รถร่วมชน 3 ราย 2 ศพ

"รถเมล์ชนสยอง หนังใบหน้าถลกเปิดกะโหลก"


เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 21 พ.ย. ร.ต.ท.สุรเชษฐ์ ปาณียะ พงส.(สบ.1) สน.บางกอกใหญ่ รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถเมล์ทับคนตาย บริเวณปากซอยอิสรภาพ 28 ถนนอิสรภาพ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ กทม. จึงรุดไปสอบสวนพร้อมมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุบริเวณป้ายรถประจำทาง พบศพ น.ส.นวลฉวี วงศ์หน่อน้อย อายุ 62 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36 ซอยวัดหงส์ฯ แขวงวัดอรุณ เขตบางกอกใหญ่ อดีตครู โรงเรียนวัดราชสิทธาราม นอนคว่ำหน้าเสียชีวิต สภาพศีรษะ ถูกล้อรถทับ จนหนังใบหน้าถลกเปิดเห็นกะโหลกชวนสยด สยอง ห่างไปเล็กน้อยพบรถร่วมประจำทาง สาย 19 สีครีม-น้ำเงิน วิ่งระหว่างพุทธมณฑล สาย 2-สวนดุสิต เลขทะเบียน 11-3254 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ โดยคนขับและพนักงานเก็บเงินไม่ได้หลบหนี ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่

สอบสวนนายอดิเรก แอ่งสุข อายุ 42 ปี คนขับ รถร่วมคันเกิดเหตุ ให้การว่า ขับรถออกจากอู่พุทธมณฑล สาย 2 มุ่งหน้าไปยังปลายทางมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต เมื่อถึงที่เกิดเหตุนำรถเข้าจอดเทียบป้ายรับ-ส่งผู้โดยสาร จนเรียบร้อย ก่อนเคลื่อนตัวรถออก มองกระจกหลังจนแน่ใจ ว่าปลอดภัยแล้ว แต่ไม่ทราบว่าผู้ตายวิ่งมาขึ้นรถตอนไหน ทราบจากนายเอกชัย เมืองนนท์ อายุ 21 ปี พนักงานเก็บเงิน ว่า ผู้ตายก้าวเท้าขึ้นรถ แต่ยังคาอยู่ตรงบันไดขั้นที่ 2 เมื่อ รถออกตัวกระชากทำให้เสียหลักร่วงลงพื้นถนน ล้มเข้า ไปถูกล้อหลังทับเสียชีวิต ตำรวจจึงแจ้งข้อหาขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต

"รถมินิบัสพลิกคว่ำ ดับ 1 ศพ"


รายต่อมา สายวันเดียวกัน เกิดอุบัติเหตุรถมินิบัส สาย 27 สีเขียว เลขทะเบียน 11-3495 กรุงเทพมหานคร วิ่งระหว่างมีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยฯ พลิกคว่ำ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนเสรีไทยขาเข้า ก่อนถึงสี่แยกบางชัน 200 เมตร แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กทม. ร.ต.ท. สมบูรณ์ มีเกษม พงส.(สบ.1) สน.มีนบุรี เดินทางไปสอบสวน พบรถมินิบัสคันดังกล่าว พลิกตะแคงขวาอยู่กลางถนน บริเวณ หน้ารถมีศพผู้เสียชีวิต 1 ราย ทราบชื่อ นายประดิษฐ์ผล ปานแก้ว อายุ 22 ปี อยู่บ้านเลขที่ 66/72 หมู่ 5 แขวง คลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะมนุษยศาสตร์ ปี 4 สภาพกะโหลกแตกยุบ แขนขาหัก ส่วนผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นผู้โดยสารชาย-หญิง จำนวน 10 ราย

บาดเจ็บเป็นแผลบวมฟกช้ำเล็กน้อย ถูกนำ ส่ง รพ.นวมินทร์ รักษาตัวแล้วแพทย์อนุญาตให้กลับได้ หลังเกิดเหตุคนขับรถมินิบัสตีนผี อาศัยความชุลมุนหลบหนีไป จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ทราบว่า รถมินิบัส คันดังกล่าวขับแข่งตีคู่มากับรถมินิบัส สีเขียว ไม่ทราบสาย และหมายเลขทะเบียน วิ่งมาจากมีนบุรีด้วยความเร็ว เพื่อ เข้าป้ายแย่งผู้โดยสาร เมื่อใกล้ถึงสี่แยกบางชัน เกิดเสีย หลักพลิกคว่ำหมุนกลางถนนเทกระจาด ทำให้มีคนเจ็บ ตายดังกล่าว เบื้องต้นตำรวจตรวจสอบทราบชื่อคนขับว่า นายศร ลักษณะ อยู่ระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี

"รถเมล์เฉี่ยว จยย.เจ็บสาหัส"


อีกราย เวลาไล่เลี่ยกัน ร.ต.ท.นิติกร ทองสุข พงส. (สบ.1) สน.ชนะสงคราม รับแจ้งมีรถประจำทางเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บบริเวณสามเหลี่ยมหน้า พระลาน ถนนหน้าพระลาน แขวงพระบรมมหาราชวัง เขต พระนคร ไปสอบสวนพบรถประจำทางร่วมบริการ ขสมก. สีฟ้า-ขาว สาย 64 เลขทะเบียน 12-6935 กรุงเทพมหานคร ของบริษัทสุพรรณยานยนต์จำกัด วิ่งระหว่างท่าน้ำนนทบุรี-สนามหลวง ชนรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงิน ทะเบียน ปขต 439 กรุงเทพมหานคร

พลิกคว่ำอยู่กลางถนน คนเจ็บถูกนำส่ง รพ.หัวเฉียว ทราบชื่อว่า น.ส.จุรีพร แลวะฤทธิ์ อายุ 21 ปี เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ได้รับ บาดเจ็บ ข้อเท้าซ้ายหัก ศีรษะแตก อาการสาหัส ต้องรักษา ตัวในห้องไอซียู จากการสอบสวนนายศักดิ์สิทธิ์ เทนคำเนาว์ อายุ 43 ปี แฟนหนุ่มคนเจ็บ ให้การว่า กำลังขี่รถ จักรยานยนต์ไปส่งแฟนสาวที่มหาวิทยาลัย ถูกรถเมล์คันดังกล่าวเลี้ยวตัดหน้าจนเฉี่ยวล้มลงพื้น ทำให้ล้อหน้าด้านซ้ายของรถเมล์ทับ ส่วนนายทรงชัย คงเป็นสุข อายุ 49 ปี คนขับรถประจำทาง ให้การอ้างว่า กำลังขับรถเลี้ยวไปท่าพระจันทร์ เห็นรถจักรยานยนต์วิ่งตัดหน้า จึงต้องเบรก กะทันหัน แต่ไม่ทันล้อรถด้านหน้าซ้ายทับขาของ น.ส.จุรีพรได้รับบาดเจ็บ ตำรวจแจ้งข้อหาคนขับรถประจำทางว่า ขับรถโดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส

"เดินหน้าเร่งควบคุม ขสมก.ให้บำรุงดูแลรถเมล์มากขึ้น"


อีกด้านหนึ่ง นายศรีสุวรรณ จรรยา รองเลขาธิการมูลนิธิป้องกันควันพิษและพิทักษ์สิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ปลายปี 48 มูลนิธิฯร่วมกับประชาชนยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง ร้ององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เป็นจำเลยที่ 1 และกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นจำเลยที่ 2 ฐานทั้ง 2 หน่วยงานมีหน้าที่ดูแล ควบคุมมลพิษจากยานพาหนะให้ปราศจากมลพิษ แต่ปรากฏว่า ที่ผ่านมา กลับปล่อยให้รถเมล์ ขสมก. และบริษัทรถร่วมบริการที่ เสื่อมคุณภาพ ออกมาวิ่งและปล่อยมลพิษเต็มท้องถนน ทำให้ประชาชนเจ็บป่วย สูญเสียเวลา และเงินทอง เพื่อรักษาพยาบาล ล่าสุดศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาแล้วว่า ขสมก.มีความผิดจริง ส่วน คพ.ศาลยกฟ้อง

ส่วน ดร.สุพัฒน์ หวังวงศ์วัฒนา รองอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กล่าวว่า ศาลปกครองกลางมีคำวินิจฉัยแล้วว่า ขสมก.มีความผิด และมีคำสั่งให้ ขสมก. ดำเนินการตรวจสอบมลพิษจากรถยนต์ทั้งของ ขสมก.และรถร่วมบริการ โดยต้องส่งผลการตรวจสอบให้ศาลทุก 3 เดือน ส่วน คพ.ศาลมีคำสั่งยกคำฟ้องว่าไม่ได้ละเว้นการปฏิบัติ ทั้งนี้ คพ.จะเดินหน้าเพื่อควบคุมให้ ขสมก.บำรุงดูแลรักษารถยนต์มากขึ้น แต่ยอมรับว่าบางเรื่อง คพ.ก็ไม่มีอำนาจเด็ดขาด อย่างไรก็ตาม ถือเป็นกรณีแรกที่ศาลปกครองมีคำวินิจฉัยเรื่องเกี่ยวกับปัญหาการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์