จับผู้ต้องหาฆ่าชิงรถบรรทุกหัวลาก

ตำรวจภาค 2 โชว์จับผู้ต้องหาฆ่าชิงรถบรรทุกหัวลาก ย่านเมืองชลฯ  
        
วันนี้ 9 (ต.ค.) พล.ต.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.ธเนตร์ พิณเมืองงาม ผบก.ภ.ชลบุรี,พล.ต.ต.กิตติพงษ์ เงามุก ผบก.ศสส.ภ.2 แถลงข่าวพร้อมทำแผนประกอบคำรับสารภาพผู้ต้องหาคดีฆ่าชิงรถบรรทุกหัวลาก บ.สีมาทรานสเฟอร์ ซึ่งผู้ต้องหาก่อคดีในลักษณะเดียวกันมาแล้วอย่างโชกโชน
 
สืบเนืองจากเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา มีผู้พบศพผู้ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเสียชีวิตที่บริเวณริมถนนทางลงมอเตอร์เวย์ เรียบทางหลวงสาย 7 ตอน 2 ปากทางเข้าวัดวังตะดก หมู่ 7 ต.หนองข้างคอก อ.เมือง จ.ชลบุรี ซึ่งจากการสิบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผุ้ตายคิดนายอนันต์ เกิดสุวรรฅณ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 139/201 ม.3 ต.ตะเคียนเตี้ย อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ประกอบอาชีพรับจ้างขับรถยนต์บรรทุกหัวลาก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด 9 มม.ที่บริเวณต้นคอด้านหลังข้างขวา 1 นัด บริเวณแผ่นหลังด้านขวา 1 นัด และที่แขนขวา 1 นัด ทราบว่านายอนันต์ ผู้ตาย ก่อนตายได้ขับรถบรรทุกพ่วงของบริษัท สีมาทรานสเฟอร์ จำกัด บรรทุกบันไดเลื่อน จากท่าเรือแหลมฉบังไปส่งที่บริษัทมิตซูบิชิ เอเวอร์เรเตอร์เอเชีย อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร หลังพบศพทราบว่า รถยนต์หัวลากรถยนต์บรรทุกยี่ห้อ MITSUBISHI รุ่น (ฟูโซ่) เบอร์ 48 หมายเลขทะเบียน 71-1473 ชลบุรี คันที่นายอนันต์ ผู้ตายได้ขับขี่ได้หายไป จากการสืบสวนเชื่อว่านายอนันต์ ถูกปล้นฆ่าเพื่อชิงเอาหัวรถลาก ซึ่งคนร้านเคยก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ สภ.คลองกิ่ว 2 คดี ในพื้นที่ สภ.ศรีราชา 1 ดคี และพื้นที่ สภ.มาบตาพุด 1 คดี โดยจะใช้อาวุธปืนยิงผู้ขับขี่รถเสียชีวิต 3 ราย และใช้มีดแทงได้รับบาทเจ็บสาหัส 1 ราย ซึ่งการก่อเหตุของกลุ่มคนร้ายมีพฤติกรรมเหี้ยมโหด
 
พล.ต.ไถง ปราศจากศัตรู ผบช.ภ.2 ได้สั่งการให้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนฯ เร่งรักสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุเพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  ต่อมาในวันที่ 8 ตุลาคม 53 เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนภาค 2 ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสิบสวน ภ.จบ.ชลบุรี และ สภ.เมืองชลุบรี ได้ร่วมกันทำการจับกุมตัว นายวิวรรธน์ หรือไก่ สะสมทรัพย์ อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/1 ม.3 ต.แหลมบัว อ.นครศรี จ.นครปฐม,นางสุพรรษา สิงห์ทอง อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 43/3 ม.9 ต.สระกะเที่ยม อ.เมือง จ.นครปฐม,นายพงษ์ศักดิ์ หรือกี้ แซวจันทึก อายุ 31 ปี อยู่บ้านเลขที่ 5 ม.2 ต.มิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา,นายชินวัชร หรือพีท มุกดาหาญ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39 ม.8 ต.บ้านจันทร์ อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พร้อมด้วยของกลางประกอบด้วย รถยนต์บรรทุกหัวลาก ยี่ห้อ MITSUBISHI รุ่น (ฟูโซ่) จำนวน 1 คัน,อาวุธปืนพกสั้นออโตเมติก ขนาด 9 มม. ไม่มีเลขทะเบียน จำนวน 1กระบอก (พร้อมกระสุน 4 นัด),สำเนาทะเบียนรถบรรทุกหมายเลขทะเบียน 71-1473 ชลบุรี,ป้ายเสียภาษีรถบรรทุก หมายเลขทะเบียน 71-1473 ชลบุรี และ อื่นๆ รวม 17 รายการ
          
ตำรวจจึงตั้งข้อหาทั้งหมดในคดี ปล้นทรัพย์ เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต,พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตและไม่มีเหตุจำเป็นเร่งด่วนตามสมควรแก่พฤติการณ์
 
หลังจากเกิดเหตุคนร้ายปล้นรถบรรทุกหัวลาก และใช้อาวุธปืนยิงนายอนันต์ เกิดสุวรรณ ถึงแก่ความตายเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ภ.2 ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสิบสวน ภ.จว.ชลบุรี และ สภ.เมืองชลบุรี ได้ทำการสืบสวน จนสามารถจับกุมตัวนายดอกฟ้า อรภักดี หนึ่งในคนร้ายที่เคยร่วมก่อเหตุในเขตพื้นที่ สภ.คลองกิ่ว ซึ่งได้มีการออกหมายจับไว้ จากการสอบสวนขยายผลทราบว่าเป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดียวกันที่ก่อเหตุปล้นฆ่าชิงเอารถยนต์บรรทุกหัวลากซึ่งก่อเหตุในคดีนี้และในหลายท้องที่ ซึ่งทราบแน่ชัด คือ จว.ชลบุรี(สภ.คลองกิ่ว 2 คดี,สภ.ศรีราชา 1 คดี)จว.ระยอง(สภ.มาบตาพุด 1 คดี),จว.ราชบุรี(สภ.โพธิ์หัก 1 คดี) จึงได้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายทั้ง 4 คนได้พร้อมของกลาง เป็นรถยนต์บรรทุกหัวลากคันที่ถูกปล้นไป,อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุฆ่าผู้อื่นซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า นายวิวรรธน์ กับ นางสุพรรษา จะเป็นผู้สั่งให้ นายพงษ์ศักดิ์ ออกตระเวนหารถยนต์บรรทุกหัวลาก ตามใบสั่ง โดยจะนำไปแปลงสภาพและแยกชิ้นส่วนขายในพื้นที่ จว.นครปฐม และใกล้เคียงซึ่ง

ในคดีนี้นายพงษ์ศักดิ์ กับ นายชินวัชร ได้ขึ้นรถยนต์ไปกับนายอนันต์ ผู้ตาย เมื่อถึงที่เกิดเหตุได้บังคับให้จอดรถและได้ร่วมกันทำร้ายนายอนันต์ ผู้ตายโดย นายชินวัชร ได้ชกต่อยและ นายพงษ์ศักดิ์ ได้ใช้อาวุธปืนยิงนายอนันต์ ถึงแก่ความตาย หลังจากนั้นได้พากันนำรถยนต์บรรทุกหัวลากขับตาม นายวิวรระน์ กับ นางสุพรรษา มุ้งหน้า จว.นครปฐมซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนได้ติดตามไปตรวจยึดรถได้ที่อู่ซ่อมรถยนต์ของญาติ นายวิวรรธน์จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีตามกฎหมาย



เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์