แม่โจ๋โวยตร.ทำลูกจมน้ำดับ

วัยรุ่นตกใจโดดเจ้าพระยาหนีตำรวจ โชคร้ายจมน้ำดับ แม่ประกาศเอาเรื่องชุดสืบเตาปูนถึงที่สุด

วันนี้ (30 ต.ค.)  ร.ต.ท.ศักดิพัฒน์ บัวตูม พงส.(สบ 1) สน.บางโพ  รับแจ้งเหตุชายวัยรุ่นจำนวน 2 คน กระโดดลงไปในแม่น้ำเจ้าพระยาจมหายไปบริเวณชุมชนแพใต้สะพานพระราม 6 แขวงและเขตบางซื่อ จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง โดยเจ้าหน้าที่ได้นำเรือมาช่วยกันค้นหาชายวัยรุ่นทั้ง 2 คนที่สูญหายแต่การทำงานเป็นไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเป็นเวลากลางคืน อีกทั้งน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณดังกล่าวมีระดับน้ำสูงและไหลค่อนข้างเชี่ยว เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมงจึงพบศพของนายจักรพันธ์ ติวาเจริญรัตน์ อายุ 17 ปี วัยรุ่นที่อาศัยอยู่ในชุมชนดังกล่าวจมน้ำเสียชีวิต ส่วนวัยรุ่นอีกรายที่ยังไม่พบร่างเบื้องต้นทราบเพียงชื่อเล่นว่านายติม อายุ 24 ปี คาดว่าน่าจะถูกกระแสน้ำพัดไป

จากการสอบสวนแฟนสาววัยรุ่นอายุ 17 ปีของนายจักรพันธ์ ผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนและผู้ตายได้นั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าบ้านพักในชุมชน

ระหว่างนั้นได้มีตำรวจชุดสืบสวนของสน.เตาปูนประมาณ 6 -7 นายวิ่งกรูเข้ามา ซึ่งคาดว่าคงจะเข้ามาจับกุมกลุ่มวัยรุ่นที่กำลังนั่งปรับแต่งรถจักรยานยนต์ไปขับซิ่ง เมื่อแฟนตนเห็นท่าไม่ดีจึงวิ่งหนีเพราะคิดว่าจะถูกตำรวจเข้ามาจับกุม แต่เพราะชุมชนเป็นแพแฟนตนและวัยรุ่นอีก 2 คนจึงกระโดดหนีลงไปในแม่น้ำ  แฟนสาวของผู้ตายให้การต่อว่า หลังจากนั้นตำรวจก็ยังยืนดักรออยู่บนฝั่ง โดยหนึ่งในนั้นยืนถือปืนและพูดจาข่มขู่ ทำให้ทั้ง 3 คนไม่กล้าว่ายขึ้นมา กระทั่งเวลาผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงตำรวจกลุ่มดังกล่าวจึงพากันกลับไป พร้อมทั้งได้ยึดรถจักรยานยนต์ไป 2 คัน

หลังเกิดเหตุตนรีบนำเรื่องไปบอกแม่เลี้ยงของนายจักรพันธ์ทราบและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจสน.บางโพให้ช่วยนำเรือออกหากระทั่งพบศพของนายจักรพันธ์ แต่นายติมยังไม่พบ ส่วนวัยรุ่นอีกรายทราบว่าได้ว่ายน้ำหนีขึ้นฝั่งมาได้ ทั้งนี้แม่เลี้ยงของผู้ตายยืนยันจะเอาเรื่องตำรวจกลุ่มดังกล่าวให้ถึงที่สุด ด้าน ร.ต.ท.ศักดิพัฒน์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเพื่อนผู้ตายทราบว่าเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนของ สน.เตาปูนได้มาตรวจจับรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยในชุมชนที่เกิดเหตุ แต่เมื่อจะเข้าชาร์จจับกุม กลุ่มวัยรุ่นจึงตกใจพากันกระโดดน้ำหลบหนี อย่างไรก็ตามคงจะมีการเรียกตัวตำรวจชุดดังกล่าวมาสอบสวน เนื่องจากญาติผู้ตายต้องการให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด.


เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์