ทุบหัวรัดคอ เศรษฐินีม่าย

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 22 พ.ย.


พ.ต.ต.นราวุทธ คำวันดี สารวัตรเวร สภ.อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รับแจ้งมีคนถูกฆ่าตายในบ้านเลขที่ 120 ริมถนนคงทองสายหนองปลาไหล-ดอนตูม หมู่ 8 ต.วังน้ำเขียว อ.กำแพงแสน จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.ฐานันดร์ นาคขำพันธ์ ผกก. พ.ต.ท.พิทักษ์ สายจันทร์ยนต์ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ไชยา สงวนจีน รอง ผกก.สส. พ.ต.ต.คณณัฏฐ์ ศุภวัชรโยธิน สว.สส. พญ.กษมา กันทรวิชัยวัฒน์ แพทย์เวร รพ.กำแพงแสน เจ้าหน้าที่มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์-นครปฐม ไปที่เกิดเหตุ

พบเป็นบ้านครึ่งตึกครึ่งไม้ 2 ชั้น


มีรั้วรอบขอบชิดปลูกอยู่ในเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่
บริเวณหลังบ้านตรงร่องน้ำระหว่างห้องครัวและตัวบ้าน

พบศพนางสมยงค์ ประทุมทอง อายุ 55 ปี เจ้าของบ้าน

นอนหงายจมเลือด
สภาพศพสวมกางเกงยีนสีน้ำเงิน
เสื้อคอกระเช้าลายดอก
ที่หน้าอกยังผูกผ้ากันเปื้อนสำหรับแม่ค้าขายของ
มีบาดแผลถูกตีด้วยของแข็งเข้าที่ศีรษะและท้ายทอยเป็นแผลฉกรรจ์
ลำคอมีผ้าดิบสีขาวยาวประมาณ 1.5 เมตรรัดแน่น
เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง
ข้างศพพบรอยรองเท้าผ้าใบยี่ห้อคอนเวิร์สเหยียบเลือดของผู้ตายเปรอะเปื้อนไปทั่วบริเวณ
ในที่เกิดเหตุพบล็อกเกตแขวนคอพร้อมกระเป๋าสตางค์ของผู้ตายตกอยู่ ที่ลูกบิดประตูหลังบ้านมีรอยเปื้อนเลือด
ห่างจุดพบศพไปทางหลังบ้าน 15 เมตร
พบไม้หน้าสามเปื้อนเลือดยาว 1 เมตรเศษ ตกอยู่
และมีร่องรอยคนร้ายหลบหนีข้ามคลองไส้ไก่ออกไปทางหลังบ้าน

สอบสวนนางถนอม อ่อนสมกิต อายุ 56 ปี


อยู่บ้านเลขที่ 43 หมู่ 8 ต.วังน้ำเขียว ลูกน้องของผู้ตายให้การว่านางสมยงค์ ผู้ตายเป็นแม่ค้าขายอาหารตามสั่งในโรงงานกระดาษชื่อ หจก.กฤษณะมงคล ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามบ้านที่เกิดเหตุ

ปกติจะเปิดร้านขายอาหารช่วงสายๆ

เลิกขายราว 3 ทุ่ม ผู้ตายเป็นคนดี ขยันขันแข็ง และมีฐานะดี มีห้องให้เช่าอีก 10 ห้อง และปล่อยเงินให้กู้ ผู้ตายพักอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุเพียงลำพัง เนื่องจากสามีอดีตข้าราชการเสียชีวิตไปหลายปีแล้ว ส่วนลูกสาวก็เป็นครูอยู่ต่างอำเภอ ก่อนเกิดเหตุเมื่อเย็นวานนี้

ตนขออนุญาตผู้ตายกลับบ้านก่อนเวลาเพราะมีธุระ กระทั่งรุ่งเช้ามาหาผู้ตายที่บ้านเพื่อพากันไปเปิดร้าน ปรากฏว่านางสมยงค์ ถูกฆ่าตายแล้ว สาเหตุไม่ทราบว่าเกิดจากเรื่องใด เพราะผู้ตายไม่เคยมีปัญหากับใคร

ต่อมา นางฉวีวรรณ แต่งอ่อน อายุ 36 ปี


อาจารย์ รร.บ้านหลวงวิทยา อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ลูกสาวผู้ตายเดินทางมาที่เกิดเหตุ เมื่อเห็นสภาพศพแม่ถึงกับปล่อยโฮด้วยความเสียใจ พร้อมให้รายละเอียดกับตำรวจว่า เมื่อวันก่อนกลับมาบ้าน แม่บ่นให้ฟังว่ามีปัญหาเรื่องเก็บค่าเช่าบ้านที่คนเช่าค้างไว้

แต่ก็ไม่รู้เรื่องอะไรมากเพราะตนแต่งงานแยกครอบครัวอยู่คนละบ้านกับแม่

หลังสำรวจทรัพย์สินของแม่ปรากฏว่า

ปืนสั้น .22
ทองรูปพรรณหนัก 10 บาท
พระเลี่ยมทองกว่า 10 องค์
สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท
โทรศัพท์มือถือ
เงินสด 30,000 บาท
และโฉนดที่ดิน 3 แปลง เนื้อที่ 9 ไร่ ที่ใส่ไว้ในตู้เสื้อผ้าหายไป

พ.ต.อ.ฐานันดร์ นาคขำพันธ์ ผกก.สภ.อ.กำแพงแสน กล่าวถึงปมสังหารโหดตำรวจตั้งไว้ 3 ประเด็น คือ


การปล่อยเงินกู้
ปัญหาค่าเช่าบ้าน
และฆ่าชิงทรัพย์

คนร้ายน่าจะรู้จักกับผู้ตาย มีการเฝ้าดู และรู้เวลากลับบ้านและแอบเข้ามารอผู้ตายอยู่ก่อนแล้ว เมื่อผู้ตายเลิกขายอาหารกลับเข้าบ้าน จึงถูกคนร้ายตีด้วยไม้หน้าสามแล้วใช้ผ้าดิบรัดคอซ้ำเพื่อให้แน่ใจเหยื่อเสียชีวิต

จากนั้นคนร้ายจึงหยิบลูกกุญแจของผู้ตาย

ไปไขลูกบิดประตูหลังบ้านเข้าไปลักทรัพย์อย่างใจเย็น โดยระหว่างรื้อค้นทรัพย์สินคนร้ายยังเปิดพัดลมคลายร้อนด้วย เพราะมีรอยเลือดเปื้อนอยู่ที่สวิตช์เปิดปิดพัดลม ซึ่งจะต้องสอบปากคำผู้เกี่ยวข้องอย่างละเอียดอีกครั้ง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นห้องเช่าห้องที่ 4


ที่ผู้ตายเปิดให้เช่าพักอาศัย ปรากฏว่าพบ

แมกกาซีนปืน เอ็ม 16 จำนวน 2 อัน
กระสุน 60 นัด
ปลอกกระสุน 3 ปลอก
ปืนพกสั้นพร้อมลำกล้อง .22 และ .38 อย่างละ 1 อัน

คุมตัวนายธนศาล หนูบ้านเกาะ อายุ 23 ปี ผู้เช่า นายแดง นายดำ นายขาว (นามสมมติ) อายุ 16 ปีเท่ากัน และ ด.ช.รัก (นามสมมติ) อายุ 13 ปี ไปสอบสวน โดยนายธนศาลให้การว่า อาวุธทั้งหมดเป็นของเพื่อนชาวพม่านำมาฝากไว้ ส่วนการฆาตกรรมนางสมยงค์พวกตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์