แบงก์กาโม่ซื้อทองถูกจับได้น้ำยาล้างส้วมสาด

สาวใหญ่เข้าร้านทองซื้อสร้อยกลางตลาดพระประแดง เจ้าของนับเงินเห็นเป็นแบงก์กาโม่ยัดไส้จึงเรียกให้หยุด กลับฉวยโอกาสสาดน้ำยาล้างห้องน้ำใส่หน้า แล้ววิ่งหนี สุดท้ายหนีไม่รอด ถูกพลเมืองดีรวบตัว สารภาพทำครั้งแรกเพราะหาทางออกไม่ได้

เหตุคนร้ายทำทีซื้อทอง ก่อนฉวยโอกาสเจ้าของร้านเผลอสาดน้ำยาล้างห้องน้ำใส่หน้าบาดเจ็บรายนี้ เปิดเผยเมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ต.ท.นพดล ทับเกตุ สว.เวร สภ.อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ รับแจ้งเหตุมีคนร้ายเข้าไปชิงทรัพย์ในร้านทอง "ห้างทอง 999" เลขที่ 2069 ริมถนนนครเขื่อนขันธ์ กลางตลาดสดพระประแดง ต.ตลาด อ.พระประแดง ได้รับแจ้งว่ามีแม่ค้าในตลาดช่วยกันจับตัวคนร้ายไว้ได้ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นครพัฒน์ พรหมพันธ์ ผกก.สภ.อ.พระประแดง พ.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.โสภณ มุ้ยจั่น สว.สส. และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อถึงที่เกิดเหตุ พบว่าเป็นร้านขายทองรูปพรรณชื่อ "ห้างทอง 999" เป็นอาคารพาณิชย์คูหาเดียวสูง 4 ชั้น ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายทองคำรูปพรรณ ตรวจสอบพบบนตู้กระจกใส่ทองมีน้ำยาของเหลวสีชมพูจางแตกกระจายอยู่เต็มตู้และบนพื้น รวมทั้งพบขวดแก้วโหลขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 ซม. สูง 12 ซม. มีน้ำยาสีชมพูติดอยู่ก้นขวดวางบนตู้กระจก

นอกจากนี้ บนตู้กระจก เจ้าหน้าที่พบธนบัตรปลอมใบละ 1,000 บาท และใบละ 500 บาท ตรงกลางธนบัตรเป็นรูปกาโม่ รวม 46 ใบ และเงินสด 1,600 บาท และมีผู้บาดเจ็บถูกคนร้ายใช้น้ำยาดังกล่าวสาดที่ใบหน้า ทราบชื่อคือนางฤดีพร สหคมเวชกุล อายุ 38 ปี เจ้าของร้านทอง ซึ่งนายพิเชษฐ์ สหคมเวชกุล สามี รีบนำส่งรักษาที่โรงพยาบาลหู ตา คอ จมูก ย่านปิ่นเกล้า ล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว

ขณะเดียวกัน ทราบว่าคนร้ายมีแม่ค้าในตลาดสดช่วยกันจับตัวไว้ได้ จึงรุดไปตรวจสอบ ทราบชื่อคือ นางจงรักษ์ สีดาบุตร อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12/1 หมู่ 1 ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ และตรวจค้นตัวพบของกลาง เป็นสร้อยคอทองคำลายกลมหนัก 2 บาท 1 เส้น และสร้อยข้อมือลายเดียวกันหนัก 2 บาท 1 เส้น ที่มีชื่อของร้าน "ห้างทอง 999" ปั๊มอยู่ที่ตะขอ จึงนำผู้ต้องหาพร้อมของกลางไปสอบสวนที่โรงพัก

นางฤดีพร เจ้าของร้านทองผู้เสียหาย ให้การต่อเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนนั่งอยู่ในร้าน และมีคนร้ายซึ่งทราบชื่อภายหลังว่านางจงรักษ์เข้ามาในร้านพร้อมขอดูสร้อยคอและสร้อยข้อมือ น้ำหนักเส้นละ 2 บาท เมื่อตนหยิบมาให้ดู นางจงรักษ์ก็ถามว่า 2 เส้นรวมกันราคาเท่าไร ตนจึงบอกว่าราคา 45,000 บาท นางจงรักษ์บอกว่าเตรียมเงินมาไม่พอ และขอตัวไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มที่อยู่ใกล้ร้าน

เจ้าของร้านทองเคราะห์ร้าย บอกว่า จากนั้นไม่นาน นางจงรักษ์เดินกลับมาที่ร้าน พร้อมนำสร้อยข้อมือและสร้อยคอใส่ แล้วส่งเงินมาให้ 45,000 บาท เมื่อตนนำเงินมาคลี่นับดู พบว่าเป็นธนบัตรยัดไส้ข้างในเป็นธนบัตรปลอม จึงเรียกนางจงรักษ์ให้หยุด แต่ในจังหวะที่ไม่ได้ระวังตัว นางจงรักษ์ก็ใช้มือล้วงในกระเป๋าถือแล้วหยิบขวดแก้วออกมาสาดที่ใบหน้าตนอย่างแรง 1 ครั้ง โดยไม่ทราบว่าของเหลวนั้นเป็นอะไร รู้สึกปวดแสบปวดร้อน แต่ยังมีสติจึงตะโกนให้แม่ค้าละแวกหน้าร้านช่วยจับตัวนางจงรักษ์ไว้

ด้านนางจงรักษ์ สีดาบุตร ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ตนเป็นผู้ลงมือก่อเหตุใช้น้ำยาสาดหน้าเจ้าของร้านทองจริง แต่สารภาพว่าเพิ่งทำเป็นครั้งแรก หวังเพื่อนำทองไปขายเพื่อนำเงินใช้จ่ายในครอบครัว เนื่องจากขณะนี้อยู่ในขั้นวิกฤติมาก และร่ำไห้บอกว่า เมื่อตนถูกจับก็ไม่รู้ว่าครอบครัวจะอยู่กันอย่างไร ส่วนน้ำยาสีชมพูขุ่นที่ใช้สาดหน้านางฤดีพรนั้น ผู้ต้องหาบอกว่าเป็นน้ำยาล้างห้องน้ำยี่ห้อหนึ่ง

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งข้อหานางจงรักษ์ว่าชิงทรัพย์และประทุษร้ายต่อร่างกาย พร้อมส่งตัวเข้าห้องขังเพื่อรอดำเนินคดีต่อไป

แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก