จีไอฆ่าเมีย-จนมุม นั่งขายถ่านในตลาดที่พิษณุโลก

มีคนเห็นรูปสเก็ตช์แจ้งตร.ตามจับได้มะกันจ่ายแน่1ล้าน


จนมุมแล้ว"จีไอ"ฆ่าเมียแล้วหนีมากบดานเมืองไทย ตำรวจสันติบาลตามไปจับได้ขณะนั่งขายถ่านในตลาดที่พิษณุโลก ก่อนคุมตัวเข้ากรุงแถลงพร้อมทูตสหรัฐ-เอฟบีไอทันที เผยมีคนเห็นรูปหมายจับไฮเทคในหนังสือพิมพ์ จำได้ว่าหน้าเหมือนพ่อค้าขายถ่านในตลาดโคกมะตูมเลยแจ้งตำรวจไปตรวจสอบแล้วจับได้ในที่สุด จีไอสารภาพหมดเปลือกฆ่าเมียจริง เพราะแค้นติดพนันจนเอาทรัพย์สินไปจำนำหมด

แถมยังปักใจว่าไปท้องกับคนอื่น เลยใช้ค้อนทุบท้ายทอยจนตายแล้วเอาศพไปทิ้งริมถนน เสร็จแล้วบินกลับเมืองไทย ตะลอนๆไป 5 จังหวัดภาคเหนือ ไปเป็นลูกจ้างทำป้ายโฆษณา เงินเก็บ 3 ล้านก็เบิกไม่ได้เพราะญาติแจ้งเป็นคนสูญหาย สุดท้ายเผาถ่านขายเลี้ยงปากท้องไปวันๆ ตอนที่ลูกชายบินมาตามหาก็เห็นข่าวแต่ไม่กล้าไปหาเพราะกลัวโดนจับ ขอบคุณตำรวจที่จับอย่างนุ่มนวล และขอกลับไปติดคุกมะกัน เอฟบีไอยันจ่ายแน่ค่าหัว 1 ล้าน

"เจอแล้วหลังกบดานนาน"


จากกรณีทางการสหรัฐอเมริกาประสานพล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา รองผบ.ตร.กศ. ให้ช่วยติดตามจับกุมพ.อ.ท.เสนอ วงษ์กวน อายุ 59 ปี พันจ่าโทสังกัดกองทัพอากาศสหรัฐ ผู้ต้องหาฆ่านางโสภา วงษ์กวน ภรรยาตัวเองขณะท้องแก่ 8 เดือน ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2537 แล้วหลบหนีเข้ามากบดานในเมืองไทย โดยตั้งรางวัลนำจับจำนวน 1 ล้านบาท ซึ่งตำรวจเชื่อว่าผู้ต้องหารายนี้กบดานอยู่ที่จังหวัดในภาคอีสาน

สำหรับพ.อ.ท.เสนอมีภูมิลำเนาเดิมอยู่ที่จ.นครนายกและปราจีนบุรี เดินทางไปทำงานที่ประเทศสหรัฐเมื่ออายุ 21 ปี โดยเริ่มจากเป็นจิตรกรรับจ้างเขียนภาพ ก่อนสอบบรรจุเป็นทหารในสังกัดกองทัพอากาศสหรัฐ จากนั้นเมื่อเดินทางมาเมืองไทยจึงมาพบกับนางโสภา ยอดเพ็ชร ที่พัทยา จึงแต่งงานกันแล้วไปอยู่กินกันที่สหรัฐ มีลูกชายหญิงด้วยกันรวม 2 คน เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2537 พ.อ.ท.เสนอใช้ไม้ทุบนางโสภาซึ่งตั้งครรภ์ 8 เดือนตายแล้วนำศพไปทิ้งริมถนนในแคลิฟอร์เนีย ก่อนนั่งเครื่องบินกลับเมืองไทย ตามที่ข่าวสดเสนอข่าวไปแล้วนั้น

"จับได้ขณะขายถ่านในตลาด"


เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 3 พ.ย. ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อิสระพันธ์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา พร้อมด้วยพล.ต.ต.ตรีทศ รณฤทธิวิชัย รองผบช.ส. พ.ต.อ.ณพล โกศลลักษโณภาส ผกก.ชุดปฏิบัติการข่าว ส.2 นายโรเบิร์ต เอ เบิร์ก ผู้ช่วยทูตฝ่ายกฎหมายประจำ 5 ประเทศภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเจ้าหน้าที่หน่วยสืบสวนกลางสหรัฐอเมริกา หรือเอฟบีไอ แถลงข่าวจับกุมตัวพ.อ.ท.เสนอ วงษ์กวน ผู้ต้องหาคดีสังหารนางโสภา วงษ์กวน ภรรยาตัวเองขณะตั้งครรภ์เหตุเกิดที่รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่อปี 2537 แล้วหลบหนีมายังประเทศไทย

พล.ต.อ.อิสระพันธ์กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นการทำงานของตำรวจสันติบาลโดยมีพ.ต.อ.ณพล เป็นหัวหน้าชุด ได้สืบสวนจนสามารถทราบว่านายเสนอหนีไปอยู่ในพื้นที่จ.พิษณุโลก จนเมื่อเวลา 07.30 น.วันเดียวกันนี้ เจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมตัวนายเสนอได้ที่ตลาดสดโคกมะตูม อ.เมือง จ.พิษณุโลก ขณะกำลังนั่งขายถ่านอยู่บนแผงลอยภายในตลาดดังกล่าว พร้อมของกลางหนังสือเดินทางที่ออกโดยทางการสหรัฐหมายเลข 053393370 ออกเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.1992 หมดอายุ 23 ธ.ค.2002 บัตรข้าราชการของข้าราชการทหารของกองทัพอากาศสหรัฐออกเมื่อวันที่ 20 ธ.ค.1980 หนังสือเดินทางประเทศไทยหมายเลข c 425753 ออกเมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ปี 1972 ออกโดยกงสุลไทยประจำนครลอสแองเจลิส สมุดบัญชีธนาคารชื่อบัญชีนายเสนอ วงษ์กวน ของธนาคารกรุงเทพ มีเงินฝาก 3 ล้านบาท แต่จากการตรวจสอบพบว่าบัญชีถูกอายัดไปแล้ว

"ยอมให้นำตัวไปดำเนินคดีที่อเมริกา"


พล.ต.อ.อิสระพันธ์กล่าวต่อว่า หลังจากที่จับกุมตัวได้ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวกลับมาสอบสวนที่กรุงเทพฯ โดยนายเสนอรับสารภาพว่าได้ฆ่านางโสภา ภรรยาตัวเองจริง พร้อมได้ได้เขียนหนังสือยินยอมให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนในข้อหาฆ่าผู้อื่น โดยได้เป็นผู้เขียนหนังสือยินยอมด้วยลายมือตนเอง มีพยานลงนามประกอบด้วย และไม่ได้มีการบังคับขู่เข็ญแต่อย่างใด เป็นการยอมเดินทางไปประเทศสหรัฐโดยความเต็มใจของผู้ต้องหา

รองผบ.ตร.กล่าวต่อว่า หลังจากนี้จะนำตัวนายเสนอไปยังที่ควบคุมตัวพิเศษของตำรวจสันติบาลบางเขน และจะรีบส่งตัวนายเสนอไปยังประเทศสหรัฐโดยเร็วที่สุดคาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการประมาณ 1 สัปดาห์ สำหรับรางวัลนำจับ 1 ล้านบาทนั้นทางสหรัฐทำตามพันธสัญญาโดยจะมอบให้หลังจากทุกอย่างดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ส่วนจะแบ่งให้หน่วยงานไหนนั้นต้องพิจารณาอีกที แต่ในจำนวนนี้จะมีการแบ่งให้ประชาชนที่แจ้งเบาะแสของนายเสนอให้ตำรวจทราบด้วย

"ฆ่าเพราะติดพนันมาก"


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างนำตัวพ.อ.ท.เสนอเข้ามายังห้องแถลงขาวนายเสนอแต่งกายด้วยเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำกางเกงขาสั้นสีดำ รองเท้าแตะ สีหน้าไม่เคร่งเครียด และยอมตอบคำถามผู้สื่อข่าวด้วยความเต็มใจ ว่า ตนลงมือสังหารภรรยาโดยมีมูลเหตุมาจากภรรยาชอบเล่นการพนัน เมื่อไปอยู่ที่ฐานทัพอากาศซึ่งเป็นที่ทำงานของตนได้รวมกลุ่มกับภรรยาทหารคนอื่นๆ เล่นการพนัน แรกๆ ตนก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ระยะหลังเริ่มติดพนันมากขึ้น เล่นพนัน 3 วัน 3 คืนไม่ยอมกลับบ้าน ตนเมื่อเลิกงานกลับมาบ้านก็ไม่เจอภรรยา

พ.อ.ท.เสนอกล่าวว่า วันหยุดติดต่อกันหลายวันทหารคนอื่นพาลูกเมียไปเที่ยวปิกนิก ตนก็ไม่ได้ไป จนหลังๆ ภรรยาติดพนันมาก เอาทรัพย์สินเงินทองที่ตนให้ไปขาย ไปจำนำใช้หนี้พนันจนหมด ตนต้องไปไถ่ถอนมาเป็นประจำ จนครั้งสุดท้ายภรรยาได้นำทองหนัก 5 บาทที่ไปจำนำมาเล่นการพนันจนหมดและมาบอกว่าตนไปไถ่ถอนให้ ในใจตอนนั้นคิดว่าจะไปไถ่ถอนให้เป็นครั้งสุดท้ายจะไม่ทำให้อีกแล้ว

"เมียท้อง นอกใจมีชู้"


"วันเกิดเหตุผมวางแผนนัดภรรยามาที่บ้าน โดยบอกว่าผมจะกลับมากินข้าวเที่ยงที่บ้าน ซึ่งเป็นโอกาสที่ลูกทั้ง 2 คนไปเรียนหนังสือกันหมด ตอนนั้นได้รู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์ 8 เดือน โดยที่ผมไม่ได้มีเพศสัมพันธ์กับภรรยามาเป็นเวลาเกือบปีแล้วจึงรู้ว่าภรรยานอกใจ เมื่อภรรยายืนอยู่หน้าทีวี ผมจึงเดินไปหยิบค้อนที่ใต้บันไดที่อยู่ในบ้านมาทุบที่ท้ายทอยจนเสียชีวิตก่อนเอาศพใส่ถังใบใหญ่ ลากไปไว้อีกห้องหนึ่งแล้วใส่รถขับไปทิ้งที่ริมถนนห่างจากบ้านประมาณ 50-60 ก.ม. จากนั้นผมก็กลับบ้าน เก็บข้าวของหนีกลับเมืองไทย" พ.อ.ท.เสนอกล่าว

พ.อ.ท.เสนอกล่าวต่อว่า เมื่อกลับมาถึงเมืองไทยได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้พี่ชายฟัง แต่พี่ชายเปลี่ยนไปไม่สนใจ และไม่คิดว่าเราเป็นน้องแล้ว ตนจึงหนีไปหลบอยู่ตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ ครั้งแรกไปที่จ.เชียงราย แล้วก็ไปพิษณุโลก กำแพงเพชร สุโขทัย พิจิตร และเดินทางกลับมาที่พิษณุโลกอีกครั้ง โดยไม่ได้มีครอบครัวใหม่ ส่วนงานที่ทำก็จะเป็นลูกจ้างเขาทำป้ายโฆษณา ต่อมาคิดทำร้านของตนเอง มีเงินเก็บที่ได้มาจากที่ทำงานเป็นทหารประมาณ 3 ล้านบาทเก็บไว้ในแบงก์ พอไปเบิกก็เบิกไม่ได้ เพราะญาติพี่น้องไปแจ้งเป็นบุคคลสูญหายและมีการอายัดบัญชีไว้ สุดท้ายไม่รู้จะทำมาหากินอะไรก็ต้องออกเก็บฟืนเผาถ่านขาย เลี้ยงปากท้องไปวันๆ

"ยินดีรับโทษ"


"ผมอยู่ด้วยความทุกข์ทรมาน คิดฆ่าตัวตายหลายครั้ง ผมคิดว่าชีวิตของผมตายไปนานแล้วตั้งแต่วันที่ฆ่าภรรยา เวลาที่ใช้ชีวิตตอนนี้เหมือนเวลาที่เกินมาเท่านั้น ไม่มีความสุขอะไร คิดถึงลูกแต่ก็ไม่อยากพบเพราะกลัวว่าตำรวจจะจับได้ วันที่ลูกชายมาตามหาที่เมืองไทยก็ทราบจากข่าวแต่เมื่ออ่านข่าวก็พบว่าเขากลับไปแล้ว แต่ถึงเขายังอยู่ ผมก็คงไม่ไปพบ เพราะช่วยอะไรลูกไม่ได้ อยากให้ลูกเป็นคนอเมริกากันเต็มตัว" พ.อ.ท.เสนอกล่าวและว่า ไม่รู้ว่ามีการประกาศค่าหัวของตน 1 ล้านบาท แต่เมื่อตำรวจไปจับตนก็ไม่ได้ขัดขืน ตอนที่จับตำรวจบอกว่าเขื่อนที่สร้างไว้ 13 ปีได้ทลายลงแล้ว ซึ่งต้องขอขอบคุณตำรวจที่ไม่ใช้ความรุนแรง เป็นการจับกุมอย่างนุ่มนวล และตนก็พร้อมที่จะไปถูกดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการจับกุมครั้งนี้เนื่องมาจากมีประชาชนคนหนึ่งในอ.เมือง จ.พิษณุโลก ที่อ่านข่าวการติดตามจับพ.อ.ท.เสนอจากหนังสือพิมพ์ ซึ่งเอฟบีไอได้ทำรูปพรรณใบหน้าของพ.อ.ท.เสนอในแบบต่างๆ ว่าหน้าเหมือนพ่อค้าขายถ่านอยู่ในตลาดสดโคกมะตูม จึงติดต่อแจ้งข้อมูลให้ตำรวจสันติบาลทราบกระทั่งมีการจับกุมตัวพ.อ.ท.เสนอในที่สุด


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ข่าวสด

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์