นาทีชีวิตฮ.ช่อง11บินชนสายไฟดิ่ง“เจ้าพระยา”

ขณะถ่ายสารคดี 4 ชีวิตเฉียดตาย! ฮีโร่ช่วยนักข่าวสาว


นักข่าวเอ็นบีทีรอดตายปาฏิหาริย์ หลังประสบเหตุระทึก!

เฮลิคอปเตอร์ตกแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะสองนักบินนำนักข่าวสาวพร้อมช่างภาพ รวม 4 ชีวิต บินวนรอบเกาะเกร็ดเพื่อเก็บภาพ เกิดเหตุไม่คาดฝัน ใบพัดส่วนหางไปเกี่ยวกับสายไฟที่พาดผ่านลำน้ำ ทำให้เครื่องเสียการทรงตัวตกกระแทกพื้นน้ำอย่างแรง 4 ชีวิตตะเกียกตะกายออกจากเครื่อง-ลอยคอในน้ำ ก่อนนักบิน-ช่างภาพจะช่วยเหลือตัวเองว่ายน้ำเข้าฝั่งได้ ส่วนนักข่าวสาวสำลักน้ำหมด  แรงทำท่าจะจมดิ่ง เดชะบุญฮีโร่วัย 19 ปีกระโดดลงไปช่วยจนรอดตายอย่างหวุดหวิด คาดมูลค่าความเสียหายกว่า 30 ล้าน เผยเป็นเฮลิคอปเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุด ที่บริษัทเอกชนสั่งเข้ามาให้บริการเช่าเหมา ลำ ระบุเอ็นบีทีเตรียมงบจัดซื้อมาใช้ในกิจการข่าว
   
เหตุเฮลิคอปเตอร์ประสบอุบัติเหตุ ตกแม่น้ำเจ้าพระยาครั้งนี้เกิดขึ้น เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 11 ก.ย. ร.ต.อ.สุทธิพงษ์ ชัยบำรุง ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี


รับแจ้งมีเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในแม่น้ำเจ้าพระยา บริเวณท่าเรือหน้าวัดกลางเกร็ด หมู่ 5 ต.ปากเกร็ด จึงพร้อมด้วย นายวิเชียร พุฒิวิญญู ผวจ.นนทบุรี พล.ต.ต.ศุภกิจ ศรีจันทรนนท์ ผบก.ภ.จว.นนทบุรี พ.ต.อ.พงษ์สิทธิ์ แสงเพชร รอง ผบก. พ.ต.อ. ธวัชชัย นาคฤทธิ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด พ.ต.ท.ศานิตย์ โพธิพรหม รอง ผกก.สส. นายมนตรี ตั้งเจริญถาวร รองนายกเทศ มนตรีนครปากเกร็ด รวมทั้งเรือดับเพลิง จากเทศบาลนครปากเกร็ด และมูลนิธิร่วมกตัญญู รีบรุดไปยังที่เกิดเหตุ
   
บริเวณท่าเรือข้ามฟากของวัดกลางเกร็ด พบกลุ่มชาวบ้านจำนวนมากกำลังมุง ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

โดยมีซากของเฮลิคอป เตอร์จมอยู่ในแม่น้ำในลักษณะตะแคงอยู่ห่างจากท่าเรือเพียงประมาณ 5 เมตร ส่วนของด้านข้างลำเครื่องโผล่เหนือน้ำเล็กน้อย โดยมีผู้ที่โดยสารมากับเฮลิคอปเตอร์จำนวน 4 คน เป็นชาย 3 หญิง 1 กำลังตะเกียกตะกายออกมาจากประตูเครื่องพากันลอยคออยู่ในแม่น้ำ ก่อนที่เฮลิคอป เตอร์จะค่อย ๆ จมลงสู่แม่น้ำอย่างรวดเร็วจนมิดทั้งลำ


โดยชายทั้ง 3 คนได้พยายามว่ายน้ำเข้ามาเกาะราวบันไดของโป๊ะเรือ แล้วชาวบ้านเข้ามาช่วยกันดึงขึ้นจากน้ำได้อย่างปลอดภัย

ทราบชื่อว่า พ.ต.ท.อภินันท์ ธัญญปรีดากุล อายุ 46 ปี นักบินที่ 1 ร.ท.อรุณ คุ้มแคว้น อายุ 42 ปี นักบินที่ 2 และนายสมศักดิ์ นาชัยนาค ช่างภาพวิดีโอ ขณะผู้โดยสารหญิงซึ่งทราบชื่อภายหลังว่า น.ส.พัชรวรินทร์ พัชรปภานันท์ อายุ 26 ปี เป็นผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที กำลังดำผุดดำว่ายอยู่ในแม่น้ำ และมีอาการอ่อนแรงไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นฝั่งได้
   
ขณะนั้นเอง นายวินัย บุปผา อายุ 19 ปี หนึ่งในชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ ตัดสินใจกระโดดลงไปช่วยนำขึ้นมาบนฝั่งได้สำเร็จ


แต่ น.ส.พัชรวรินทร์ มีอาการอ่อนเพลียจนเป็นลม และมีอาการบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่มูลนิธิจึงช่วยกันปฐมพยาบาลผู้บาดเจ็บและนำตัวส่ง รพ.กรุงไทย ซึ่งล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว สอบปากคำในเบื้องต้น พ.ต.ท. อภินันท์ ให้การว่า ตนเองทำหน้าที่เป็นนักบินของเฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าว ซึ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์ยี่ห้อโรบินสัน รุ่น อาร์ 44 แบบ 4 ที่นั่ง มูลค่าประมาณ 30 ล้านบาท ของบริษัท เฮลิลักซ์ จำกัด โดยก่อนเกิดเหตุตนพร้อมด้วย ร.ท.อรุณ ผู้ช่วยนักบิน น.ส.พัชรวรินทร์ ผู้สื่อข่าว และนายสมศักดิ์ ช่างภาพ รวม 4 คน ได้นำเครื่องขึ้นบินจาก อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี มาบินสำรวจ และเก็บภาพบริเวณรอบเกาะเกร็ด เพื่อนำภาพไปโปรโมตให้กับกลุ่มลูกค้าดู เพราะบริษัททำธุรกิจให้บริการเช่าเหมาลำเฮลิคอปเตอร์
   
ระหว่างที่ออกบินมาได้ประมาณ 20 นาที และบินมาถึงจุดที่เกิดเหตุ ขณะที่ตนบังคับเครื่องให้บินต่ำลงมาใกล้แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อให้ช่างภาพบันทึกภาพกลาง  ลำน้ำอยู่นั้น

ได้เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น เมื่อใบพัดส่วนหางของเฮลิคอปเตอร์เกิดไปเกี่ยวเข้ากับสายไฟฟ้าที่โยงข้ามแม่น้ำ จึงทำให้เฮลิคอปเตอร์เสียหลักม้วนตัวเข้ามาทาง  ฝั่งท่าเรือข้ามฝากของวัดกลางเกร็ด ก่อนจะเสียการทรงตัวโดยที่ไม่สามารถบังคับเครื่องได้ ตกลงในแม่น้ำหน้าวัด ทำให้ตนและ ทีมงานทั้งหมดต้องรีบว่ายน้ำออกมาจากเครื่องที่กำลังจมน้ำไปอย่างรวดเร็ว กระทั่ง มีชาวบ้านเข้ามาช่วยเหลือขึ้นฝั่งได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด
   
ทางด้านนางดวงพร เหลืองกูล ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตนได้ยินเสียงดังตูมสองครั้งมาจากบริเวณท่าเรือ จากนั้นไฟฟ้าแถวบ้านดับลงหมด
จึงรีบวิ่งออกมาดูเพราะคิดว่าหม้อแปลงระเบิด แต่กลับได้กลิ่นน้ำมันเหม็นคลุ้งไปหมด ก่อนจะ  เห็นเฮลิคอปเตอร์จมน้ำไปทั้งลำ โชคดีที่เฮลิคอปเตอร์ไม่ตกชนเขื่อน ไม่อย่างนั้นคงเกิดระเบิดและอาจมีคนเสียชีวิต
   
ขณะเดียวกันทางบริษัท เฮลิลักซ์ ซึ่งเป็นเจ้าของเฮลิคอปเตอร์ลำที่ตก ได้ติดต่อประสานไปทางบริษัทเดินเรือย่านฝั่งธนบุรี

เพื่อนำเรือเครนและเรือลากขนาดใหญ่มาทำการกู้และลากซากเฮลิคอปเตอร์ โดยมีนักประดาน้ำจากมูลนิธิร่วมกตัญญูลงค้นหาจุดที่เฮลิคอปเตอร์จมอยู่ในน้ำ โดยพบส่วนหัวหันเข้าฝั่ง ส่วนหางหันออกทางแม่น้ำ และในเวลาต่อมานายวิเชียร ผวจ. นนทบุรี ได้เดินทางไปเยี่ยม น.ส.พัชรวรินทร์ ที่ห้อง 603 รพ.กรุงไทย เบื้องต้นพบว่าได้รับบาดเจ็บตามลำตัวและแผ่นหลัง อาการอยู่ในขั้นปลอดภัย
   
โดย น.ส.พัชรวรินทร์ เล่าถึงนาทีชีวิตหลังประสบเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกว่า ตกใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ตนได้รับมอบหมายงานให้เป็นพิธีกรถ่ายทำการบิน ตอนนั้นนั่งอยู่หลังช่างเครื่องด้านซ้าย สังเกตเห็นว่าเครื่องบินต่ำมาก ทันใดนั้นรู้สึกว่าส่วนหางของเครื่องไปเกี่ยวกับสายไฟฟ้า ก่อนที่เครื่องจะเสียการทรงตัว แต่นักบินก็ยังพยายามจะนำเครื่องไปให้ใกล้ฝั่งมากที่สุด ก่อนจะตกกระแทกน้ำอย่างแรง โดยทุกคนต่างถอดเข็มขัดนิรภัย และมุดออกจากตัวเครื่องเพื่อเอาชีวิตรอด ส่วนตนเองเกิดสำ ลักน้ำและหมดแรงว่ายน้ำ ทำท่าจะจมลงสู่แม่น้ำ โชคดีมีชาวบ้านมาช่วยดึงตัวจนรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิด
   
ด้านนายพัฒนพงษ์ จรัสตระกูล เจ้าของบริษัท เฮลิลักซ์ กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวบินมาจาก อ.บางบัวทอง

ซึ่งก่อนทำการบินสภาพอากาศยังเปิดอยู่ จึงอนุญาตให้นักบินทำการบินได้ แต่เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุท้องฟ้าเกิดปิดลงกะทันหัน ทำให้นักบิน มองไม่เห็นสายไฟที่พาดไปยังเกาะเกร็ดจึงเกิดเหตุดังกล่าวขึ้น ส่วนความเสียหายเบื้องต้นประมาณ 30 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม สำหรับการกู้ซากเฮลิคอปเตอร์นั้น จะต้องรอเรือเครนมายกในเวลาประมาณ 19.00 น.
   
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเฮลิคอป เตอร์ รุ่น อาร์ 44 แบบ 4 ที่นั่งลำนี้ เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ทางบริษัทเฮลิลักซ์เพิ่งจะซื้อมาได้เพียง 3 เดือน มีชั่วโมงบินไม่ถึง 100 ชม.

สำหรับภารกิจการบินในครั้งนี้ เป็นการถ่ายทำสารคดีเชิงท่องเที่ยวของเกาะเกร็ด และทดสอบสมรรถนะของตัวเครื่องไปในตัว เพื่อต้องการโปรโมตเฮลิคอปเตอร์ว่ามีความคล่องตัวและน่าใช้เพียงใด เนื่องจากทางสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที เตรียมใช้งบจัดซื้อเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้มาใช้ในภารกิจของสถานี แต่ก็ประสบอุบัติเหตุอย่างไม่คาดฝันขึ้นเสียก่อน ทั้งนี้ขณะเกิดเหตุได้มี นายศิกษก บรรลือฤทธิ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี สามารถบันทึกภาพวินาทีที่เฮลิคอปเตอร์ตกได้.

เครดิต :
เครดิต : เดลินิวส์ (อ่านความจริง อ่านเดลินิวส์)


ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์