พระไพศาลเผย คนมีสี ร่วมแก๊งค้าสัตว์ป่า

"พระไพศาล วิสาโล" เผยคนมีสีร่วมขบวนการค้าสัตว์ป่า นำพรานล่าในพุทธอุทยาน โดยเฉพาะตัว "นิ่ม"  ราคาสูงถึง 2 หมื่น ส่งขายต่างประเทศ เป็นธุรกิจที่ทำกำไรดี...

เมื่อวันที่ 10 ก.ค. นายสมชัย เพียรสถาพร อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

จัดโครงการปลูกป่าฟื้นฟูต้นน้ำลำปะทาว-ป่าภูหลง ที่วัดป่ามหาวันและชุมชนภูหลวง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ โดยนำกล้าไม้ 20 ชนิด จำนวน 60,000 ต้นสนับสนุนโครงการร่วมกับพระไพศาล วิสาโล เจ้าอาวาสวัดป่ามหาวันและประธานคณะกรรมการโครงการความร่วมมือเพื่อการฟื้นฟู ป่าต้นน้ำลำปะทาว

ทั้งนี้ พระไพศาล กล่าวว่า ป่าภูหลงเป็นป่าสงวนที่กรมป่าไม้อนุญาตให้วัดอยู่ร่วมกับป่าตามโครงการพุทธอุทยาน มีพื้นที่หลายพันไร่

ที่ผ่านมามีปัญหาการบุกรุกและลักลอบตัดต้นไม้เพื่อทำไร่มันและนำไม้ไปขาย แต่ปัญหาดังกล่าวเบาบางลงเพราะวัดจัดโครงการธรรมยาตราชักชวนให้ประชาชนร่วม กันป้องกันการบุกรุกและป้องกันไฟป่า แต่ปัจจุบันมีปัญหาที่กำลังประสบอยู่คือการล่าสัตว์ป่า เดิมผู้ล่าคือชาวบ้านนำไปบริโภคและขาย แต่ขณะนี้คนล่าไม่ใช่ชาวบ้าน แต่เป็นคนมีสีจากพื้นที่อื่น มีปืนและอาวุธอย่างดี ไม่กลัวชาวบ้าน เพราะเส้นใหญ่ เข้ามาล่าสัตว์ในพื้นที่วัดในวันเสาร์และอาทิตย์ เพราะการค้าสัตว์ป่าเป็นธุรกิจ ทำกำไรมาก โดยเฉพาะตัวนิ่มหรือลิ่ม กิโลกรัมละ 2,500 บาท ตัวหนึ่งมีน้ำหนักประมาณ 8 กิโลกรัม ราคาสูงถึง 20,000 บาท นำไปขายให้กับต่างประเทศโดยเฉพาะจีน ที่นิยมบริโภคกันมาก นอกจากคนมีสีแล้วยังมีคนจากพื้นที่อื่น เช่น จ.ขอนแก่น, มหาสารคาม และมุกดาหาร เข้ามาล่าด้วย นอกจากตัวนิ่มแล้ว ยังมีหมูป่า กว่า 100 ตัว วัวแดง เป็นต้น

พระไพศาล กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาได้ประสานกับผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ ตกลงว่าจะมีการสนธิกำลังมาคุ้มครองซึ่งต้องดูว่าจะได้ผลหรือไม่ นอกจากนี้ยังมีกรมป่าไม้ที่ประกาศให้ป่าสงวนเป็นพุทธอุทยานและป่าชุมชนทำให้การทำงานของวัดและประชาชนในการอนุรักษ์ง่ายขึ้น

ด้านนายสมชัย กล่าวว่า โครงการดังกล่าวเป็นความร่วมมือในร่ม "บวร" คือ

บ้าน วัด โรงเรียนที่ต้องการให้ประชาชนในชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการป้องกันรักษาป่า และเพิ่มพื้นที่ป่าตามแนวพระราชดำริโดยคำนึงถึงฐานทรัพยากรและความสมดุลของ ระบบนิเวศน์ เพื่อแก้ปัญหาโลกร้อนและภัยแล้งที่ทวีความรุนแรงยิ่งขึ้นรวมทั้งการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมส่งผลให้มีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ปล่อยสู่บรรยายกาศจำนวนมาก การแก้ปัญหาที่ยั่งยืนและใช้ต้นทุนน้อยที่สัดคือการปลูกป่าเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวคืนสู่ธรรมชาติ.


เครดิต :
ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดยหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์