สยองกลางกรุงพบซากทารก348ศพวัดไผ่เงินฯ

พบศพทารกนับร้อยถูกนำมารอเผาภายในสถานที่บรรจุศพของวัดไผ่เงินโชตนาราม ซอยตรอกจันทน์ 43 แยก 20 แขวงบางโคล่ เขตบางคอแหลม กทม.

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 16 พฤศจิกายน ต่อมาพ.ต.ท.ชูศักดิ์ คำทราย พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งจึงรุดไปตรวจสอบพร้อม พล.ต.ต.สุเมธ เรืองสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) พ.ต.อ.สมชาย พัชรอินโต รรท.ผบก.น.5 พ.ต.อ. พ.ต.อ.เมธี รักพันธุ์ ผกก.สน.วัดพระยาไกร พ.ต.อ.สมบัติ มิลินทจินดา ผกก.สืบสวน บก.น.5 พ.ต.ท.ดิลก รื่นเนตร สว.สส.สน.วัดพระยาไกร และนายบัณฑิต สิทธินามสุวรรณ ผู้อำนวยการเขตบางคอแหลม แพทย์นิติเวชโรงพยาบาลศิริราช กองพิสูจน์หลักฐาน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึงที่เกิดเหตุพบช่องเก็บศพที่ 17 จากทั้งหมด 20 ช่อง ของสถานที่บรรจุศพรอการเผา "ศาลาสันติสุข"

มีคราบเลือดปนน้ำเหลืองไหลออกมาจำนวนหนึ่ง เจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊งจึงเปิดประตูไม้ช่องเก็บศพดังกล่าวออกถึงกับผงะพบถุงพลาสติคหลากหลายสียัดกันแน่น ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ เมื่อแกะถุงแต่ละใบพบซากศพทารกสภาพเป็นชิ้นเนื้อและกะโหลกศีรษะ บางถุงเป็นศพทารกอายุในครรภ์ประมาณ 4 เดือน บางถุงยังมีผ้าอนามัยด้วย เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันลำเลียงถุงศพออกมาด้านนอกให้แพทย์ และ พฐ.ชันสูตร และตรวจสอบพบว่ามีศพทารกรวมทั้ง 348 ศพ

ด้าน นายสุเทพ ชะบางบอน สัปเหร่อวัด เปิดเผยว่า

ก่อนเกิดเหตุมีเด็กชาวบ้านละแวกดังกล่าวมาวิ่งเล่นตามปกติและเห็นมีน้ำไหลและส่งกลิ่นเหม็นออกมาจากช่องเก็บศพที่ 17 จึงมาบอกให้ทราบ ตนจึงไปแจ้งกับหลวงพ่อพระครูวิจิตร สรกุล เจ้าอาวาสวัดไผ่เงินและตำรวจทราบ ก่อนจะร่วมกันไปตรวจสอบจนพบว่าภายในมีซากศพทารกจำนวนมาก

"ไม่ทราบว่าศพทารกทั้งหมดมาอยู่ในตู้ดังกล่าวได้อย่างไร เนื่องจากปกติช่องเก็บศพทั้ง 20 ช่องจะเต็มตลอด ส่วนช่องที่ 17 ปกติจะมีโลงศพซึ่งเป็นศพเด็กอยู่ด้านในอยู่มาได้ 5 ปีแล้ว ผมเป็นเป็นสัปเหร่อที่วัดนี้ 7 ปี แล้ว จะช่วยพระบูรณะวัด เริ่มทำงานตอน 11.00 น. พอ 5 โมงเย็นก็กลับบ้าน ส่วนซากศพทารกที่เจอนั้นคนที่เอามาทิ้งคงไม่กลัวบาปกรรม"นายสุเทพกล่าว

ขณะที่ พระทิวา ธรรมชโย พระเลขาธิการวัด กล่าวว่า ปกติโกดังเก็บศพ สัปเหร่อจะเป็นคนจัดการแต่ถ้ามาบังสุกุล ญาติโยมมานิมนต์ พระก็จะไปสวดบังสุกุลให้

ดังนั้น พระจะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับโกดังเก็บศพ ส่วนที่พบซากศพทางวัดไม่ทราบที่มาที่ไป ปกติทุกเดือนเมษายนของทุกปี จะมีพิธีล้างป่าช้าสำหรับศพที่บรรจุอยู่ด้านในโกดังถ้าญาติไม่มาติดต่อ ส่วนศพที่มีญาติจะเก็บไว้ตามปกติ คิดว่าซากทารกที่พบน่าจะมีคนนำมาไว้ตั้งแต่ปลายเดือนเมษายนเป็นต้นมา

พ.ต.ท.ชูศักดิ์กล่าวว่า จาการสอบปากคำ นายสุเทพให้การว่า หลุมที่ขุดไว้ด้านข้างสถานที่บรรจุศพที่รอการเผา ได้ร่วมกันกับนายสุจิน ภูมี อายุ 56 ปี สัปเหร่ออีกคนขุดไว้ โดยก่อนขุดทราบจากชาวบ้านว่ามีน้ำเหลืองไหลออกมาจากตู้เก็บศพ และมีซากทารก จึงไปบอกเจ้าอาวาส ซึ่งเจ้าอาวาสได้บอกให้ขุดหลุมฝัง

พล.ต.ต.สุเมธกล่าวว่า สภาพศพเป็นการตายไม่พร้อมกัน มาทั้งก่อนและหลังจากสภาพที่เน่าเปลือย จะต้องสอบปากคำสัปเหร่อทั้ง 2 คน คื

อนายสุจิน กับนายสุเทพ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ และจะต้องสอบสวนทางวัดว่ารู้เห็นกับสัปเหร่อทั้ง 2 รายด้วยหรือไม่ เนื่องจากศพทารกจำนวนมากขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่จะทำกันเพียงแค่คนหรือสองคน ต้องตรวจพิสูจน์ดีเอ็นเอของซากทารกว่าเป็นของใครบ้าง วัตถุพยาน ถุงพลาสติค และกระดาษที่ห่อหุ้ม บุคคลต่างๆ ทั้งวงใน-วงนอก อีกทั้งจะต้องสอบปากคำเด็กที่ดูแลทางเข้าออกด้านหน้าวัดด้วย เนื่องจากเวลา 21.00 น. จะต้องปิดประตูไม่ให้ใครเข้ามาด้านใน

"ถ้าหากมีหลักฐานเชื่อมโยงไปถึงตัวสัปเหร่อทั้ง 2 คน แล้วยังให้การปฏิเสธ จะมีความผิดฐานปกปิด ซ่อนเร้น ช่วยเหลือผู้กระทำผิด แต่ถ้าให้การเป็นประโยชน์ก็จะกันเอาไว้เป็นพยาน หลังจากนี้ จะส่งศพทั้งหมดให้แพทย์ และ พฐ.ชันสูตรศพอย่างละเอียด และตรวจสอบหาหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ รวมถึงกำชับฝ่ายสืบสวนให้หาที่มาที่ไปของซากทารกมาจากที่เดียวกันหรือไม่ เนื่องจากลักษณะการห่อศพทารกคล้ายกันมาก"

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบคลีนิคในย่านถนนจันทน์และถนนสาธุประดิษฐ์พบว่ามีคลีนิคที่เปิดรับปรึกษาปัญหาการคุมกำเนิด จำนวน 15 ร้าน

และบริเวณใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุอีก 2 ร้าน และเบื้องต้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายสุเทพไปสอบปากคำอย่างละเอียด ปรากฏว่า นายสุเทพมีพิรุธให้การวกไปวนมากระทั่งยอมรับสารภาพรับจ้างจากคลีนิคที่รับทำแท้งเถื่อนหลายแห่งนำศพทารกมาไว้ที่ช่องเก็บศพวัดเพื่อรอเผา ซึ่งเจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนขยายผลไปถึงคลีนิคที่คาดว่าจะรับทำแท้งเถื่อนเพื่อดำเนินคดีต่อไป