ขรก.สาวสุดทน โดนยกเค้า ไม่เหลือแม้ประตู

ข้าราชการสาว ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ สุดทน บ้านพักใน จ.นครปฐม ถูกโจรยกเค้า 4 ครั้งรวดไม่เหลือแม้แต่ประตูหรือหน้าต่าง ซ้ำ ตำรวจ สภ.ควายเผือก กลับนิ่งดูดายไปร้องทุกข์กลับบอกช่วยไม่ได้

เมื่อเวลา 12.00 น. ของวันที่ 14 ส.ค.53 นางสุวรีย์ ท่าผา อายุ 43 ปี อาชีพรับราชการเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมชำนาญงาน ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ อยู่บ้านเลขที่ 111/2 หมู่ 11 ต.มาบแค อ.เมืองนครปฐม พร้อมด้วยญาติได้ติดต่อผู้สื่อข่าวไทยรัฐ ขอให้ช่วยทำข่าวคนร้ายไม่ทราบจำนวนบุกยกเค้าในบ้าน รื้อข้าวของกระจัดกระจาย นำทรัพย์สินไปจนหมดแม้กระทั่งประตูบ้าน เหล็กดัด ที่นอน ชุดรับแขกไม้สักยังขนไปเกลี้ยง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบยังบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านทรงสเปน 2 ชั้น มีรั้วรอบขอบชิด อยู่ห่างจากถนนสายตาก้อง-ดอนตูม 20 เมตร อยู่ในเนื้อที่ 80 ตารางวา 

เมื่อเปิดประตูรั้วเข้าไปพบว่าประตูหน้าบ้านซึ่งเป็นไม้สักลาย ถูกถอดออกโดยมีผ้าห่มขนาดใหญ่ขึงแทนประตู ภายในบ้านชั้นล่างถูกรื้อค้นข้าวของกระจุยกระจาย ส่วนที่ด้านหลังบ้านเป็นห้องครัวนั้น ประตูหลังบ้านถูกถอดออกเหลือแต่กรอบประตูซึ่งเป็นบานไม้สัก ส่วนด้านข้างหน้าต่างห้องครัวเป็นกระจกบานเกร็ดถูกถอดออกโล่งเช่นกัน ห้องน้ำและห้องส้วมทั้ง 2 ห้องบานประตูหายไปหมดและมีเครื่องระบายอากาศถูกถอดกองไว้ที่พื้นตู้ครัวถูกรื้อเอาเครื่องใส่ภาชนะไปทั้งหมด 

นางสุวรีย์ กล่าวว่าในห้องครัวมีทั้งเตาแก๊สและตู้เย็นขนาดใหญ่ 2 ประตู หายไปหมด ที่ด้านหลังห่างจากรั้วกำแพง 2 เมตร ยังพบว่ามีเสื้อผ้าชุดไทยผ้าไหมถูกทิ้งกองไว้ 2-3 ชุด และที่เหนือกำแพงมีขึงลวดหนามไว้ 2 แถว ถูกตัดขาดเป็นรอยโหว่ขนาด 2 เมตร ซึ่งมีรอยเท้าติดอยู่ที่กำแพง 

เมื่อขึ้นไปตรวจสอบชั้นบน ซึ่งมีห้องนอน 2 ห้อง ถูกรื้อค้นกระจุยกระจายเช่นกัน โดยทั้ง 2 ห้องมีเตียงนอนไม้สัก ห้องละ 1 เตียง ได้หายไปด้วย สายไฟและเครื่องควบคุมไฟเซฟตี้คัท ถูกยกหายไปทั้งแผง ฝ้าเพดานถูกรื้อลงมากองอยู่ที่พื้น สายไฟที่เดินอยู่ทั่วทุกห้องถูกตัดหายไปหมด รวมถึงประตูห้องนอน 2 ห้องและประตูระเบียงที่เป็นไม้สักหายไปหมด รวมถึงเหล็กดัดที่ติดอยู่ตามหน้าต่างและประตูระเบียงหายไปหมด นอกจากนี้มุ้งลวดตามหน้าต่างทุกบ้านของบ้านซึ่งมีถึง ร่วม 20 บานหายไปหมด ข้าวของภายในห้องถูกรื้อค้นออกมากองอยู่ด้านนอกห้อง 

นางสุวรีย์ เผยด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ตนเองรับราชการอยู่สามีได้จากไปเมื่อประมาณ 10 ปี มีบุตรด้วยกัน 1 คน ตนเองต้องทำงานดูแลลูก 2 อาทิตย์ ถึงกลับมาครั้งหนึ่งเพราะที่ กทม.นั้นมีบ้านพักราชการอยู่ แต่เมื่อกลับมาบ้านทีไรต้องพบกับสภาพบ้านที่ถูกคนร้ายบุกเข้ามาลักของแล้วเสียความรู้สึก เงินทองที่ได้มาด้วยน้ำพักน้ำแรงเอามาซื้อของเข้าบ้านกลับถูกยกเค้าไปเกลี้ยงไม่เหลือหลอ ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 แล้วที่คนร้ายเข้ามายกเค้า เคยไปแจ้งความแล้วแต่มีหนังสือตอบรับมาจาก ตร.ว่าไม่สามารถติดตามคนร้ายมาได้ 

ครั้งแรกเมื่อปลายปีที่แล้วทั้งพระเครื่องพระบูชาเก่าที่สามีเคยเก็บสะสมไว้รวมทั้งเงินที่เก็บไว้หายไปหมดเกลี้ยงถูกคนร้ายยกเค้าไป ครั้งต่อมาก็มาลักตัดสายไฟตัดรั้วเหล็กหน้าบ้าน ครั้งต่อมาก็มายกเอาเครื่องครัวของใช้ ล่าสุดหนักเข้าไปใหญ่มาขนเอาแม้กระทั่งประตูไม้สัก ซักบานก็ไม่เหลือเตียงนอน เฟอร์นิเจอร์ ทำใจไม่ได้ 

นางสุวรีย์ ยังเผยอีกว่าทุกครั้งไปแจ้งตำรวจ ท้องที่ สภ.สามควายเผือก แต่ก็ไม่เป็นผลครั้งนี้เลยแจ้งไปยังสื่อขอให้มาช่วยทำข่าวให้ที ทนไม่ไหวบ้านก็อยู่ห่างจากตู้ยามเพียงแค่ไม่ถึง 1 ก.ม.ครั้งนี้เหมือนให้หมดตัว เมื่อ 2 อาทิตย์ก่อนที่จะถูกคนร้ายเข้ามาลักของนั้นตนเองกลับมาบ้านครั้งหนึ่งมาดูบ้านกับพี่ชายก็ยังปรกติ และกลับมาอีกครั้งเมื่อวันที่ 12 ส.ค.ซึ่งตรงกับวันแม่อยากมารับแม่ไปเที่ยวหาอาหารกินกัน เมื่อมาเห็นยังตกใจว่าใครอุตริเอาผ้าห่มมาขึงกางประตูเข้าบ้าน เมื่อเปิดรั้วเข้าไปถึงกับตกใจว่าของภายในบ้านถูกรื้อประตูหายไปหมดเลยทุกบาน จึงอยากวิงวอนขอให้ ตร.ช่วยตามหาของที่หายไปกลับมาให้ด้วย เพราะสิ่งของที่หายไปนั้นมีมูลค่านับล้านแล้ว ไม่มีปัญญาที่จะหาซื้อมาแล้ว ก่อนหน้าที่จะแจ้งสื่อให้มาดูได้ไปแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท. ฐิติวัชร์ อริยะเลิศชัย สว.เวร สภ.สามควายเผือก อ.เมืองนครปฐม ไว้แล้วและมาตรวจแต่ตนเองกลัวเหมือนทุกครั้งคือไม่สามารถติดตามคนร้ายได้ นางสุวรีย์ กล่าว

ทางด้าน พ.ต.ต.คุรุพงษ์ แก้วสะอาด สวป.สภ.สามควายเผือก เผยว่าสำหรับเหตุที่เกิดขึ้นนี้ ส่วนหนึ่งมาจากเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้านเดือนหรือครึ่งเดือนจะมาสักครั้งหนึ่ง และบริเวณโดยรอบบ้านนั้นมีแต่ญาติพี่น้องทั้งนั้น แต่ก็ไม่สามารถปฎิเสธความบกพร่องได้ หลังจากที่นางสุวรีย์ ได้มาแจ้งแล้ว ได้ไปตรวจสอบตามร้านค้าของเก่าหลายแห่งในพื้นที่เพื่อหาของกลางและหาข้อมูลซึ่งเชื่อว่าพวกเข้ามาลักทรัพย์นั้นจะต้องนำไปขายให้กับร้านรับซื้อไม้ นอกจากนี้ได้แจ้งให้กองวิทยาการไปทำการตรวจสอบลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายไว้ก่อน พร้อมกับรายงานเหตุที่เกิดขึ้นให้ผู้บังคับบัญชาทราบเพื่อหาแนวทางแก้ไขต่อไป

เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์