จับ 2 ผัวเมียกงสุลบุกรุกป่า ฟอกเงินพันล้าน

"ดีเอสไอ"


ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ต.ค. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.อ.ปิยะวัฒก์ กิ่งเกตุ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมกันแถลงข่าวจับกุมตัวนายตัน เต็ก ไฮ้ หรือวาเลนติโน อายุ 56 ปี สัญชาติมาเลเซีย กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประเทศโมร็อกโกประจำจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ และนางสุวภัทรหรือสุดใจ คีรีพอน อายุ 41 ปี กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐจิบูติ ประจำประเทศไทย ภรรยา

อยู่บ้านเลขที่ 154 ถนนเทพกษัตรี ต.ตลาดใหญ่ อ.เมืองภูเก็ต ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 4234/2549 และ 4235/2549 ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานในการกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ และร่วมกันบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครองที่ดินของรัฐโดยมิได้มีสิทธิครอบครอง หรือมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยได้กระทำในเนื้อที่เกินกว่า 50 ไร่ ร่วมกันเข้าไปยึดถือครอบครองป่าเพื่อ ตนเองหรือผู้อื่น โดยได้กระทำเป็นเนื้อที่เกิน 25 ไร่ อันเป็นการกระทำผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายที่ดิน และพระราชบัญญัติป่าไม้ หลังจากร่วมกับพวกบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนใน อ.เกาะยาว จ.พังงา จำนวน 52 แปลง เนื้อที่กว่า 1,000 ไร่

"ฟอกเงิน"


พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ สืบเนื่องจาก พล.ต.อ.สมบัติ อมรวิวัฒน์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ดุษฎี อารยะวุฒิ ผบ.สำนักคดีเทคโนโลยีข้อมูลและการตรวจสอบ ลงพื้นที่ตรวจสอบการบุกรุกพื้นที่ป่าสาธารณะใน จ.สุราษฎร์ธานี พังงา ภูเก็ต และได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.วีระศิลป์ ขวัญเซ่ง ผกก.สภ.อ. เกาะยาว ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษเข้าไปดำเนินการตรวจสอบการบุกรุกที่ป่าสาธารณะบนเกาะยาว จ.พังงา เนื่องจากกรณีดังกล่าวมีความสลับซับซ้อน รวมทั้งมีเจ้าหน้าที่ของรัฐร่วมกระทำผิดกับผู้มีอิทธิพล ซึ่งเป็นตัวการสำคัญ อยู่เบื้องหลังการออกเอกสารสิทธิโดยมิชอบด้วยกฎหมาย สำหรับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน จับกุมตัวได้ในตัวเมืองภูเก็ต เมื่อค่ำวันที่ 26 ต.ค.ที่ผ่านมา ภายหลังสอบปากคำนานกว่า 6 ชั่วโมง ทั้งคู่ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา พร้อมกับยื่นหลักทรัพย์เงินสด 1.2 ล้านบาทประกันตัวออกไป

นอกจากนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษยังได้ออกหมาย จับนายกระจ่าง คีรีพอน นายบุญเลิศ คีรีพอน ญาติของนางสุวภัทร และนายตัน จี้ เคี้ยง หรือจี้เคียง แซ่ตั้ง นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ชาวมาเลเซีย และยังเป็นรองประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต ฝ่ายต่างประเทศ มาดำเนินคดีในข้อหาเดียวกัน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติด ตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี นับจากนี้ต่อไป ดีเอสไอจะประสานกับธนาคารแห่งประเทศไทย ตรวจสอบการปล่อยสินเชื่อของเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งพิจารณาดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ ตลอดจนประสานกรมที่ดิน เพิกถอนเอกสารสิทธิที่ดินแปลงดังกล่าว และสอบสวนคดีบุกรุกที่ดินบริเวณเกาะยาวอีกกว่า 4,000 ไร่

"กว้านซื้อที่ป่าสงวน"


สำหรับพฤติการณ์การกระทำความผิดของผู้ต้องหากลุ่มนี้ สืบเนื่องมาตั้งแต่ปี 2531 นายตัน จี้ เคี้ยง ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนี ได้กว้านซื้อที่ดินบริเวณบ้านอ่าวมะม่วง อ่าวกะพ้อ จากชาวบ้าน อ.เกาะยาว จ.พังงา ส่วนใหญ่เป็นที่ดินในเขตป่าสงวน มีความลาดชันเกิน 35 องศา ไม่มีเอกสารสิทธิ จากนั้นติดต่ออดีตนายช่างรังวัด สำนักงานที่ดินอำเภอเกาะยาวให้ออกเอกสารสิทธิ น.ส.3 ก. ต่อมา นายตัน จี้ เคี้ยง ได้ขยายกว้านซื้อที่ดินบริเวณอ่าวส้มเม่า อ่าวโต๊ะขี้หนู ซึ่งมีภูมิประเทศที่เป็นเขา หรือภูเขาและไม่มีเอกสารสิทธิ แล้วให้นายสหัส รักษาทรัพย์ กับบริษัทอุตสาหกรรมไทยโกโก้ จำกัด ของนายตัน จี้ เคี้ยง ถือครองที่ดินแทน

ต่อจากนั้น นายตัน จี้ เคี้ยง ได้ขายที่ดินดังกล่าวทั้งหมดให้แก่นายตัน เต็ก ไฮ้ หรือวาเลนติโน สัญชาติมาเลเซีย โดยมีนายวัฒนา วัฒนพานิช เป็นตัวแทนของนายตัน เต็ก ไฮ้ ก่อนที่จะโอนที่ดินดังกล่าวไปเป็นชื่อบริษัทจี้เลี้ยงการประมงภูเก็ต จำกัด และบริษัทวีเอจิวเวลรี่ จำกัด ของนายตัน เต็ก ไฮ้ โดยการซื้อขายนั้นเป็นเพียงการทำนิติกรรมอำพราง ไม่มีการซื้อขายกันจริง เสร็จแล้วกลุ่มผู้ต้องหาได้นำที่ดินดังกล่าวจำนวน 52 แปลง เนื้อที่กว่า 900 ไร่ ไปจำนองกับธนาคารพาณิชย์ 5 แห่ง 2 แห่ง ในจำนวนนี้ปิดกิจการไปแล้ว ในราคาที่สูงกว่าราคาประเมินถึง 5 เท่า ได้เงินมาเกือบ 1,000 ล้านบาท จากนั้นนำเงินไปฟอกเป็นกิจการจิวเวลรี่ในจังหวัดภูเก็ต 3 แห่ง กิจการโรงแรมและที่พัก รวมทั้งธุรกิจอื่นๆอีก เช่น ธุรกิจแลกเปลี่ยนเงินตรา และธุรกิจท่องเที่ยวเรือยอชต์ ก่อนจะปล่อยให้ที่ดินเหล่านี้กลายเป็นหนี้เน่า ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศเกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวง

"ให้ดีเอสไอตรวจสอบให้ดี"


ด้านนายตัน เต็ก ไฮ้ หรือวาเลนติโน กล่าวภายหลังสอบปากคำเสร็จสิ้นว่า รู้สึกสบายใจที่เข้าสู่ กระบวนการยุติธรรม ไม่รู้สึกโกรธดีเอสไอ แต่ตนอยู่ที่จังหวัดภูเก็ตมานานหลายปี พบว่ามีคนชื่อตันอีกมาก จึงขอให้ดีเอสไอตรวจสอบให้แน่ชัด เพราะตนเป็นเพียงผู้ซื้อที่ดิน เมื่อรู้ว่าเป็นที่ดินผิดกฎหมาย ก็ไม่ได้พัฒนาหรือขายต่อแต่อย่างใด

สำหรับนายตัน เต็ก ไฮ้ ได้รับการแต่งตั้งเป็นกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประเทศโมร็อกโก ประจำจังหวัดภูเก็ต พังงาและกระบี่ โดยมีอดีตรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นประธานเปิดที่ทำการกงสุลที่ จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 47 โดยที่ผ่านมานายตัน เต็ก ไฮ้ เป็นที่รู้จักของนักธุรกิจชาวมาเลเซียและชาวไทยในแถบอันดามันในนามวาเลนติโน ซึ่งจากแนวทางการสืบสวนยังพบว่า นายตัน เต็ก ไฮ้ มีสายสัมพันธ์กับอดีตรัฐมนตรีในรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณอีกหลายคน จนกระทั่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นางสุวภัทร คีรีพอน ภรรยาได้รับการแต่งตั้งเป็นกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐจิบูติประจำประเทศไทยอีกคน

"บุกรุกป่าสงวน"


นายจรัญ ภักดีธนากุล ปลัดกระทรวงยุติธรรม ให้สัมภาษณ์กรณีเจ้าหน้าที่กรมสอบสวนพิเศษ (ดีเอสไอ) จับกุมกงสุลกิตติมศักดิ์โมร็อกโกประจำประเทศไทยในข้อหาบุกรุกที่ดินป่าสงวนแห่งชาติเกาะยาว จ.พังงา ว่า เรื่องนี้ดีเอสไอทำไปตามครรลองที่ถูกต้อง โดย ผวจ. พังงาเป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษเอง ขณะที่ตำรวจในพื้นที่เห็นว่าเกินกำลังที่จะทำได้

เพราะเป็นการบุกรุกที่ดินรัฐจำนวนมาก และมีผู้มีอิทธิพลสูงเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งนักการเมืองท้องถิ่นและส่วนกลาง จึงเสนอเรื่องให้มาอยู่ในความรับผิดชอบของดีเอสไอ อย่างไรก็ตาม หลักฐานของดีเอสไอที่จะออกหมายจับขณะนี้ คงยังสาวไปไม่ถึงตัวนักการเมือง แต่ในรายงานนั้นมีเกี่ยวข้องแน่นอน ซึ่งดีเอสไอจะพยายามรวบรวมหลักฐานให้ได้มากที่สุด


แหล่งข้อมูล : หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

เครดิต :
 

ข่าวดารา ข่าวในกระแส บน Facebook อัพเดตไว เร็วทันใจ คลิกที่นี่!!
กระทู้เด็ดน่าแชร์