับประถมและมัธยม จำนวน 336 แห่ง จะปิดทั้งหมด

นราธิวาส ปิดแน่แต่ไม่รู้กี่โรง


ด้านนายธวัช แซ่อ่ำ ประธานสมาพันธ์ครู จ.นรา-ธิวาส กล่าวว่า ได้แจ้งมติที่ประชุมสหพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีมติให้ปิดโรงเรียนทั้ง 3 จังหวัด ตั้งแต่ วันที่ 28 พ.ย.เป็นต้นไป ให้ผู้บริหารโรงเรียนในพื้นที่ จ.นราธิวาส ทั้ง 2 เขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 360 โรง-เรียนทราบแล้ว ซึ่งการจะปิดโรงเรียนหรือไม่นั้น อยู่ที่ผู้บริหารโรงเรียนจะพิจารณา โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่ สีแดง จึงไม่สามารถบอกได้ว่าในวันที่ 28 พ.ย.นี้ จะมีโรงเรียนในพื้นที่ จ.นราธิวาส ปิดโรงเรียนจำนวนเท่าใด แต่มีการปิดเรียนแน่นอน

ยะลา ปิด รร.ยาว 240 โรง

ขณะที่นายสัญญา สุวรรณโพธิ์ ประธานสมาพันธ์ ครู จ.ยะลา เผยว่า หลังได้รับมติจากที่ประชุมสหพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เรื่องการปิดโรงเรียนนั้น จึงได้ไปประชุมร่วมกับผู้บริหารโรงเรียนทุกแห่งทุกสังกัดในจังหวัด ทั้งรัฐและเอกชนที่มีประมาณ 240 โรง ปรากฏว่าที่ประชุมมีความเห็นให้ปฏิบัติตามมติดังกล่าวของสหพันธ์ครูฯ โดยโรงเรียนใน จ.ยะลา จะเริ่มปิดเรียนวันที่ 29 พ.ย.เป็นต้นไป และจะไปเปิดเรียนอีกครั้งในวันที่ 4 ธ.ค. แต่หากสถานการณ์ยังไม่สงบและเลวร้ายลงอีก อาจมีการปิดเรียนต่อไป

ศธ.รับถ้าจำเป็นก็ต้องปิด

นายวิจิตร ศรีสอ้าน รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการปิดโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ขณะนี้โรงเรียนที่ปิดทั้งหมดมีเพียงจังหวัดเดียวคือ จ.ปัตตานี ซึ่งมีความจำเป็นจริงๆ เนื่องจากสถานการณ์ ไม่เอื้ออำนวยไม่ปลอดภัย การปิดน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด แล้วก่อนจะปิดได้ประสานกับฝ่ายความมั่นคงเพื่อหารือกันว่าจะรักษาสถานการณ์ให้ปลอดภัยกับเด็กและครูได้มากน้อยอย่างไร ถ้าสถานการณ์ยังไม่น่าไว้ วางใจและไม่มีใครมั่นใจได้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น การให้ความปลอดภัยกับครูและเด็กด้วยการปิดโรงเรียนเป็นความจำเป็น ส่วนโรงเรียนใน จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส จะมีการหารือกันระหว่างหน่วยงานการศึกษาและครู กับนายประเสริฐ แก้วเพ็ชร ผู้ตรวจราชราชการกระทรวงศึกษาธิการ และทาง ศอ.บต. คงจะมาร่วมหารือด้วย

จัดโซนนิ่งโรงเรียน 3 จว.ใต้


พล.อ.มนตรี สังขทรัพย์ เสนาธิการทหารบก เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) ในวันเดียวกันนี้ ได้มีการหารือถึงปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยทาง คมช.มีแนวคิดที่จะจัดโซนนิ่งโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ภาคใต้ใหม่ โดยใช้ภาพถ่ายดาวเทียมทางอากาศมาประกอบการพิจารณา ซึ่งจะจัดโรงเรียนให้อยู่ในพื้นที่เดียวกันเป็นหมวดหมู่เพื่อความปลอดภัยของครูและนักเรียน รวมทั้งจะสะดวกต่อการรักษาความปลอดภัย และการจัดวางกำลังของเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปดูแลรักษาความปลอดภัยในบริเวณโรงเรียน เพราะต้องยอมรับว่าขณะนี้ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่ไม่ปกติ เพราะฉะนั้นจะต้องมีการจัดการและวางแผน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังบอกไม่ได้ว่าจะเริ่มจัดโซนนิ่งโรงเรียนได้เมื่อไหร่ แต่ เราจะพยายามดำเนินการให้เร็วที่สุด

ผบ.ทบ.ชี้เป็นปัญหาหมักหมม

พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ.และประธานคมช. ให้สัมภาษณ์ถึงการแก้ปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า ปัญหาภาคใต้อย่าพูดถึงแค่วันนี้ ต้องพูดถึงอดีต เพราะในอดีตได้ทำอะไรไว้มากมาย รัฐบาลปัจจุบันเหมือนกำลังมาเช็ดมาล้าง ขณะนี้เราต้องเห็นใจรัฐบาลและคณะทำงานในปัจจุบัน ซึ่งเราจะพยายามทำให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าใครจะทำอะไรสกปรกไว้ เราก็จะเคลียร์ให้เรียบร้อย เมื่อถามว่า เจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนในพื้นที่เกิดความหวาดกลัวเรามีมาตรการอย่างไร พล.อ. สนธิกล่าวว่า ขณะนี้เราพยายามเต็มที่ เพราะความทุกข์ ของประชาชนคือความทุกข์ของเรา เราจะพยายามทำให้ทุกคนมีความสุข และคนที่ลงไปทำงานในพื้นที่ก็พยายามทำงานอย่างเต็มความสามารถ ขณะนี้เจ้าหน้าที่เกิดความสูญเสียทุกวัน เพราะเขาทำงานเต็มที่ ขอให้ทุกคนร่วมมือกันและไว้ใจกัน

พร้อมส่งทหารไปสอนแทนครู

เมื่อถามว่า มาตรการดูแลความปลอดภัยครูในพื้นที่ต้องปรับเปลี่ยนหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ในวันนี้สมาพันธ์ครูได้หารือกัน และวันที่ 28 พ.ย. ทางสมาพันธ์ครูจะประชุมกับ ศอ.บต. และกองทัพภาคที่ 4 เพื่อหาวิธีการแก้ปัญหาที่เป็นรูปธรรม ส่วนแนวคิดที่จะส่งทหารไปเป็นครูในพื้นที่ภาคใต้ กองทัพมีความพร้อมขึ้นอยู่กับกระทรวงศึกษาร้องขอมา

บินหารือมาเลเซียอีกรอบ


เมื่อถามว่า การเดินทางไปมาเลเซียในวันที่ 27 พ.ย.นี้ มีวาระอะไรเป็นพิเศษ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนเคย ไปมาเลเซียมาครั้งหนึ่งสมัยรัฐบาลที่แล้ว ซึ่งได้หารือกับ ผู้ใหญ่มาเลเซีย เพื่อหาทางช่วยเหลือกัน ดังนั้น การเดินทาง ไปครั้งนี้จะไปหารือว่ามาเลเซียจะช่วยอะไรได้บ้าง ซึ่งไม่ใช่ ทางการ ทั้งนี้ ความร่วมมือขึ้นอยู่กับความสมัครใจทั้ง 2 ฝ่าย เมื่อถามว่า ที่ผ่านมามาเลเซียเคยให้ความร่วมมือในการแก้ปัญหาหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า เขาเคยช่วย แต่เราทำตัวไม่เรียบร้อยเอง เขาเลยไม่อยากช่วย ตนทราบ ดีว่าเขาส่งคนมาให้ แต่มาถึงเราก็ไปสังหารเขาทิ้ง ทำให้ มาเลเซียไม่อยากช่วย แต่ขณะนี้จะมีการหารือกันอีกครั้ง ว่าจะช่วยเราได้แค่ไหน เมื่อถามว่า เชื่อมั่นหรือไม่ว่ามาเลเซีย จะช่วยเหลือไทย พล.อ.สนธิกล่าวว่า ตนเชื่อว่ากองทัพกับ เพื่อนรอบประเทศเราเป็นมิตรกันดี รวมทั้งฝ่ายการเมืองด้วย ซึ่งการเดินทางครั้งนี้จะไปหารือกับผู้นำทางทหาร

โจรตั้งค่าหัวนายกฯ-ผบ.ทบ.

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงเปิดเผยว่า ขณะนี้กลุ่มก่อการร้ายใช้ยุทธวิธีการทหารมาเป็นแนวรุกในการตอบโต้ โจมตีการทำงานของเจ้าหน้าที่รัฐ ขณะที่ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. สั่งการให้ พล.ท.วิโรจน์ บัวจรูญ แม่ทัพภาคที่ 4 จัดวางกำลังใหม่ โดยเข้าไปสกัดกั้นป้องกันเหตุ ในพื้นที่ล่อแหลม โดยเฉพาะในพื้นที่ป่าเขาที่กลุ่มก่อการร้ายมักจะไปหลบซ่อนตัว ทั้งนี้ การทำงานจะเน้นการทำงานควบคู่การเมือง กลุ่มก่อการร้ายพยายามดิ้นเฮือกสุดท้าย เพื่อต้องการแย่งชิงมวลชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้กลับเข้ามาเป็นแนวทาง เพื่อต่อต้านอำนาจรัฐ ซึ่งขณะนี้กลุ่มก่อการร้ายได้รุกหนักมากยิ่งขึ้น โดยการแต่งกายเป็นทหาร-ตำรวจ และแจกใบปลิวโจมตีการทำงานเพื่อหวังดิสเครดิตเจ้าหน้าที่ ขณะนี้กลุ่ม ก่อการร้ายมีการตั้งค่าหัว พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.สนธิ เป็นตัวเลขจำนวน 7 หลัก

สนธิ ไม่หวั่น-แค่ข่าวลือ

ผู้สื่อข่าวถาม พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. ถึงกรณีที่กลุ่มก่อการร้ายตั้งค่าหัว พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี และ ผบ.ทบ. พล.อ.สนธิ กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า อย่าไปสนใจ และให้ความสำคัญอะไรกับเรื่องพรรค์นี้ เพราะในพื้นที่มีการปล่อยข่าวลือในลักษณะนี้อยู่ตลอดเวลา โดย พล.อ.สนธิยังกล่าว ติดตลกว่า รัฐบาลก็ให้ค่าหัวผมเดือนละแสนอยู่แล้ว

มท.1 เตรียมล่องใต้พบ ผวจ.


นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่สมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีมติปิด โรงเรียนทุกแห่งในพื้นที่อย่างไม่มีกำหนดว่า ก็ไม่เป็นไรปิดก็ปิดไป เมื่อถามว่า จะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ รมว. มหาดไทยกล่าวว่า ไม่มี เข้าใจว่าการที่ครูทำไปเช่นนั้น คงเป็นเพราะรู้สึกน้อยใจว่าทำไมชาวบ้านถึงไม่ช่วยดูกัน บ้าง เป็นเรื่องที่กระทรวงศึกษาธิการจะไปหาแนวทางใน การแก้ปัญหา โดยปกติฝ่ายความมั่นคงก็ต้องดูแล ขณะนี้ ทางกระทรวงมหาดไทยก็คอยช่วยดูอยู่ด้วย ในสัปดาห์นี้ตนจะเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้เพื่อกำชับการทำงานของ ผวจ. ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และขณะนี้ ศอ.บต.เริ่มทำงานแล้ว ซึ่งคาดว่าจะช่วยทำให้ประชาชนมีความสบายใจ ขึ้นได้ ส่วนการเจรจากับแกนนำกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบนั้น เป็นหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง แต่การแก้ไขที่ตรงจุดคง ต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน

เขตเศรษฐกิจพิเศษตั้งไข่

ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล รองนายกฯ และ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานการประชุมเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ภาคใต้ว่า การหารือครั้งนี้เป็นการรวบรวมข้อมูลทั้งหมด เพื่อจะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. ในวันพุธที่ 6 ธ.ค. ว่าจะมีภาษีและค่าธรรมเนียมประเภทใดบ้างที่จะสามารถลดหย่อน หรือยกเว้นให้แก่ นิติบุคคล หรือบุคคลธรรมดาที่เป็นสถานประกอบการได้ ซึ่ง ครม.จะพิจารณาออกมาเป็นชุดมาตรการ เพื่อให้มีผล การบังคับใช้ในวันที่ 1 ม.ค.2550 เพื่อสร้างแรงจูงใจให้ นักธุรกิจเข้าไปสร้างงานในพื้นที่ รวมทั้งมาตรการด้านแรงงานของกระทรวงแรงงาน ทำอย่างไรที่จะให้มีแรงงานข้ามจังหวัดหรือแรงงานต่างด้าวเข้าไปทำงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มากขึ้น เพราะขณะนี้ยังมีโรงงานที่ยังเดินเครื่องอยู่ มีคำสั่งซื้อจากผู้ส่งออกมา แต่เขาต้องการแรงงาน ดังนั้น ทุกกระทรวงที่เกี่ยวข้องจึงแยกย้ายกันไปทำการบ้าน

ชง ครม.พิจารณาลดภาษี

เมื่อถามว่า การลดหย่อนภาษี เช่น ภาษีนิติบุคคลจากเดิม 30 เปอร์เซ็นต์ จะลดลงเหลือ 25 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ ม.ร.ว.ปรีดิยาธรกล่าวว่า คงไม่ลดลงให้แค่นั้น ถ้าลดเท่านั้นจะลดทำไมให้เหนื่อย ถ้าจะลดก็ต้องลดให้มันจริงจังไปเลย จะสามารถลดได้ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ หรือไม่ก็ต้องรอดูข้อสรุปที่จะเสนอมาก่อน แต่ภาคเอกชนในพื้นที่เองได้เสนอให้ยกเว้นภาษีทั้งหมดเลยด้วยซ้ำ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องเฉพาะกิจชั่วคราวในเวลาที่สมควร ซึ่ง ครม.จะเป็นผู้กำหนดว่าจะยกเว้นหรือลดภาษีให้เป็นเวลากี่ปี และจะครอบคลุมพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้ง 5 จังหวัด หรือเพียง 3 จังหวัด ทั้งนี้ กรมสรรพากรจะเป็นผู้เสนอตัวเลขที่ชัดเจนมาอีกครั้ง นอกจากนี้ รมว.พาณิชย์จะเสนอมาตรการการประกันภัยด้วย ซึ่งตนกำชับให้นำเสนอ ครม. พิจารณาในคราวเดียวกันเลย

นายกฯถกเครียดสางไฟใต้


ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 13.00 น. พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมประชุมหารือผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ไปยัง ศอ.บต. พตท.43 และ ผวจ. 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อหารือถึงปัญหาความรุนแรงในพื้นที่และแนวทางแก้ไข โดยมี พล.อ.บุญรอด สมทัศน์ รมว.กลาโหม นายประกิจ ประจนปัจจนึก เลขาธิการสภา-ความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) เข้าร่วมด้วย การหารือดังกล่าว เป็นไปอย่างเคร่งเครียด โดยใช้เวลานานกว่า 1 ชั่วโมง

ยิงถล่มผัวเมียบ้านพังยับ

สำหรับสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ เมื่อเวลา 07.00 น. วันเดียวกัน ร.ต.ท.สาโรจน์ ช่องรักษ์ หัวหน้า สภ.ต.บาตูตาโมง อ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุมีคนร้ายใช้ปืนยิงถล่มบ้านเลขที่ 336/1 หมู่ 3 บ้านบันนังบูโบ ต.ถ้ำทะลุ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ พบบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านชั้นเดียว บริเวณประตูมีรอยกระสุนปืนพรุน กระจกตู้โชว์ภายในบ้านพร้อมสิ่งของเสียหาย ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนอาก้าตกอยู่นับสิบปลอก นายซาลาฮุดดิน เงาะตาลี อายุ 30 ปี พร้อมภรรยายืนรอให้การว่า เมื่อตอนเที่ยงคืนเศษ ขณะนอนหลับอยู่ก็ต้องสะดุ้งตื่น เมื่อได้ยินเสียงปืนดังขึ้นสนั่นหวั่นไหว ด้วยความกลัวจึงนอนหมอบลงกับพื้นและพยายามไม่ เคลื่อนไหว กระทั่งเสียงปืนเงียบพร้อมเสียงฝีเท้าคนร้ายพากันเดินจากไป แต่ยังไม่กล้าออกไปดู จนเช้าจึงได้ลุกขึ้นสำรวจพบว่าบ้านถูกยิงถล่มยับ ส่วนสาเหตุเชื่อว่าพวกโจรใต้สร้างสถานการณ์

รัวอาก้าใส่ 2 หนุ่มสาหัส

ต่อมาเวลา 15.45 น. พ.ต.ท.นิยม รื่นเริง รอง ผกก. สส. สภ.อ.บันนังสตา รับแจ้งเหตุยิงกันที่ถนนสายนิคมกือลอง หมู่ 6 ต.ตลิ่งชัน ที่เกิดเหตุพบรถกระบะเชฟโรเลต ทะเบียน บจ 7288 ยะลา จอดอยู่บนไหล่ทาง กระจกหน้าแตก ตัวถังมีรอยกระสุนปืนพรุน มีผู้บาดเจ็บ 2 ราย ชื่อนายมามุ สาแม็ง อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 411 หมู่ 3 บ้านลีเงะ ต.ตลิ่งชัน ถูกกระสุนปืนที่แขนซ้ายกระดูกแตก และนายดือลานี ตีมู อายุ 33 ปี อยู่บ้านเลขที่ 23 หมู่บ้านเดียวกัน ถูกยิงที่แขนขวา อาการสาหัส ถูกนำส่ง รพ.บันนังสตา และแพทย์ส่งต่อไปยัง รพ.ศูนย์ยะลา สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายมามุขับรถคันดังกล่าวโดยมีนายดือลานีนั่งคู่กัน เดินทางไปทำธุระ มาถึงที่เกิดเหตุมีคนร้ายคาดว่าเป็นพวกโจรใต้ซุ่มอยู่ในคูข้างทาง ใช้ปืนยิงใส่หลายนัด

ประกบยิงผู้รับเหมาโคม่า


ที่ จ.ปัตตานี เมื่อเวลา 07.20 น. ร.ต.ท.ธานินท์ อินทสระ ร้อยเวร สภ.อ.ยะหริ่ง รับแจ้งเหตุยิงกันบนถนนเพชรเกษม สาย 42 ปัตตานี-นราธิวาส หมู่ 1 บ้านบางปู ต.บางปู ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ซูซูกิ คริสตัล สีแดง ล้มอยู่ ส่วนผู้ถูกยิงชื่อนายสมพร ณ ตะกั่วป่า อายุ 45 ปี อาชีพรับเหมาก่อสร้าง อยู่บ้านเลขที่ 58 ถนนนาเกลือ ต.อาเนาะรู อ.เมืองปัตตานี ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าลำตัว สีข้างและหลัง อาการโคม่า นำตัวส่ง รพ.ปัตตานี ส่วน ภรรยามีรอยถลอกเนื่องจากรถล้มบาดเจ็บเล็กน้อย สอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนายสมพรขี่รถพาภรรยาซ้อนท้ายเพื่อจะไปตลาดนัดที่ อ.เมืองปัตตานี ถึงที่เกิดเหตุมี 2 คนร้ายขี่รถ จยย.แบบผู้หญิง สีดำ ตามประกบ พอได้จังหวะคนร้ายที่ซ้อนท้ายชักปืนกระหน่ำยิงใส่นายสมพรแล้วหลบหนีไป

กดระเบิดถล่มทหารพราน

ต่อมาเวลา 08.00 น. ร้อยเวรคนเดิม รับแจ้งว่ามีเหตุบนถนนสายยะหริ่ง-ปะนาเระ หมู่ 3 ต.ตะโละกาโปร์ จึงนำกำลังไปที่เกิดเหตุพบรถกระบะเชฟโรเลตของทหารเสียหลักตกลงข้างทาง มีทหารบาดเจ็บ 2 นาย ถูกนำส่ง รพ.ยะหริ่ง ทราบชื่อ อส.ทพ.สิงหา ชัยเพชร อายุ 25 ปี และ อส.ทพ.นิวัฒน์ จุลวัฒน์ อายุ 27 ปี สังกัดทหารพราน ร้อย ร.4306 ทั้ง 2 นายถูกสะเก็ดระเบิดที่ลำตัวเล็กน้อย ขณะนี้อาการปลอดภัยแล้ว ในที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดลึก 1 เมตร กว้าง 3 เมตร อยู่ห่างจากรถยนต์ คันเกิดเหตุ 20 เมตร และมีชิ้นส่วนระเบิดกระจายเกลื่อน นอกจากนี้ ยังพบสายไฟยาว 50 เมตร ลากจากหลุมระเบิดเข้าไปในป่าข้างทางโดยขณะที่ทหารพราน 6 นายขับรถยนต์จะไปซื้อกับข้าวในตลาด เมื่อถึงที่เกิดเหตุคนร้ายได้กดชนวนระเบิดทันที ทำให้รถยนต์ตกลงข้างทาง เจ้า หน้าที่ยิงตอบโต้จนกระทั่งคนร้ายหลบหนีเข้าป่าไป

ไล่ยิงลูกจ้างเทศบาลเจ็บ

เวลา 18.00 น. พ.ต.ท.สการียา แวยูโซ๊ะ รองผกก.สส.สภ.อ.สายบุรี จ.ปัตตานี รับแจ้งเหตุยิงกันก่อนจะข้ามสะพานข้ามแม่น้ำสายบุรี เขตเทศบาลตำบลตะลุ-บัน ห่างที่ว่าการอำเภอสายบุรีราว 100 เมตร ที่เกิดเหตุ พบรถ จยย.พ่วงข้างจอดอยู่และพบกองเลือด ผู้ถูกยิงชื่อ นายสิทธิพร อุ่นแก้ว อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/10 ถนนกลาพอ อ.สายบุรี ถูกยิงด้วยปืน .38 เข้าลำตัว 2 นัดบาดเจ็บสาหัส นำตัวส่ง รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี สอบสวนทราบว่า นายสิทธิพรเป็นลูกจ้างขับรถแบ็กโฮของสำนักงานเทศบาลตำบลตะลุบัน ก่อนเกิดเหตุขี่รถ จยย. พ่วงข้างมาจากตลาดสายบุรี มุ่งหน้าจะกลับบ้าน เมื่อถึงที่เกิดเหตุถูก 2 คนร้ายขี่รถ จยย.ตามประกบยิงได้รับบาดเจ็บ

ซุกบึมรถเก๋ง ผช.ผญบ.


ส่วนที่ จ.นราธิวาส เมื่อเวลา 09.00 น. ร.ต.ท. กฤษณะ เข็มกลัดทอง ร้อยเวร สภ.อ.สุไหงปาดี รับแจ้งจากนายอาเซ็ง มะดียา อายุ 32 ปี ผช.ผญบ.บ้านบือ-ราแง หมู่ 3 ต.โต๊ะเด็ง ว่าได้ขับรถเก๋งนิสสัน สีดำ ทะเบียน น-6740 ปัตตานี ออกจากบ้านเพื่อไปซ่อมที่อู่ซ่อมรถ ยนต์ใกล้บ้าน เมื่อตรวจดูใต้ท้องรถพบมีวัตถุคล้ายระเบิดติดอยู่ ขอให้ไปตรวจสอบด้วย จึงพร้อมด้วยชุดเก็บกู้ ระเบิด ตชด.ร้อย 447 บ้านเจาะวา ไปตรวจสอบและเก็บกู้ไว้ได้ พบเป็นระเบิดแสวงเครื่อง บรรจุในท่อพีวีซี ยาว 1 ฟุต น้ำหนัก 2 ปอนด์ ต่อพ่วงกับโทรศัพท์มือถือและสายไฟฟ้าเชื้อปะทุ คาดว่าคนร้ายต้องการสังหารนายอาเซ็ง ซึ่งเป็นคนของรัฐ

ร่วมประณามโจรเผา รร.

เวลา 13.30 น. ผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่นจาก 6 หมู่บ้าน ใน ต.ตันหยงมัส อ.ระแงะ จ.นราธิวาส กว่า 100 คน รวมตัวกันละหมาดฮายัต บริเวณสนามหน้า รร. บ้านบ่อทอง หมู่ 11 ต.ตันหยงมัส ที่ถูกคนร้ายลอบวางเพลิงเผา เมื่อคืนวันที่ 24 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อประณามและสาปแช่งกลุ่มคนร้าย พร้อมทั้งขอพรจากพระเจ้าช่วยปัดเป่าสิ่งเลวร้ายออกจากพื้นที่ โดยมีการนำป้ายผ้าที่เขียนข้อความเช่น เผาโรงเรียนของหนูทำไม คนใจร้าย เผาโรงเรียนของเราเพื่อให้เราโง่ แล้วทำชั่วเหมือนคุณใช่ไหม ชาวบ้านบ่อทองขอประณามคนใจบาปเหยียบย่ำหัวใจเด็ก ติดไว้ที่ซากอาคารเรียนที่ถูกเพลิงไหม้ เพื่อปลุกจิตสำนึกให้ชาวบ้านได้รวมตัวกันต่อต้านกลุ่มคนร้ายด้วย

แจ้งเตือนถล่มเมืองนราฯ

ด้านความเคลื่อนไหวของกลุ่มโจร ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกัน ศูนย์วิทยุ ขุนพล บก.ภ.จ.นราธิวาส และศูนย์วิทยุ สุริยะ จ.นราธิวาส ทั้ง 2 ศูนย์ฯใหญ่ได้แจ้งเตือนเจ้าหน้าที่ทุกส่วนราชการ หน.กองกำลังสถานที่ราชการต่างๆ ทั้งที่ว่าการอำเภอ สถานีตำรวจ ฐานกำลัง ทหาร-ตำรวจ ว่า กำลังฝ่ายตรงข้ามได้มีการเคลื่อนไหวแทรกซึมเข้ามาในพื้นที่แล้วบางส่วน เพื่อเตรียมก่อวินาศกรรม ด้วยการลอบวางระเบิดร้านโชว์รูมรถยนต์ และรถ จยย. ร้านอาหาร ที่ชุมนุมชน แหล่งที่อยู่อาศัยของชาวไทยพุทธ รวมทั้งสถานบันเทิงต่างๆ ในเขต อ.เมืองนราธิวาส ภายในสัปดาห์นี้ คนร้ายอาจใช้ระเบิดคาร์บอมบ์ จยย.บอมบ์ และวางระเบิดแสวงเครื่องในการก่อเหตุครั้งนี้ เพื่อหวังสังหารหมู่เจ้าหน้าที่บ้านเมือง และผู้บริสุทธิ์ และจะมีการลอบโจมตีฐานปฏิบัติการย่อยที่อ่อนแอในพื้นที่สีแดง กลุ่มก่อความไม่สงบจะลอบโจมตี ครั้งใหญ่อีกครั้งหนึ่ง อาจโจมตีหลายจุดพร้อมกัน รวม ทั้งจะลอบโจมตีชุด รปภ.ครู และครู เพื่อข่มขวัญด้วย จึงขอให้เพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ



เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์