โจรป่วนใต้-จ่อยิง เชือดคอโหด เหยื่อชราดับสยอง

"ถูกยิง 3 นัด เชือดหลอดลมขาด"


เมื่อเวลา 06.30 น. วันที่ 19 พ.ย. ร.ต.ต.สมศักดิ์ ฤทธิศักดิ์ ร้อยเวร สภ.อ.เมืองยะลา พ.ต.อ.นราศักดิ์ เชียงสุข รอง ผบก.ภ.จ.ยะลา พ.ต.อ.ภูมิเพ็ชร พิพัฒน์เพ็ชรภูมิ ผกก. พ.ต.ท.สักรินทร์ บำเพ็ญสมัย รอง ผกก. (ป.) พ.ต.ท.จิรสิทธิ์ ลอแม รอง ผกก. (สส.) พร้อมกำลังตำรวจ ทหาร ไปตรวจสอบเหตุฆ่ากันตายบนถนน หน้าตลาดสามแยกบ้านเนียง หมู่ 4 ต.เปาะเส้ง พบศพนายประเสริฐ เรียบเจริญ อายุ 68 ปี อยู่หมู่ ดังกล่าว นอนตายเลือดนองอยู่บนถนนสายบ้านเนียง-ยะหา สภาพศพถูกยิงที่ราวนมซ้าย และสีข้างขวา รวม 3 นัด ใบหน้ามีบาดแผลจากของมีคม และลำคอถูกเชือดจนหลอดลมขาด ในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืน 11 มม. ตกอยู่ 6 ปลอก

สอบปากคำนายจิระศักดิ์ เรียบเจริญ อายุ 38 ปี ลูกชายนายประเสริฐ ทราบว่า ขณะนายประเสริฐเดินออกกำลังกายบนถนนหน้าบ้าน ได้ยินเสียงปืนดังติดต่อกัน 3 นัด จึงวิ่งออกมาดู พบนายประเสริฐล้มลงจมกองเลือด ส่วนคนร้ายมี 2 คน ซ้อน จยย.ฮอนด้า หลังลงมือยิงแล้ว คนร้ายยังใช้มีดสปาร์ตาฟันใบหน้าและเชือดคอผู้ตายซ้ำอย่างทารุณ ตนจึงวิ่งไปคว้าปืน 11 มม. ออกมายิงไล่หลังคนร้าย แต่ไม่โดน เชื่อว่าเป็นฝีมือพวกโจรที่จ้องเล่นงานชาวไทยพุทธที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ เพื่อกดดันให้เกิดความกลัวจะได้อพยพหนีไป

"คนร้ายขี่ จยย.ไล่ยิง"


ส่วน จ.ปัตตานี เวลา 01.00 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ. ถวัลย์ นคทราวงศ์ ผกก.สภ.อ.หนองจิก จ.ปัตตานี นำกำลังไปตรวจสอบเหตุยิงถล่มบ้านเลขที่ 11 หมู่ 5 บ้านทุ่งโพธิ์ ต.ลิปะสะโง ของนายเจ๊ะสนิ เจ๊ะเฮง อายุ 59 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ดังกล่าว พบบริเวณตัวบ้านมีรอยกระสุนพรุนหลายแห่ง และพบปลอกกระสุนปืนอาก้า 15 ปลอก สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายเจ๊ะสนิ และสมาชิกในครอบครัวนอนอยู่ในบ้าน ถูกคนร้ายกราดปืนยิงถล่มบ้าน และโชคดีที่ไม่มีใครได้รับอันตราย

อีกรายเวลา 02.30 น. พ.ต.อ.เดโช จุลแก้ว ผกก. สภ.อ.ไม้แก่น จ.ปัตตานี นำกำลังไปตรวจสอบเหตุยิงกันบนถนนสายโคกนิงบง-บ้านกูวิง หมู่ 3 ต.ไทรทอง พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าล้มอยู่ข้างทางกับรอยคราบเลือด ทราบมีคนถูกยิงบาดเจ็บ 1 คน นำส่ง รพ.ไม้แก่น แล้วทราบชื่อนายมะตอเฮ มามุ ชาว อ.ไม้แก่น ถูกยิงที่ขาซ้าย 1 นัด สอบสวนทราบว่า ขณะที่นายมะตอเฮ ขี่ จยย. จะกลับบ้าน หลังกินน้ำชาในหมู่บ้าน โดยมีนายซุกรีเจ๊ะ อาแซ เพื่อนนั่งซ้อนท้ายมาด้วย ถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้าย 2 คน ซ้อน จยย.ไล่ยิง รายต่อมาเวลา 05.30 น. พ.ต.ต.อนุสรณ์ จันทร์กลับ สารวัตรเวร สภ.อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พร้อมกำลัง ไปสอบสวนเหตุยิงกันบนถนนในหมู่ 1 ต.คลองใหม่ พบรถกระบะนิสสัน สีดำ ทะเบียน น-7649 ยะลา เสียหลักตกข้างทาง ที่กระจกและประตูด้านคนขับถูกยิงด้วยปืนลูกซองเป็นรูหลายแห่ง ภายในเบาะคนขับพบศพนายสุนทร สดใส อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 69/1 หมู่ 6 ต.คลองใหม่ ถูกยิงที่ศีรษะและลำตัว สอบสวนทราบว่า ผู้ตายมีอาชีพรับส่งแม่ค้าตามตลาด ขณะขับรถจะไปส่งแม่ค้าที่นั่งกระบะท้ายหลายคนไปตลาดในตัวเมืองยะลา ถึงที่เกิดเหตุถูกคนร้ายซุ่มยิง ส่วนแม่ค้าปลอดภัย

"ขี่ จยย. 9 มม.ไล่ยิง"


ต่อมาเวลา 15.20 น. ขณะที่นายสว่าง หมื่นโกตะ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 24/4 หมู่ 4 ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี กับนางพิสมัย ราโสภา อายุ 36 ปี ภรรยาซ้อน จยย.ผ่านถนนสายปัตตานี-หาดใหญ่ หมู่ 4 ต.บ่อทอง ถูกคนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ประกบยิงบาดเจ็บทั้งคู่ หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ.ถวัลย์ นคทราวงศ์ ผกก.สภ.อ. หนองจิก นำกำลังไปตรวจสอบ คาดฝีมือโจร อีกรายเวลา 15.30 น. คนร้าย 2 คนซ้อน จยย.ใช้ปืน 9 มม. ไล่ยิงนายขรรค์ชัย ทรัพธารัตน์ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 10/3 ม.4 ต.ควนโนรี อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี บาดเจ็บสาหัส ขณะขี่ จยย.ผ่านถนนชลประทาน หมู่ 7 ต.นาเกตุ อ.โคกโพธิ์ หลังเกิดเหตุ พ.ต.ท.นฤชา สุวรรณลาภา รอง ผกก. (ป.) สภ.อ.โคกโพธิ์ นำกำลังไปตรวจสอบ สันนิษฐานเป็นฝีมือโจร

ที่วัดนิโรธสังฆาราม อ.เมืองยะลา นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปเยี่ยมชาวไทยพุทธที่อพยพหนีภัยโจรใต้ สอบถามถึงความเดือดร้อน เพื่อนำความเดือดร้อนของประชาชน เข้าหารือที่ประชุม ครม. โดยนายธีรภัทร์กล่าวว่า พล.อ. สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้เป็นตัวแทนในงานสวดศพว่าที่ ร.ต.(หญิง) กุลลธิดา อินจำปา รอง ผอ.โรงเรียนบ้านลาเมาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ที่ถูกโจรใต้ยิงเสียชีวิต และมาพบปะชาวไทยพุทธที่อพยพมาที่วัดนิโรธสังฆาราม ส่วนใหญ่มีท่าทีอยากจะกลับภูมิลำเนาเดิม แต่ขอให้เจ้าหน้าที่ดูแลเรื่องความปลอดภัยให้ชัดเจนเท่านั้น

"ส่งเยาวชนโครงการ "สานใจไทย สู่ใจใต้"เดินทางกลับ"


ขณะที่นายณฐพลฒ์ วิเชียรเพริศ รอง ผวจ.ยะลา เปิดเผยว่า หากชาวบ้านต้องการกลับถิ่นเดิม ต้องจัดให้ชาวบ้านอยู่รวมกัน เพราะจะได้ช่วยเหลือกันได้ ส่วนเจ้าหน้าที่ ก็จัดกำลังทหาร ตำรวจ เข้าไปอยู่และดูแลอย่างถาวร โดยเฉพาะ ทหารพราน สำหรับในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ เจ้าหน้าที่ รัฐทุกภาคส่วนที่มาแก้ไขปัญหาจะต้องพูดแต่ความจริง และให้ประชาชนเชื่อมั่นได้ถึงจะแก้ไขปัญหาได้

ที่ท่าอากาศยานทหาร นายอารีย์ วงศ์อารยะ รมว. มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังทำพิธีส่งเยาวชนในโครงการ สานใจไทย สู่ใจใต้ เดินทางกลับภูมิลำเนาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถึงกรณีที่กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบขู่จะวางระเบิดโชว์รูมรถยนต์และจะทำร้ายประชาชนอย่างต่อเนื่องว่า เป็นวิธีการที่ทำได้เพียงชั่วคราวเท่านั้น เพราะเมื่อถึงระยะหนึ่งชาวบ้านจะลุกออกมาสู้ ไม่ยอมให้มีการข่มขู่อีก ประกอบกับภาครัฐได้เตรียมมาตรการอย่างเด็ดขาดแล้ว

"เชื่อคนมุสลิมเคร่งศาสนารู้อะไรควรทำ ไม่ควรทำ"


ด้าน พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน ผบ.ทบ. และประธาน คมช. กล่าวกับประชาชนหลังมอบถุงยังชีพให้ผู้ประสบภัยน้ำท่วมทั้งชาวมุสลิมและไทยพุทธที่ จ.นนทบุรี ว่า รู้สึกเป็นห่วงและสงสารประชาชนภาคใต้ที่สูญเสียชีวิตเพราะความรักความสามัคคีในภาคใต้มีปัญหา ตนมาวันนี้ได้เห็นความกลมกลืนกันของทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิมถือเป็นความสุขที่เห็นภาพนี้ ความหลากหลายด้านประเพณีวัฒนธรรมในศาสนา เป็นส่วนประกอบทำให้ เกิดความสวยงาม เหมือนกับไม้หลากสี ผมเชื่อมั่นว่าคนที่เป็นมุสลิมทุกคนเคร่งศาสนา อะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ โดยเฉพาะสิ่งที่ไม่ถูกต้องส่วนใหญ่จะไม่กล้าทำ เพราะบทบัญญัติในหลักศาสนากำหนดไว้ชัดเจน ดังนั้น ความเป็นมุสลิมทำให้การอยู่ในสังคมไม่ว่าที่ใดก็สามารถอยู่ได้ พล.อ.สนธิกล่าว

พล.อ.สนธิกล่าวอีกว่า การเปลี่ยนแปลงของสังคม การเจริญของโลกเป็นส่วนประกอบที่ทำให้ต้องพัฒนาตัวเราเองให้มีความทันสมัย ตนได้ไปมาเลเซียเห็นเขามีความเจริญรุ่งเรือง เป็นประเทศมุสลิมที่มีความเจริญมากที่สุดในโลก ทันสมัยกว่าประเทศในตะวันออกกลาง อยากเห็นชาวมุสลิมในประเทศไทยพัฒนาตนเองให้มีความทันสมัย คล้ายกับมาเลเซียคือ ทุกคนมีความศรัทธาในศาสนา แล้วยังมีความเจริญในด้านการเปลี่ยนแปลงของโลก ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นบทเรียนหนึ่ง ทำให้เห็นว่ามีคนเรียนหนังสือน้อย ดังนั้น อยากฝากว่าการเรียนหนังสือเป็นสิ่งสำคัญ ในคัมภีร์อัลกุรอานเขียนชัดเจนว่าเราต้องเตรียมตัวทั้งในโลกหน้าและโลกนี้ ไม่ใช่มุ่งแต่โลกหน้าอย่างเดียวแล้วโลกนี้ลำบาก

"การปรับปรุงโครงสร้างยังไม่ชัดเจน"


ผบ.ทบ.กล่าวอีกว่า มีโอกาสเข้าเฝ้าฯพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระองค์ท่านทรงมีความห่วงใยประชาชนที่มีความเดือดร้อน ไม่ว่าจะภัยจากภาคใต้ ภัยจากน้ำท่วม พระองค์ท่านทรงห่วงใย จึงให้แม่ทัพภาคที่ 1 เข้ามาดูแลเรื่องนี้ ที่พูดเช่นนี้เพราะตรงกับประเด็นสำคัญ คือ เรื่องความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ขอเรียนกับประชาชนว่าทั้ง 2 พระองค์มีความห่วงใยเอื้ออาทรต่อทุกคน ซึ่งนอกจากสถาบันชาติ สถาบันศาสนาแล้ว เรายังมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประกอบของประเทศไทย

ขณะนี้ทางกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) อยู่ระหว่างปรับปรุงโครงสร้างแต่ยังไม่ชัดเจน หากโครงสร้างชัดเจนการบริหารจัดการทั้งพลเรือน ตำรวจ ทหารที่ต้องเข้าไปบูรณาการ การทำงานทั้งประเทศพร้อมได้ปรับ ศอ.บต.แล้ว แต่อยู่ในระหว่างการจัดโครงสร้างให้สมบูรณ์ ในส่วนของกอง พตท.43 ไม่ต้องเปลี่ยนอะไรมาก ซึ่งการทำงานขณะนี้จะต้องสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้ประกาศไม่ฟ้องและให้อภัยกับผู้ต้องหาคดีตากใบ ทำให้ประเทศที่เป็นมุสลิมในตะวันออกกลางต่างชื่นชม ส่งผลให้องค์กรการประชุมอิสลามโลก (โอไอซี) มองประเทศไทยดีขึ้นมาก ผบ.ทบ.กล่าว

"หนุนตั้งกองร้อยทหารพราน 30 กองร้อย"


พล.อ.สนธิกล่าวด้วยว่า ต่อไปนี้ทหารต้องเข้าใกล้ ประชาชนเป็นที่พึ่งของประชาชน แต่ที่ผ่านมางานมาก มีภาระมาก ทำให้ทหารไม่สามารถเข้าไปช่วยประชาชนอย่างทั่วถึงจนเกิดช่องว่าง ดังนั้น หากมีการตั้งกองร้อยทหารพราน 30 กองร้อยจะช่วยได้มาก จึงอยากฝากไปถึงพี่น้องประชาชนใน 3 จังหวัดภาคใต้ว่า การก่อความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ ทุกคนทุกภาคส่วนต้องมีส่วนในการรับผิดชอบ ต้องมาช่วยกันแจ้งเบาะแส ตาต้องเหมือนสับปะรด ทุกที่ต้องมีการเฝ้าระวัง

เมื่อถามว่า นโยบายแยกปลาออกจากน้ำของท่านจะประสบความสำเร็จหรือไม่ พล.อ.สนธิตอบว่า จริงๆแล้วเรารู้แล้วว่าปลาคืออะไร ปลาตัวไหน เรารู้อยู่แล้ว แต่ก็อย่างที่บอกรู้แล้วทำอะไรไม่ได้ เพราะไปควบคุมตัวมาเดี๋ยวก็ต้องปล่อย เมื่อปล่อยมาเขาก็โกรธแค้นทำให้เขาเสียสิทธิเสรีภาพ ก็จะไปยุอะไรต่างๆ ทำให้เราเกิดปัญหาทางการเมืองมากขึ้น ในอนาคตหลังจากตั้งกองร้อยทหารพราน คิดว่าจะดีขึ้น คิดว่าปลา 2 ฝูงปลา 2 ประเภทจะไปดูแลกันเอง หมายถึงประชาชนกับประชาชนจะไปดูแลกันเอง

"ให้ทุกฝ่ายอย่าทำการใดให้เข้าสู่กับดักความแตกแยกรุนแรง"


เมื่อถามว่า แนวทางการพูดคุยกับแกนนำผู้ก่อความไม่สงบคืบหน้าถึงไหน พล.อ.สนธิกล่าวว่า มีหลายวิธี เพราะมีหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มพูโล จีเอ็มไอพี บีอาร์เอ็น ขณะนี้กำลังแยกกันทำ ส่วนความคืบหน้า เมื่อเห็นผลแล้วจะแจ้งให้ทราบ เมื่อถามว่า ได้พูดคุยกับทางรัฐบาลมาเลเซียหรือไม่ พล.อ.สนธิกล่าวว่า ก็อยากจะไปพูดคุยแต่ขณะนี้ยังไม่ได้เดินทางไป เมื่อถามว่า เหตุการณ์วางระเบิดรายวันที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง จะแก้ไขอย่างไร พล.อ.สนธิ กล่าวว่า มีอยู่กลุ่มเดียวที่ทำเพื่อพยายามสร้างอำนาจต่อรองให้กับตัวเอง ได้บอกกับแม่ทัพภาคที่ 4 ขอให้ ประชาชนช่วยกันนำเอากล้องวงจรปิดมาเฝ้าดูคนร้ายจนสามารถจับได้

ส่วนนายเจ๊ะอามิง โตะตาหยง อดีต ส.ส.นราธิวาส รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงแนวทางแก้ไขปัญหาความไม่สงบในภาคใต้ว่า ขอเรียกร้องทุกฝ่ายอย่าทำการใดให้เข้าสู่กับดักแห่งความแตกแยกและความรุนแรง รวมทั้งขอให้ทุกฝ่ายมีความหนักแน่นและมีขันติธรรม ไม่ติดกับดักแห่งการยั่วยุความรุนแรงที่เกิดขึ้น และขณะนี้อดีต ส.ส.ภาคใต้ของพรรค จะทำโครงสร้างของสภาชุมชนเสนอรัฐบาล สภาชุมชนหมายถึงว่า ในชุมชนต้องมีผู้นำ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำองค์กรศาสนา มาทำหน้าที่เป็นสภา และจะตรวจสอบว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่ละพื้นที่แต่ละครั้งว่าเกิดจากอะไร โดยประชาชนต้องเข้าไปนั่งถกปัญหากันเอง ไม่เกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ แต่สภาชุมชนจะเสนอแนวทางให้หน่วยงานของรัฐอีกครั้ง

ที่สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ของไทย ต่อที่ประชุมสุดยอดผู้นำเอเชีย-แปซิฟิก (เอเปค) ว่า รัฐบาลจะพยายามเร่งแก้ไขปัญหาความรุนแรงในพื้นที่โดยเร็ว พร้อมนำความปรองดองและสันติสุขกลับสู่ประชาชนอีกครั้ง


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์