รวบ3กลัดมันเรียงคิวสาวห้างฯ

ตำรวจปากน้ำรวบ 3 หนุ่มพนักงานสโตร์ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง

มอมเหล้ารุมโทรมสาวห้างเดียวกัน ชวนไปร่วมเลี้ยงงานวันเกิดที่บ้าน เหยื่อเห็นเป็นเพื่อนร่วมงาน เลยพาเพื่อนสาวอีกคนไปด้วย ก่อนท้าดวลแก้วต่อแก้วพอผู้เสียหายเมาไม่ได้สติ ช่วยกันจับถอดเสื้อผ้าเรียงคิวจนสำเร็จความใคร่ ส่วนเพื่อนฟุบหลับ หลังสร่างเมารีบเข้าแจ้งความ ชุดสืบสวนตามลากคอถึงที่ทำงาน

ตำรวจรวบ 3 หนุ่มมอมเหล้ารุมโทรมสาวห้างเดียวกันรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 18.00 น.

วันที่ 14 ก.ย. พ.ต.อ.ภูมินทร์ สิงหสุต ผกก.สภ.บางปู อ.เมืองสมุทรปราการ ร่วมกับ พ.ต.ท.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส ร.ต.อ.ภูวนาท แก่นจันทร์ และ ร.ต.ท.ตุลชัย สมใจ รอง สว.สส. นำกำลังพร้อมหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการ เข้าจับกุมนายธนภูมิ สุขศิริ อายุ 18 ปี นายกิตติศักดิ์ ทิมธนสาร อายุ 24 ปี และนายอนุศร กองศรี อายุ 25 ปี ทั้ง 3 เป็นพนักงานฝ่ายสโตร์ ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใน จ.สมุทรปราการ ผู้ต้องหาคดีข่มขืนหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยาของตนเองในลักษณะรุมโทรม โดยจับกุมขณะทำงานอยู่ในห้างดังกล่าว

พ.ต.ท.ธรรศกร ก้อนทอง สว.สส.สภ.บางปู เปิดเผยถึงคดีดังกล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อคืนวันที่ 13 ก.ย. เวลาประมาณ 02.00 น.

น.ส.จอย (นามสมมติ) อายุ 19 ปี พนักงานขายฝ่ายเสื้อผ้าสตรีห้างสรรพสินค้าดังกล่าว เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ต.สุทธิชน ธงชัยภูมิ พงส.(สบ 2) สภ.บางปู ว่าถูกผู้ต้องหาทั้ง 3 คนข่มขืนกระทำชำเราลักษณะรุมโทรม เหตุเกิดภายในบ้านของนายอนุศร ย่านต.แพรกษาใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ จากการสอบปากคำ น.ส.จอย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอนุศรชักชวนไปเลี้ยงวันเกิด เลยชวน น.ส.พิมพ์ (นามสมมติ) อายุ 20 ปี เพื่อนสาวไปด้วย ระหว่างนั้นผู้ต้องหาทั้ง 3 คน ชวนให้ดื่มเหล้าแบบไม่ได้ผสม ก่อนจะท้าชนแก้วต่อแก้ว เห็นเป็นเพื่อนร่วมงาน เลยดื่มกินกันอย่างสนุกสนาน กระทั่งเมาไม่ได้สติ จำได้รางๆว่าขณะอยู่บนโซฟาถูกผู้ต้องหาทั้ง 3 คนช่วยกันจับปลดเปลื้องเสื้อผ้า แล้วเรียงคิวผลัดกันข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ โดยที่ไม่สามารถดิ้นรนขัดขืนได้ ขณะที่ น.ส.พิมพ์ก็เมาฟุบหลับไป หลังสร่างเมาได้ต่อว่าผู้ต้องหาและรีบออกมาจากบ้านก่อนเข้าแจ้งความทันที

สว.สส.สภ.บางปูกล่าวอีกว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้ง 3 คนให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยตำรวจไม่ได้หนักใจอะไรเพราะผู้เสียหายยืนยันชัด

อย่างไรก็ตามพนักงานสอบสวนได้ส่งตัว น.ส.จอยไปตรวจร่างกายที่ รพ.สมุทรปราการ ตามขั้นตอนเพื่อนำผลตรวจมาเปรียบเทียบกับหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ของผู้ต้องหาต่อไป