ทหารเรือเมากราดยิงบีอาร์ทีนศ.วิศวะจุฬาฯเจ็บ

"พ.จ.อ." เมา ชักปืนยิงใสรถเมล์บีอาร์ที ย่านพระราม 3 กระสุนโดน นศ.วิศวะจุฬาฯ เจ็บ เจ้าตัวอ้างกลับจากเลี้ยงส่งเจ้านาย รถยางแตกเลยชักปืนยิงส่งสัญญาณให้เพื่อนช่วย ตรวจแอลกอฮอล์พบสูงถึง 189 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ คนในรถพบปืน-กระสุนอื้อ

เมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 1 ตุลาคม พ.ต.ท.ฉลาด ศรศิริ พนักงานสอบสวน (สบ 3) สน.บางโพงพาง รับแจ้งว่า มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บริเวณหน้าวัดด่าน ถนนพระราม 3 แขวงช่องนนทรี เขตยานนาวา กทม. จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ต.ดุสิต วารีประโคน สว.สส.สน.บางโพงพาง และตำรวจสายตรวจจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุก่อนถึงหน้าวัดด่าน พบรถโดยสารบีอาร์ที สีเขียวเหลือง เลขข้างรถ 10 ทะเบียน 14-9752 กรุงเทพมหานคร มีรอยกระสุนเจาะเข้าที่ประตูทางลง 1 นัด ใกล้กันพบรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ทะเบียน 8ฉ 4027 กรุงเทพมหานคร จอดอยู่ริมถนน สภาพยางหน้าขวาแตก โดยมี พ.จ.อ.ชุมพล เชียงเถียร อายุ 54 ปี สังกัดกรมการขนส่งทหารเรือ เป็นเจ้าของรถ ยืนอยู่ในที่เกิดเหตุในสภาพคล้ายคนเมาสุรา และยังพบปลอกกระสุนขนาด 9 มม. 9 ปลอก ตกเกลื่อนถนน

นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บ 1 คน ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ ทราบชื่อคือ นายเพิ่มสกุล เรืองรักษลิขิต อายุ 18 ปี นักศึกษาคณะวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 1 จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับบาดเจ็บถูกกระสุนเฉี่ยวที่บริเวณหัวไหล่ และเศษกระจกบาดที่หน้าอกด้านขวา

สอบสวน พ.จ.อ.ชุมพล ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุไปกินเลี้ยงในโอกาสเลี้ยงส่งเจ้านาย หลังงานเลิกก็ขับรถออกมากับเพื่อนเพื่อกลับบ้าน เมื่อถึงจุดเกิดเหตุยางหน้าขวาของรถเกิดระเบิด ส่วนเพื่อนก็ขับรถเลยไป จึงรีบคว้าปืนในรถออกมายิงลงพื้น 9 นัด เพื่อส่งสัญญาณบอกเพื่อน ส่วนสาเหตุที่ไม่หยิบโทรศัพท์ เพราะมีฝนตกและไม่ทันตั้งตัว ไม่รู้ว่ากระสุนไปเฉี่ยวใครได้รับบาดเจ็บ

พ.ต.ท.ฉลาด กล่าวว่า จากการสอบปากคำ พ.จ.อ.ชุมพล เบื้องต้นยังให้การวกไปวนมา พูดจาไม่รู้เรื่อง เนื่องจากมีอาการเมาสุราอย่างหนัก

โดยขณะนำตัวมาเป่าวัดปริมาณแอลกอฮอล์พบว่าสูงถึง 189 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคาดว่าน่าจะเมาสุราและกราดยิงโดยไม่มีสติ หลังเกิดเหตุได้ตรวจสอบภายในรถผู้ก่อเหตุ พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. พร้อมด้วยแม็กซีนปืน 2 แม็ก และกระสุนปืนขนาด 9 มม. 9 นัด ซุกซ่อนอยู่ใต้เบาะรถ ทั้งยังพบหัวกระสุนตกอยู่ในรถอีก 1 หัว จึงนำตัวไปตรวจหาเขม่าดินปืน เบื้องต้นได้แจ้งข้อหาพกพาอาวุธปืนและยิงปืนในที่สาธารณะเป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ ก่อนประสานงานไปที่ต้นสังกัดให้นายทหารพระธรรมนูญมารับตัวต่อไป