รวบแล้ว เชือดคอ ชิงทรัพย์

จากกรณีหนุ่มขี้ยาปีนบ้านเข้าไปขโมยทรัพย์สินแล้วเชือดคอ น.ส.โสภา สายยศ อายุ 30 ปี เจ้าของบ้าน ตายสยอง เมื่อกลางดึก วันที่ 15 พ.ย. ที่ผ่านมา เหตุเกิด ภายในชุมชนเจ้าพระยา 1 ถนนสาทร เขตยานนาวา กทม. หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน บก.น.5 และชุดสืบสวน สน.บางโพงพาง นำโดย พ.ต.ท.สุรชัย เก็งทอง สว.สส.บก.น.5 พ.ต.ท.บุญโรจน์ โลจายะ สว.สส.สน.บางโพงพาง

ได้จับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้ไว้ได้ เปิดเผยเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 พ.ย. พล.ต.ท.วิโรจน์ จันทรังษี ผบช.น. พล.ต.ต.กมล แก้วสุวรรณ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.อนันต์ ศรีหิรัญ ผบก.น.5 และ พ.ต.อ.วิบูลย์ยุทธ สันทัดเวช ผกก.สน.บางโพงพาง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมตัวนายสุวิทย์ สัพท์ปีนัง หรือพันธุ์เทพ อายุ 32 ปี ซึ่งปลูกกระต๊อบอยู่ติดกับบ้านผู้ตาย พร้อมของกลางในตัวมีสร้อยคอทองคำหนัก 2 บาท จำนวน 2 เส้น พระนางพญาเลี่ยมทอง 1 องค์ ยาบ้า 39 เม็ด

จากการสอบสวนนายสุวิทย์รับสารภาพว่า ก่อนเกิดเหตุเมื่อวันที่ 14 พ.ย. ที่ผ่านมา ผู้ตายได้เข้าไปหา ที่กระต๊อบของตน และบอกว่าอยากจะสักแทตทู รูปลวดลาย ต่างๆไว้บนเรือนร่างบ้าง แต่ยังไม่ได้ตกลงว่าจะมาสักวัน ไหน ระหว่างพูดคุยตนสังเกตเห็นเครื่องประดับในตัวของ เหยื่อ

หลังจากนั้นในคืนวันที่ 15 พ.ย. จึงแอบปีนเข้าบ้าน ผู้ตายทางหน้าต่างชั้นล่าง แต่เหยื่อตื่นขึ้นมา จึงต้องฆ่า ปิดปาก และปลดทรัพย์ในตัวหลบหนีออกมา หลังจากก่อ เหตุก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน นำทรัพย์สินบางรายการไปขาย แล้วซื้อยาบ้ามาเสพ

พล.ต.ท.วิโรจน์กล่าวว่า ผู้ต้องหารับสารภาพว่าเคยถูกจำคุกในข้อหาค้ายาบ้า 3 ปี และเพิ่งพ้นโทษออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หลังออกจากคุกจากนั้นก็ติดยาบ้าอย่างงอมแงม และรับจ้างสักลวดลายบนเรือนร่างให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบศิลปะบนเรือนร่าง ต่อมาได้รู้จักสนิทสนมกับผู้ตาย ก่อนลงมือสังหาร น.ส.โสภานั้น ผู้ต้องหามีอาการอยากเสพยาแต่ไม่มีเงิน

และทราบว่าผู้ตายเพิ่งกลับ มาจากเยี่ยมสามีที่ประเทศอิตาลีและเห็นผู้ตายใส่ทองเส้นใหญ่ จึงตัดสินใจงัดหน้าต่างปีนเข้าไป แต่ผู้ตายเกิดรู้สึกตัวตื่นมาจึงฆ่าเพื่อปิดปาก หลังจากนั้นนำมีดที่ใช้ก่อเหตุไปทิ้งใต้สะพานพระราม 9 แล้วนำทองไปขาย ที่ร้านทองย่านพระประแดง นำเงินที่ได้ซื้อยาบ้าจำนวน 50 เม็ดมาเสพ กระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว พร้อมแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ชิงทรัพย์โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายและมียาบ้าไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ