จับตายมือปืน ฆ่าช่างเชื่อม

พ.ต.ท.พิทักษ์ ทำนุ สารวัตรเวร สภ.กิ่ง อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง ได้รับแจ้งเหตุยิงกันตายในโรงงานทีซีเอ็ม เทคแพนชั่นโปรเจกท์ ซึ่งเป็นโรงงานผลิตโครงหลังคาโลหะ ซอยวัดเขาจอมแห หมู่ 7 ต.มะขามคู่ จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ประสาน บุญเหมือน ผกก. พ.ต.ท.อธิก ลาภานุพัฒน์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ต.ศักดิ์ศรี นาเทเวช สวป. นำกำลังรุดไปสอบสวน

บริเวณประตูด้านข้างอาคารโรงงาน พบศพนายอำนาจ ศรีแก้ว อายุ 30 ปี หัวหน้าช่างเชื่อมประจำโรงงานดังกล่าว อยู่บ้านเลขที่ 178 หมู่ 7 ต.หอกลอง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก

ถูกยิงด้วยปืน 11 มม. เข้าหูซ้ายทะลุขมับขวา 1 นัด
และขมับขวาทะลุขมับซ้าย 1 นัด
นอนหงายเลือดทะลักนองพื้น
มีปลอกกระสุนปืน 11 มม. ตกอยู่ข้างศพ 2 ปลอก

จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

หลังเลิกงานนายอำนาจเดินออกจากโรงงานเพื่อกลับบ้าน คนร้ายเป็นชาย 1 คน ขี่รถจักรยานยนต์ยามาฮ่า มีโอ สีเขียว ทะเบียน ขจว 239 ระยอง ปราดเข้าไปจอดขวางหน้า แล้วลงจากรถปรี่เข้าจ่อยิงนายอำนาจเข้าหูซ้าย ทรุดลงไปกองกับพื้น ก่อนจะเหยียบอกยิงซ้ำอีกนัด แล้วขี่รถหนีไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งวิทยุสกัดจับ

สภ.กิ่ง อ.นิคมพัฒนา ออกตรวจมาถึงหน้าโรงงานมหากิจรับเบอร์ ต.มาบข่า เห็นชาย 2 คน ขี่รถจักรยานยนต์คันที่ถูกแจ้งสกัดจับผ่านไป จึงไล่กวดจนทันกันบนถนนสายระยอง-กระทิงลาย กม.53-54 หมู่ 2 ต.ทับมา อ.เมืองระยอง

คนร้ายเห็นจวนตัวทิ้งรถเผ่นหนี ส.ต.ต.อดิเรกล็อกตัวคนขับไว้ได้ ชื่อนายสมนึก มูลหลวง อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26/2 หมู่ 13 ต.จริม อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์

พร้อมเอี้ยวตัวยิงใส่ ส.ต.ต.พิภพ ที่ไล่กวดตามไปอย่างไม่ลดละ แต่กระสุนพลาดเป้า ส.ต.ต.พิภพชักปืน 9 มม. ยิงสวนกลับไปถูกคนร้ายเข้าอกซ้ายทะลุเอวขวา 1 นัด คนร้ายยังไม่ยอมจำนนยังต่อสู้อีกนัด

แต่กระสุนขัดลำกล้อง จึงทิ้งปืนวิ่งหนีไปได้ไม่กี่ก้าวก็ทรุดฮวบขาดใจตาย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ

พ.ต.อ.ประสาน บุญเหมือน ผกก.สภ.กิ่ง อ.นิคมพัฒนา พร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ระยอง พนักงานอัยการ ปลัดอำเภอเมืองระยอง ร่วมชันสูตรพลิกศพ

ทราบชื่อ

นายสมพร หรือมูฮำหมัด เพชรพินิจ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 11 หมู่ 1 ต.หนองแซง

สวมเสื้อยีน
กางเกงยีน
ถูกยิงเข้าอกซ้ายทะลุเอวขวา 1 นัด
ค้นตัวพบระเบิดลูกเกลี้ยงผลิตในจีน 1 ลูก อยู่ในกระเป๋าเสื้อ
ในกระเป๋ากางเกงมีเงิน 47,000 บาท
กระสุนปืน 11 มม. 8 นัด
ส่วนปืนตกอยู่ห่างศพ 5 เมตร
มีกระสุนปืน 11 มม. 1 นัด
ปลอกกระสุนปืน 9 มม. กับ 11 มม. อย่างละ 1 ปลอก ตกอยู่ริมถนน

เป็นช่างไฟฟ้าโรงงานเดียวกับนายอำนาจผู้ตาย ก่อนเกิดเหตุราวสี่ทุ่ม ขณะนั่งกินข้าวในโรงงาน นายอำนาจ โวยวายหาว่าตนขโมยบุหรี่ไป จนเกิดปากเสียงถึงขั้นชกต่อยกัน แต่เพื่อนคนงานช่วยกันห้ามไว้ได้ ทำให้โมโหจึงโทรศัพท์ไปบอกนายสมพรมือปืน ซึ่งนับถือเป็นพ่อบุญธรรม ขี่รถจักรยานยนต์มาดักรอข้างโรงงาน

พอนายอำนาจเดินออกจากโรงงาน

ตนได้ชี้ว่าเป็นคู่กรณี นายสมพรจึงขี่รถเข้าไปขวางหน้าแล้วลงไปจ่อยิงจนตาย ก่อนจะขี่รถมารับตนให้ทำหน้าที่ขี่รถพาหนี กระทั่งถูกตำรวจไล่กวดตามไปทัน จนเกิดการดวลปืนกัน ทำให้นายสมพรถูกจับตายดังกล่าว

สั่งให้ชุดสืบสวนไปตามตัวนางวิไล ฉายารัตน์ มาดูศพนายสมพร เนื่องจากสงสัยว่าเป็นมือปืนที่บุกยิงเด็ดชีพนายสมาน ฉายารัตน์ อายุ 49 ปี สามีนางวิไล อาชีพพ่อค้าซื้ออวนเก่า และยิงนางวิไลบาดเจ็บ

เหตุเกิดในบ้านเลขที่ 108 หมู่ 5 ต.มาบข่า เมื่อค่ำวันที่ 31 ต.ค. ที่ผ่านมา พอเห็นศพนางวิไลยืนยันว่าเป็นมือปืนที่บุกสังหารนายสมาน

นายสมพร มือปืนชะตาขาดรายนี้ เป็นมือปืนอาชีพเคยก่อคดียิงคนร้ายมาแล้วหลายคดี ล่าสุดเพิ่งพ้นโทษคดีฆ่าผู้อื่นเมื่อเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ส่วนเงินที่พบในตัวนายสมพรนั้น นายสมนึกอ้างว่าเป็นเงินที่ได้จากรับงานยิงรายหนึ่งใน อ.แกลง จ.ระยอง หรือ จ.จันทบุรี

ส่วนคดีสังหารนายสมาน ฉายารัตน์ พ่อค้าอวนเก่า

สาเหตุมาจากนายสมนึกได้มั่นหมายถูกสาวนายสมาน ต่อมาถูกฝ่ายหญิงถอนหมั้นแล้วไม่ยอมคืนของหมั้น นายสมนึกจึงนำเรื่องไปบอกนายสมพร แล้วขี่รถจักรยานยนต์พานายสมพรบุกยิงนายสมานกับเมีย จึงคุมตัวดำเนินคดี ในข้อหาร่วมกันฆ่าทั้งสองคดีแล้ว

แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ