เณรอำมหิต! ฆ่าสมภาร ลากศพเผาสยอง

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 19 พ.ย.


ร.ต.ท.ยุทธนา สร้อยระย้า ร้อยเวร สภ.ต. ลาดหญ้า อ.เมืองกาญจนบุรี รับแจ้งมีเหตุพระสงฆ์ถูกฆ่าเผานั่งยางภายในวัดพุทธกาญจนาราม (วัดถ้ำเทวฤทธิ์) หมู่ 4 ต.ลาดหญ้า จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.อนุพันธ์ จันทร์พฤกษ์ รอง ผกก.หน.สภ.ต.ลาดหญ้า ร.ต.อ.บุญส่ง วิพัฒน์ทวีกุล รอง สว.สส. แพทย์เวร รพ.ค่ายสุรสีห์ และกำลังตำรวจจำนวนหนึ่ง

ที่เกิดเหตุติดกับถนนลูกรัง


แยกจากถนนสายกาญจนบุรี-ไทรโยค ลึกเข้าไปประมาณ 2 กม. พบศาลาการเปรียญที่ปลูกอยู่กลางวัดถูกไฟไหม้วอดเป็นเถ้าถ่าน ใกล้กันพบศพสามเณรสุรชัย อายุ 18 ปี เป็นชาวกะเหรี่ยง นอนคว่ำหน้ามรณภาพอยู่บนซากรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง

สภาพศพถูกไฟเผาไหม้เกรียม


นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจยังพบหยดเลือดเป็นทางยาวไปทางด้านหลังของศาลาการ เปรียญประมาณ 40 เมตร คล้ายร่องรอยการลากศพ

เมื่อตามไปตรวจสอบพบภาพอนาถใจเป็นศพของพระอธิการอธิวัฒน์ แซ่ลิ้ม อายุ 65 ปี เจ้าอาวาสวัด ถูกฆ่าเผานั่งยางสภาพศพไหม้เกรียมดำเป็นตอตะโก ใกล้กันพบท่อนเหล็กและท่อนไม้เปื้อนเลือดคาดว่าเป็นอาวุธที่ใช้สังหารเจ้าอาวาสกับสามเณรจึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน

ต่อมาตำรวจนำตัวสามเณรชาวกะเหรี่ยงที่มาบวชอยู่ในวัด 3 รูป


ไปสอบปากคำ ปรากฏว่า 1 ใน 3 ทราบต่อมาชื่อสามเณรตะกิโล อายุ 20 ปี ให้การมีพิรุธ ตรวจสอบตามร่างกายและซอกเล็บมือมีคราบเลือดติดอยู่ เชื่อว่าน่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดี จึงนำตัวไปสอบปากคำ

ตอนแรกสามเณรตะกิโลให้การปฏิเสธ

แต่เมื่อถูกตำรวจเค้นสอบหนักเข้าในที่สุดสามเณรตะกิโลสารภาพว่าเป็นคนร้ายที่ลงมือสังหาร พระอธิการอธิวัฒน์กับสามเณรสุรชัยมรณภาพ

โดยให้การว่า


ก่อนเกิดเหตุไปหาสามเณรสุรชัยที่กุฏิห่างจากศาลาการเปรียญราว 100 เมตร เพื่อสอบถามเรื่องที่สามเณรสุรชัยชอบนำเรื่องไปฟ้องพระอธิการอธิวัฒน์กล่าวหาว่าตนขี้เกียจไม่ยอมช่วยงานวัดทำให้ถูกเจ้าอาวาสดุด่าเป็นประจำ

แต่ไม่สามารถตกลงกันได้ ด้วยความโมโหคว้าท่อนเหล็กกระหน่ำตีสามเณรสุรชัย ผู้ตาย พยายามวิ่งหนีตายไปชนรถจักรยานยนต์พ่วงข้างล้มลง จึงตามตีซ้ำอีกหลายครั้งจนมรณภาพ

จากนั้นอุ้มศพสามเณรสุรชัยใส่รถจักรยานยนต์


พ่วงข้างขี่ไปจอดด้านข้างศาลาการเปรียญ ทำทีเข้าไปเรียกพระอธิการอธิวัฒน์ซึ่งจำวัดอยู่ในศาลาการเปรียญให้ออกมาพบบอกว่ามีเรื่องจะพูดคุยด้วย แล้วฉวยโอกาสพระอธิการอธิวัฒน์ไม่ทันระวังตัวใช้ท่อนไม้กระหน่ำตีศีรษะและลำตัวมรณภาพอีกรูป พร้อมกับลากศพพระอธิการอธิวัฒน์ไปด้านหลังศาลาการเปรียญ

เผาด้วยยางรถยนต์และรถจักรยานยนต์รวม 5 เส้น


เพื่อทำลายศพ ก่อนจะย้อนกลับไปที่ศาลาการเปรียญอีกครั้ง นำกระสอบป่านภายในมีขวดพลาสติกนับร้อยใบวางทับศพสามเณรสุรชัยแล้วจุดไฟเผา ระหว่างนั้นเปลวเพลิงลุกลามไปติดศาลาการเปรียญวอดเป็นจุณ หลังก่อเหตุนั่งดูผลงานอยู่พักใหญ่

กระทั่งแน่ใจว่าศพทั้งสองถูกเผาทำลาย จึงทำทีไปบอกชาวบ้านละแวกใกล้เคียงให้ช่วยแจ้งตำรวจ ก่อนจะกลับเข้ากุฏิทำทีเป็นไม่รู้เรื่อง และถูกตำรวจจับกุม


สำหรับพระอธิการอธิวัฒน์ทราบว่า


เป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติเด่น เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของชาวบ้าน โดยเฉพาะญาติโยมที่อยู่ใน กทม.มักจะเดินทางไปหาไม่ขาดสาย ล่าสุดพระอธิการอธิวัฒน์มีแผนจะพัฒนาวัด

โดยว่าจ้างผู้รับเหมาเข้าไปก่อสร้างพระอุโบสถและกุฏิหลายหลัง


เพื่อให้สามเณรชาวกะเหรี่ยงที่มาบวชได้ใช้เป็นที่พักและปฏิบัติธรรม แต่แผนงานที่วางไว้ยังไม่แล้วเสร็จก็มาถูกฆ่ามรณภาพไปเสียก่อน สร้างความสลดใจให้กับบรรดาญาติโยมเป็นอย่างมาก


แหล่งที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์