รวบเซียนพระชื่อดังอ้างชื่อ ´โจว เหวิน ฟะ´ ตุ๋นเงินเสี่ยฟาร์มปลา

รวบเซียนพระชื่อดังโคราช ฉายา ปอ สีคิ้ว หลอกตุ่นเงินเสี่ยฟาร์มปลาเมืองโอ่งกับพวกอีก 8 คน ได้เงินไปเกือบ 2 ล้าน อ้างซี้ดาราดังฮ่องกง โจว เหวิน ฟะ-หง จิน เปา เสนอเงินให้ 100 ล้านแลกกับพระเครื่องชุดเบญจภาคี ระบุเจอพระเครื่องแล้วแต่ไม่มีเงินไปเช่ามาปล่อยต่อ ชักแม่น้ำทั้งห้าจนเหยื่อตายใจ หวังได้กำไรมหาศาล เลยยอมมอบเงินให้คนละแสนสองแสน แต่สุดท้ายหายจ้อย กระทั่งตร.ซ้อนแผนจับกุมได้ในข้อหาฉ้อโกง

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 22 พ.ย. ร.ต.อ.ทศพล ทองเฉลิม รอง สว.สส.สภ.อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ได้นำกำลัง พร้อมหมายจับศาลแขวงราชบุรี เข้าจับกุม นายมนัส (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา หรือที่รู้จักกันในวงการเซียนพระเครื่องว่า ็ปอ สีคิ้วิ โดยจับกุมได้ภายในฟาร์มเลี้ยงปลา ็ถวิลฟาร์มิ หมู่ 4 ต.ปากแรต อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี ในข้อหาฉ้อโกง

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจาก นายธีรพจน์ พลเสน อายุ 49 ปี เจ้าของฟาร์มเลี้ยงปลาดังกล่าว พร้อมพวกอีก 8 คน ได้เข้าแจ้งความกับ พ.ต.ต. พิศิษย์ ลายรักษ์ สวส.สภ.อ.บ้านโป่ง ว่าตนและพวกทั้งหมดได้ถูกนายมนัส หรือปอ สีคิ้ว หลอกเอาเงินไปคนละแสนกว่าบาท และบางรายโดนเกือบ 4 แสนบาทก็มี รวมทั้งหมดแล้วเกือบ 2 ล้านบาท

โดยนายธีรพจน์กับพวกเล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 6-7 เดือนที่ผ่านมา ได้ไปรู้จักกับนายมนัสอย่างบังเอิญที่ จ.นครปฐม เนื่องจากมีความนิยมชมชอมในพระเครื่องเหมือนกันจึงคุยกันถูกคอ ต่อมานายมนัสได้มาหาตนที่ฟาร์มเลี้ยงปลา และได้รู้จักกับพรรคพวกตนที่ชอบพระเครื่องเช่นกัน ขณะนั้นนายมนัสอ้างว่าได้รู้จัก กับ หง จิน เป่า และโจว เหวิน ฟะ สองดาราชื่อดังชาวฮ่องกง ตอนที่ดาราทั้งสองมาท่องเที่ยวที่พัทยา และได้เช่าพระเครื่องเป็นพระสมเด็จวัดระฆังไปจากนายมนัส

ภายหลังอีก 3 เดือนดาราฮ่องกงทั้งสองได้เดินทางกลับมาหานายมนัสที่ประเทศไทยอีกครั้ง พร้อมกับบอกว่าเพิ่งจะประสบอุบัติเหตุมา แต่รอดมาได้อย่างปลอดภัย โดยเชื่อว่าเป็นเพราะอิทธิฤทธิ์ของพระเครื่องที่เช่าไปและแขวนคออยู่ จึงอยากจะหาเช่าพระสมเด็จวัดระฆังอีก พร้อมด้วยพระอีก 4 องค์ในชุดเบญจภาคี โดยดาราฮ่องกงทั้งสองได้เสนอเงินให้จำนวน 100 ล้านบาท หากนายมนัสหามาให้ได้ และจะเดินทางกลับมาฟังข่าวอีกครั้งภายในสิ้นปีนี้

นายมนัส ได้บอกกับพวกตนว่า ในขณะนี้ได้พบพระเครื่องชุดเบญจภาคีแล้ว ที่ จ.สุโขทัย แต่ต้องรวบรวมเงินไปเช่า ซึ่งนายมนัสได้พูดจาหว่านล้อมจนพวกตนทั้งหมดตายใจยอมมอบเงินให้ไป

หลังจากนั้นพวกตนก็พยายามสอบถามเรื่องเงินเรื่อยมาว่าเมื่อไหร่จะได้คืน แต่ถูกนายมนัสบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนพวกตนแน่ใจว่าถูกหลอกจึงพากันเข้าแจ้งความดังกล่าว

หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออนุมัติ หมายจับจากศาล แล้ววางแผนโดยให้นายธีรพจน์กับพวกทำทีโทรศัพท์ติดต่อให้นายนมัสเดินทางมารับเงินอีกจำนวนหนึ่ง กระทั่งนายมนัสหลงกลขับรถเก๋งมารับเงินที่ฟาร์ม เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุมทันที โดยตั้งข้อกล่าวหาว่าฉ้อโกง และจากการตรวจสอบประวัตินายมนัส ยังพบว่าผู้ต้องหารายนี้มีหมายจับในคดีลักษณะเดียวกันนี้ที่ สภ.อ.เด่นชัย จ.แพร่.

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์